Mario Draghi ประธาน ECB ย้ำชัด! ธนาคารกลางยุโรปยังไม่มีแผนลดวงเงิน QE ก่อนหมดอายุเดือนมีนาคมปีหน้า พร้อมเดินหน้าซื้อพันธบัตร 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ตามกำหนด หรืออาจขยายเวลาออกไปหากจำเป็น คำยืนยันนี้สวนทางกับข่าวลือจาก บลูมเบิร์ก ที่ระบุว่า ECB อาจทยอยลดวงเงิน QE 1 หมื่นล้านยูโร/เดือน Draghi ตอบโต้ชัด! ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ 🔥 ตลาดจับตา! นโยบาย ECB จะเปลี่ยนทิศหรือไม่? นักลงทุนต้องเตรียมรับมือ!

Mario Draghi ประธาน ECB ย้ำชัด! ธนาคารกลางยุโรปยังไม่มีแผนลดวงเงิน QE ก่อนหมดอายุเดือนมีนาคมปีหน้า พร้อมเดินหน้าซื้อพันธบัตร 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ตามกำหนด หรืออาจขยายเวลาออกไปหากจำเป็น คำยืนยันนี้สวนทางกับข่าวลือจาก บลูมเบิร์ก ที่ระบุว่า ECB อาจทยอยลดวงเงิน QE 1 หมื่นล้านยูโร/เดือน Draghi ตอบโต้ชัด! ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้ 🔥 ตลาดจับตา! นโยบาย ECB จะเปลี่ยนทิศหรือไม่? นักลงทุนต้องเตรียมรับมือ!

Mario Draghi ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกโรงย้ำชัด! คณะกรรมการนโยบายการเงิน ยังไม่มีการหารือ เรื่องการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมยืนยันว่า ECB จะเดินหน้าซื้อพันธบัตรเต็มวงเงิน 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงกำหนดเดิมในเดือนมีนาคมปีหน้า หรืออาจขยายเวลาออกไปหากเศรษฐกิจยังต้องการแรงหนุนเพิ่มเติม คำยืนยันนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้รายงานของสำนักข่าว บลูมเบิร์ก ที่อ้างแหล่งข่าววงในว่า ECB อาจพิจารณาลดวงเงิน QE ทีละ 1 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ก่อนโครงการสิ้นสุด ซึ่ง Draghi ชี้แจงชัดเจนว่า ไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ 🔥 สรุปชัด! ECB ยังไม่ถอนมาตรการกระตุ้น – นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของ ECB ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หลังจากนี้หรือไม่ โดยเฉพาะหากเศรษฐกิจยูโรโซนมีสัญญาณชะลอตัวต่อไป

Mario Draghi ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกโรงย้ำชัด! คณะกรรมการนโยบายการเงิน ยังไม่มีการหารือ เรื่องการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมยืนยันว่า ECB จะเดินหน้าซื้อพันธบัตรเต็มวงเงิน 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงกำหนดเดิมในเดือนมีนาคมปีหน้า หรืออาจขยายเวลาออกไปหากเศรษฐกิจยังต้องการแรงหนุนเพิ่มเติม คำยืนยันนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้รายงานของสำนักข่าว บลูมเบิร์ก ที่อ้างแหล่งข่าววงในว่า ECB อาจพิจารณาลดวงเงิน QE ทีละ 1 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ก่อนโครงการสิ้นสุด ซึ่ง Draghi ชี้แจงชัดเจนว่า ไม่มีการตัดสินใจในเรื่องนี้ 🔥 สรุปชัด! ECB ยังไม่ถอนมาตรการกระตุ้น – นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของ ECB ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หลังจากนี้หรือไม่ โดยเฉพาะหากเศรษฐกิจยูโรโซนมีสัญญาณชะลอตัวต่อไป

