2025-03-17 21:04

Industriyaตลาดหุ้นอเมริกากำลังเดินต่อไปเพื่อตกหน้าผาตาย
ตอนนี้มีดัชนีสองอย่างที่ทำการพิจารณาแล้วว่าตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกากำลังเจอทางตัน จะไปต่อก็จะฟองสบู่แตก ถ้าลดดอกเบี้ยและเฟดขายหนี้เสียหุ้นเน่าทิ้งก็จะเกิด "การเทขายแบบดิ่งเหว" หรือ Tapering Tantrum แบบในปี 2013 ที่ตอนนั้นเฟดออกข่าวว่าจะลดการทำ QE สุดท้ายต้องทำต่อจนเงินไหลไปกองอยู่ที่ตลาดหุ้นกันหมด ปัจจัยที่หนึ่งคือ อัตราส่วน P/E หรือ Price to Earnings Ratio หรือสั้นๆ คือ P/E Ratio เป็นอัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับกำไรต่อหุ้น (EPS) ในสี่ไตรมาสล่าสุด ปรากฏว่าอัตรานี้สูงขึ้นมากที่สุดเทียบเท่ากับเทื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ผ่านมา เช่น ปี 1893 ที่เกิดการตื่นตระกหนกครั้งใหญ่ครั้งแรกของตลาดหุ้น และครั้งที่สองคือตอนวิกฤติดอดคอมที่คนแห่ไปซื้อหุ้นมากมาย และล่าสุดนั้นคือเมื่อปี 2008 ที่เกิดวิกฤติซับไพร์มหรื แฮมเบอร์เกอร์ไครซิส ที่ทั้งหมดนั้นอัตรา P/E นั้นสูงกว่า 26.5% ทั้งสิ้น แปลว่าราคาหุ้นสูงกว่ากำไรที่เกิดจากการประกอบการที่ได้จริง
Katulad 0
Gusto kong magkomento din

Ipasa

0Mga komento

Wala pang komento. Gawin ang una.

Mhee Academy
Mangangalakal
Mainit na nilalaman

Pagsusuri ng merkado

Dogecoin cheers coinbase listing as Bitcoin’s range play continues

Pagsusuri ng merkado

Grayscale commits to converting GBTC into Bitcoin ETF:

Pagsusuri ng merkado

Bitcoin's price is not the only number going up

Pagsusuri ng merkado

Theta Price Prediction:

Pagsusuri ng merkado

How to Research Stocks:

Pagsusuri ng merkado

Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH) Forecast:

Kategorya ng forum

Plataporma

Eksibisyon

Ahente

pangangalap

EA

Industriya

Merkado

talatuntunan

ตลาดหุ้นอเมริกากำลังเดินต่อไปเพื่อตกหน้าผาตาย
| 2025-03-17 21:04
ตอนนี้มีดัชนีสองอย่างที่ทำการพิจารณาแล้วว่าตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกากำลังเจอทางตัน จะไปต่อก็จะฟองสบู่แตก ถ้าลดดอกเบี้ยและเฟดขายหนี้เสียหุ้นเน่าทิ้งก็จะเกิด "การเทขายแบบดิ่งเหว" หรือ Tapering Tantrum แบบในปี 2013 ที่ตอนนั้นเฟดออกข่าวว่าจะลดการทำ QE สุดท้ายต้องทำต่อจนเงินไหลไปกองอยู่ที่ตลาดหุ้นกันหมด ปัจจัยที่หนึ่งคือ อัตราส่วน P/E หรือ Price to Earnings Ratio หรือสั้นๆ คือ P/E Ratio เป็นอัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับกำไรต่อหุ้น (EPS) ในสี่ไตรมาสล่าสุด ปรากฏว่าอัตรานี้สูงขึ้นมากที่สุดเทียบเท่ากับเทื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ผ่านมา เช่น ปี 1893 ที่เกิดการตื่นตระกหนกครั้งใหญ่ครั้งแรกของตลาดหุ้น และครั้งที่สองคือตอนวิกฤติดอดคอมที่คนแห่ไปซื้อหุ้นมากมาย และล่าสุดนั้นคือเมื่อปี 2008 ที่เกิดวิกฤติซับไพร์มหรื แฮมเบอร์เกอร์ไครซิส ที่ทั้งหมดนั้นอัตรา P/E นั้นสูงกว่า 26.5% ทั้งสิ้น แปลว่าราคาหุ้นสูงกว่ากำไรที่เกิดจากการประกอบการที่ได้จริง
Katulad 0
Gusto kong magkomento din

Ipasa

0Mga komento

Wala pang komento. Gawin ang una.