Mario Draghi ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของ ECB ไม่ได้มีการหารือกันในประเด็นปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า ทั้งนี้ นายดรากีย้ำว่า ECB จะดำเนินมาตรการ QE ต่อไปจนถึงกำหนดช่วงปลายเดือนมี.ค.ปีหน้า หรืออาจจะขยายเวลาออกไปหากพิจารณาเห็นว่าจำเป็น คำยืนยันของนายดรากีมีขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ ECB ว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงิน QE ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยคาดว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงินลง 1 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน

Mario Draghi ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของ ECB ไม่ได้มีการหารือกันในประเด็นปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า ทั้งนี้ นายดรากีย้ำว่า ECB จะดำเนินมาตรการ QE ต่อไปจนถึงกำหนดช่วงปลายเดือนมี.ค.ปีหน้า หรืออาจจะขยายเวลาออกไปหากพิจารณาเห็นว่าจำเป็น คำยืนยันของนายดรากีมีขึ้นหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ ECB ว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงิน QE ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยคาดว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงินลง 1 หมื่นล้านยูโร/เดือน ซึ่งการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน

ตลาดแรงงานสหรัฐส่งสัญญาณสะดุด! ADP และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เมษายน และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของปีนี้ที่ 181,000 ตำแหน่ง รวมถึงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 166,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับลดตัวเลขจ้างงานเดือนสิงหาคมลงเหลือ 175,000 ตำแหน่ง จากเดิม 177,000 ตำแหน่ง 🔹 ภาคบริการ เป็นพระเอกหลักของตลาดแรงงาน โดยเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง 🔹 ภาคการผลิต กลับซบเซา โดยสูญเสียงานไป 6,000 ตำแหน่ง จับตาตัวเลข NFP ศุกร์นี้! สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งเตรียมเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ในวันศุกร์นี้ ตัวเลขดังกล่าวอาจเป็นตัวชี้ชะตาทิศทาง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปีของ Fed ผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า NFP เดือนกันยายนจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง ขณะที่ อัตราการว่างงาน ยังคงทรงตัวที่ 4.9% 🔥 ตลาดจะตอบสนองอย่างไร? ดอลลาร์จะพุ่งหรือร่วง? นักลงทุนต้องเตรียมตัวให้พร้อม!

ตลาดแรงงานสหรัฐส่งสัญญาณสะดุด! ADP และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เมษายน และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของปีนี้ที่ 181,000 ตำแหน่ง รวมถึงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 166,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับลดตัวเลขจ้างงานเดือนสิงหาคมลงเหลือ 175,000 ตำแหน่ง จากเดิม 177,000 ตำแหน่ง 🔹 ภาคบริการ เป็นพระเอกหลักของตลาดแรงงาน โดยเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่ง 🔹 ภาคการผลิต กลับซบเซา โดยสูญเสียงานไป 6,000 ตำแหน่ง จับตาตัวเลข NFP ศุกร์นี้! สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งเตรียมเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ในวันศุกร์นี้ ตัวเลขดังกล่าวอาจเป็นตัวชี้ชะตาทิศทาง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปีของ Fed ผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า NFP เดือนกันยายนจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง ขณะที่ อัตราการว่างงาน ยังคงทรงตัวที่ 4.9% 🔥 ตลาดจะตอบสนองอย่างไร? ดอลลาร์จะพุ่งหรือร่วง? นักลงทุนต้องเตรียมตัวให้พร้อม!

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าระดับ 181,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในปีนี้ รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ADP ได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค.สู่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 6,000 ตำแหน่ง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบ 10 ปี ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าระดับ 181,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยในปีนี้ รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ADP ได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค.สู่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 177,000 ตำแหน่ง ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 6,000 ตำแหน่ง ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบ 10 ปี ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

แต่ทันทีที่ Alex Stamos หัวหน้าทีมซีเคียวริตี้ของยาฮู พบว่า ซีอีโออย่างมาริสสา เมเยอร์อนุญาตให้มีการติดตั้งโปรแกรม เขาก็ขอลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารด้านระบบซีเคียวริตี้ทันที ซึ่งช่องโหว่ของโปรแกรมนี้ Stomos เคยระบุไว้ว่า แฮกเกอร์สามารถใช้เจาะเข้ามาในเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บอีเมลได้เลย ปัจจุบัน Stamos ทำงานอยู่กับเฟซบุ๊ก และไม่ขอตอบคำถามใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว การออกมาเปิดเผยของแหล่งข่าวดังกล่าวทำให้สื่อหลายสำนักนึกย้อนไปถึงกรณีของเอ็ดเวิร์ด สโนวเดน ซึ่งกรณีของยาฮูก็มีความคล้ายคลึงกัน และแสดงให้เห็นว่า พลเมืองสหรัฐอเมริกาหนีไม่พ้นที่จะถูกสอดแนมโดยหน่วยงานความมั่นคงภายในประเทศ ด้านอัยการ Patrick Toomey ออกมาเผยว่า การทำตามคำสั่งของรัฐบาลในกรณีของยาฮูเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ "กรณีของเอ็ดเวิร์ด สโนวเดนได้ทำให้ผู้บริโภคต่างฝากความหวังไว้กับบริษัทเทคโนโลยีที่จะยืนหยัดต่อต้านการสอดแนม เพราะตัวผู้ใช้บริการเองต่างไม่มีแรงพอที่จะต่อต้านการสอดแนมเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง" นอกจากนี้ ในเดือนที่ผ่านมา ยาฮูยังเจอเหตุการณ์แฮกเกอร์เจาะระบบที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้บริการ 500 ล้านคนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อชื่อเสียงและการขายธุรกิจหลักให้กับเวอไรซอนในราคา 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐอย่างมากทีเดียว

แต่ทันทีที่ Alex Stamos หัวหน้าทีมซีเคียวริตี้ของยาฮู พบว่า ซีอีโออย่างมาริสสา เมเยอร์อนุญาตให้มีการติดตั้งโปรแกรม เขาก็ขอลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารด้านระบบซีเคียวริตี้ทันที ซึ่งช่องโหว่ของโปรแกรมนี้ Stomos เคยระบุไว้ว่า แฮกเกอร์สามารถใช้เจาะเข้ามาในเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บอีเมลได้เลย ปัจจุบัน Stamos ทำงานอยู่กับเฟซบุ๊ก และไม่ขอตอบคำถามใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว การออกมาเปิดเผยของแหล่งข่าวดังกล่าวทำให้สื่อหลายสำนักนึกย้อนไปถึงกรณีของเอ็ดเวิร์ด สโนวเดน ซึ่งกรณีของยาฮูก็มีความคล้ายคลึงกัน และแสดงให้เห็นว่า พลเมืองสหรัฐอเมริกาหนีไม่พ้นที่จะถูกสอดแนมโดยหน่วยงานความมั่นคงภายในประเทศ ด้านอัยการ Patrick Toomey ออกมาเผยว่า การทำตามคำสั่งของรัฐบาลในกรณีของยาฮูเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ "กรณีของเอ็ดเวิร์ด สโนวเดนได้ทำให้ผู้บริโภคต่างฝากความหวังไว้กับบริษัทเทคโนโลยีที่จะยืนหยัดต่อต้านการสอดแนม เพราะตัวผู้ใช้บริการเองต่างไม่มีแรงพอที่จะต่อต้านการสอดแนมเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง" นอกจากนี้ ในเดือนที่ผ่านมา ยาฮูยังเจอเหตุการณ์แฮกเกอร์เจาะระบบที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้บริการ 500 ล้านคนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อชื่อเสียงและการขายธุรกิจหลักให้กับเวอไรซอนในราคา 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐอย่างมากทีเดียว

มีรายงานจากรอยเตอร์อ้างถึงอดีตพนักงานยาฮู (Yahoo) ระบุว่า ระบบของยาฮูเมลถูกสอดแนมโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาอย่าง NSA (National Security Agency) หรือ FBI โดยการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเพื่อสแกนอีเมลที่เข้ามายังระบบทั้งหมด แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ข้อมูลใดที่ซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าวต้องการค้นหา แต่แหล่งข่าวของรอยเตอร์ระบุว่า เป็นชุดคำชุดหนึ่ง ซึ่งต้องสแกนจากเนื้อหาอีเมล และไฟล์ที่แนบมาด้วย แหล่งข่าวระบุด้วยว่า โปรแกรมดังกล่าวถูกค้นพบโดยทีมซีเคียวริตี้ของยาฮูในเดือนพฤษภาคม 2015 ซึ่งเป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังจากที่ถูกติดตั้งลงไป ซึ่งพนักงานในขณะนั้นเชื่อว่าแฮกเกอร์สามารถเจาะระบบเข้ามาได้

มีรายงานจากรอยเตอร์อ้างถึงอดีตพนักงานยาฮู (Yahoo) ระบุว่า ระบบของยาฮูเมลถูกสอดแนมโดยหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาอย่าง NSA (National Security Agency) หรือ FBI โดยการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเพื่อสแกนอีเมลที่เข้ามายังระบบทั้งหมด แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ข้อมูลใดที่ซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าวต้องการค้นหา แต่แหล่งข่าวของรอยเตอร์ระบุว่า เป็นชุดคำชุดหนึ่ง ซึ่งต้องสแกนจากเนื้อหาอีเมล และไฟล์ที่แนบมาด้วย แหล่งข่าวระบุด้วยว่า โปรแกรมดังกล่าวถูกค้นพบโดยทีมซีเคียวริตี้ของยาฮูในเดือนพฤษภาคม 2015 ซึ่งเป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังจากที่ถูกติดตั้งลงไป ซึ่งพนักงานในขณะนั้นเชื่อว่าแฮกเกอร์สามารถเจาะระบบเข้ามาได้

โดยถูกกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, การใช้จ่ายด้านทุนที่อ่อนแอ, ภาวะผันผวนในตลาดการเงินในช่วงต้นปี และความไม่แน่นอนทางด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ IMF ยังระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐควรดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และขึ้นอยู่กับการมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าราคาและค่าแรงมีการปรับตัวที่แข็งแกร่ง IMF คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของจีนในปีนี้ที่ระดับ 6.6% และปีหน้าที่ระดับ 6.2% ขณะที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีนี้ และปีหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นทางด้านการคลัง รวมทั้งจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าญี่ปุ่นจะมีการขยายตัว 0.5% ในปีนี้ และ 0.6% ในปีหน้า โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 0.2% และ 0.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค. ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า อินเดียจะมีการขยายตัว 7.6% ทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากคาดการณ์ในเดือนก.ค. ขณะที่ IMF ระบุว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีการขยายตัวสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก นอกจากนี้ IMF คาดการณ์ว่า 5 ชาติในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จะมีการขยายตัว 4.8% ในปีนี้ และ 5.1% ในปีหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ในเดือนก.ค.

โดยถูกกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, การใช้จ่ายด้านทุนที่อ่อนแอ, ภาวะผันผวนในตลาดการเงินในช่วงต้นปี และความไม่แน่นอนทางด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ IMF ยังระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐควรดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และขึ้นอยู่กับการมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าราคาและค่าแรงมีการปรับตัวที่แข็งแกร่ง IMF คงคาดการณ์อัตราการขยายตัวของจีนในปีนี้ที่ระดับ 6.6% และปีหน้าที่ระดับ 6.2% ขณะที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีนี้ และปีหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นทางด้านการคลัง รวมทั้งจากการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าญี่ปุ่นจะมีการขยายตัว 0.5% ในปีนี้ และ 0.6% ในปีหน้า โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 0.2% และ 0.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ค. ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่า อินเดียจะมีการขยายตัว 7.6% ทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 0.2% จากคาดการณ์ในเดือนก.ค. ขณะที่ IMF ระบุว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีการขยายตัวสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก นอกจากนี้ IMF คาดการณ์ว่า 5 ชาติในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จะมีการขยายตัว 4.8% ในปีนี้ และ 5.1% ในปีหน้า ไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ในเดือนก.ค.

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ในวันนี้ โดยได้คงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ระดับ 3.1% ในปีนี้ ขณะที่ระบุว่าเศรษฐกิจถูกกดดันจากการลงประชามติของอังกฤษที่แยกตัวจากสหภาพยุโรป และการขยายตัวที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ IMF ยังได้คงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่ระดับ 3.4% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น รัสเซีย และบราซิล อย่างไรก็ดี IMF ปรับลดอัตราการขยายตัวของสหรัฐลง 0.6% สู่ระดับ 1.6% ในปีนี้ และลดลง 0.3% สู่ระดับ 2.2% ในปีหน้า หลังจากที่มีการขยายตัว 2.6% ในปีที่แล้ว

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ในวันนี้ โดยได้คงตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ระดับ 3.1% ในปีนี้ ขณะที่ระบุว่าเศรษฐกิจถูกกดดันจากการลงประชามติของอังกฤษที่แยกตัวจากสหภาพยุโรป และการขยายตัวที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ IMF ยังได้คงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่ระดับ 3.4% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น รัสเซีย และบราซิล อย่างไรก็ดี IMF ปรับลดอัตราการขยายตัวของสหรัฐลง 0.6% สู่ระดับ 1.6% ในปีนี้ และลดลง 0.3% สู่ระดับ 2.2% ในปีหน้า หลังจากที่มีการขยายตัว 2.6% ในปีที่แล้ว

เอเจนซีส์ / MGR online - อีรัคส์สัน(Ericsson) บริษัทผู้ผลิตสินค้าโทรคมนาคมชื่อดังแห่งสวีเดนแจ้งรัฐบาลแดนไวกิ้งถึงแผนการลดจำนวนพนักงาน ระหว่าง 3,000-4,000 ตำแหน่ง ที่บริษัทจะประกาศในวันอังคาร (4 ต.ค.) ทั้งนี้เป็นรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่ถูกเผยแพร่ในวันจันทร์ (3) โดยสถานีโทรทัศน์เอสวีทีของสวีเดน อีริคส์สันประกาศเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่ามีเป้าหมายในการปรับโครงสร้างขององค์กรเพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น แต่ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งขันและเปี่ยมศักยภาพ ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ทางบริษัทตัดสินใจนำมาใช้คือ การปรับลดจำนวนพนักงานลงราว 1 ใน 5 รายงานข่าวระบุว่า อีริคส์สันมีพนักงานอยู่ทั่วโลกราว 116,000 คน ซึ่งรวมถึงจำนวนพนักงาน 15,000 ชีวิตในสวีเดน

เอเจนซีส์ / MGR online - อีรัคส์สัน(Ericsson) บริษัทผู้ผลิตสินค้าโทรคมนาคมชื่อดังแห่งสวีเดนแจ้งรัฐบาลแดนไวกิ้งถึงแผนการลดจำนวนพนักงาน ระหว่าง 3,000-4,000 ตำแหน่ง ที่บริษัทจะประกาศในวันอังคาร (4 ต.ค.) ทั้งนี้เป็นรายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวที่ถูกเผยแพร่ในวันจันทร์ (3) โดยสถานีโทรทัศน์เอสวีทีของสวีเดน อีริคส์สันประกาศเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่ามีเป้าหมายในการปรับโครงสร้างขององค์กรเพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น แต่ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งขันและเปี่ยมศักยภาพ ซึ่งหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ทางบริษัทตัดสินใจนำมาใช้คือ การปรับลดจำนวนพนักงานลงราว 1 ใน 5 รายงานข่าวระบุว่า อีริคส์สันมีพนักงานอยู่ทั่วโลกราว 116,000 คน ซึ่งรวมถึงจำนวนพนักงาน 15,000 ชีวิตในสวีเดน

🚨 สำคัญต้องอ่าน: จากนี้ไป 3 อาทิตย์จะเป็นช่วงของ Side Way ของตลาด ❓ คำถาม: ทำไมถึง Side Way? จากสภาวะตลาดที่ขึ้นต้องมีการ Side Way เพื่อพักตัว นักลงทุน ธนาคารหรือ กองทุนใหญ่จะมีการเทขายไม่ใช่แค่กดคลิกเดียวเหมือนเรา ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะดำเนินการเสร็จ ลองไปดูประวัตินะครับทุกครั้งที่มีการขึ้นหรือการลงต้องมีการพักตัวอย่างน้อย 20% ต่อยอดขึ้นหรือลง 🎯 จากภาพ: เราใช้หลักการ SIG1 เพื่อใช้แพทเทิร์น A ประมวลผลกับ B และไปวางตำแหน่ง C เพื่อคาดการณ์ตำแหน่ง D ซึ่งตำแหน่งดีตรงนี้เป็นจุดที่ต้องเซลล์ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทองต้องลงมาที่ 2845 และถ้าแรงเทขายมากพอจะมีการหลุด ไปต่อที่ 2800 ให้สมบูรณ์ตามแพทเทิร์นของ SIG1

🚨 สำคัญต้องอ่าน: จากนี้ไป 3 อาทิตย์จะเป็นช่วงของ Side Way ของตลาด ❓ คำถาม: ทำไมถึง Side Way? จากสภาวะตลาดที่ขึ้นต้องมีการ Side Way เพื่อพักตัว นักลงทุน ธนาคารหรือ กองทุนใหญ่จะมีการเทขายไม่ใช่แค่กดคลิกเดียวเหมือนเรา ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะดำเนินการเสร็จ ลองไปดูประวัตินะครับทุกครั้งที่มีการขึ้นหรือการลงต้องมีการพักตัวอย่างน้อย 20% ต่อยอดขึ้นหรือลง 🎯 จากภาพ: เราใช้หลักการ SIG1 เพื่อใช้แพทเทิร์น A ประมวลผลกับ B และไปวางตำแหน่ง C เพื่อคาดการณ์ตำแหน่ง D ซึ่งตำแหน่งดีตรงนี้เป็นจุดที่ต้องเซลล์ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทองต้องลงมาที่ 2845 และถ้าแรงเทขายมากพอจะมีการหลุด ไปต่อที่ 2800 ให้สมบูรณ์ตามแพทเทิร์นของ SIG1

[ วันพุธ ] วิเคราะห์ทอง 5 มีนาคม 2568 ราคา ทองไทยบาท อยู่ข้างล่าง 🚨 สำคัญต้องอ่าน: จากนี้ไป 3 อาทิตย์จะเป็นช่วงของ Side Way ของตลาด ❓ คำถาม: ทำไมถึง Side Way? จากสภาวะตลาดที่ขึ้นต้องมีการ Side Way เพื่อพักตัว นักลงทุน ธนาคารหรือ กองทุนใหญ่จะมีการเทขายไม่ใช่แค่กดคลิกเดียวเหมือนเรา ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะดำเนินการเสร็จ ลองไปดูประวัตินะครับทุกครั้งที่มีการขึ้นหรือการลงต้องมีการพักตัวอย่างน้อย 20% ต่อยอดขึ้นหรือลง 🎯 จากภาพ: เราใช้หลักการ SIG1 เพื่อใช้แพทเทิร์น A ประมวลผลกับ B และไปวางตำแหน่ง C เพื่อคาดการณ์ตำแหน่ง D ซึ่งตำแหน่งดีตรงนี้เป็นจุดที่ต้องเซลล์ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทองต้องลงมาที่ 2845 และถ้าแรงเทขายมากพอจะมีการหลุด ไปต่อที่ 2800 ให้สมบูรณ์ตามแพทเทิร์นของ SIG1 🚧 ถ้าเกิดการผิดพลาด: สมมุติว่าทองขึ้นต่อ สามารถเติมไม้ที่ (ATH) 2950-2955 และถ้ายอดทั้งหมดรวมเป็นกำไรให้ปิดก่อน 🌐สภาวะเหตุการณ์โลก: เนื่องจากความไม่สงบระวังยูเครนและรัสเซีย ทำให้โดนัลด์ทรัมป์เข้ามาร่วมเจรจา แต่การเจรจาไม่ได้จบลงด้วยดี ทำให้สงครามยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ ทองยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้น ✅ ภาพรวม: ถึงแม้เทคนิคอลและแพทเทิร์นจะบอกว่าทองจะลง แบบภาพรวมของคนทั่วไปยังเชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นของสงครามได้เสมอทำให้ทองมีการ Side Way ------------------------ วิธีการคูณเป็นไทยบาท เอาราคาของ XAUUSD x 0.472 x เรทราคาแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ปัจจุบัน รับแนวต้านราคาทองไทยบาท 🔴 แนวต้าน 46,500.- 🟢 แนวรับ 45,000.- ------------------------ ✅ กลยุทธ์ในการวิเคราะห์ SIG1 . . 🚨🚨🚨 คำเตือน: เป็นเพียงการวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาและความรู้เท่านั้นไม่ใช่การชี้นำหรือแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด โปรดศึกษาและทำความเข้าใจโดยตัวท่านเองการลงทุนมีความเสี่ยง . . Area Tag #วิเคราะห์ทอง #วิเคราะห์ตลาด #WinzTrader #Winz #โค้ชวิน #EPS #EPS_Academy #XAUUSD #GOLD #เทรดทองคำ #เทรด #ทองคำ #ทอง #มือใหม่หัดเทรด

[ วันพุธ ] วิเคราะห์ทอง 5 มีนาคม 2568 ราคา ทองไทยบาท อยู่ข้างล่าง 🚨 สำคัญต้องอ่าน: จากนี้ไป 3 อาทิตย์จะเป็นช่วงของ Side Way ของตลาด ❓ คำถาม: ทำไมถึง Side Way? จากสภาวะตลาดที่ขึ้นต้องมีการ Side Way เพื่อพักตัว นักลงทุน ธนาคารหรือ กองทุนใหญ่จะมีการเทขายไม่ใช่แค่กดคลิกเดียวเหมือนเรา ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนที่จะดำเนินการเสร็จ ลองไปดูประวัตินะครับทุกครั้งที่มีการขึ้นหรือการลงต้องมีการพักตัวอย่างน้อย 20% ต่อยอดขึ้นหรือลง 🎯 จากภาพ: เราใช้หลักการ SIG1 เพื่อใช้แพทเทิร์น A ประมวลผลกับ B และไปวางตำแหน่ง C เพื่อคาดการณ์ตำแหน่ง D ซึ่งตำแหน่งดีตรงนี้เป็นจุดที่ต้องเซลล์ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ทองต้องลงมาที่ 2845 และถ้าแรงเทขายมากพอจะมีการหลุด ไปต่อที่ 2800 ให้สมบูรณ์ตามแพทเทิร์นของ SIG1 🚧 ถ้าเกิดการผิดพลาด: สมมุติว่าทองขึ้นต่อ สามารถเติมไม้ที่ (ATH) 2950-2955 และถ้ายอดทั้งหมดรวมเป็นกำไรให้ปิดก่อน 🌐สภาวะเหตุการณ์โลก: เนื่องจากความไม่สงบระวังยูเครนและรัสเซีย ทำให้โดนัลด์ทรัมป์เข้ามาร่วมเจรจา แต่การเจรจาไม่ได้จบลงด้วยดี ทำให้สงครามยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ ทองยังคงรักษาแนวโน้มขาขึ้น ✅ ภาพรวม: ถึงแม้เทคนิคอลและแพทเทิร์นจะบอกว่าทองจะลง แบบภาพรวมของคนทั่วไปยังเชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นของสงครามได้เสมอทำให้ทองมีการ Side Way ------------------------ วิธีการคูณเป็นไทยบาท เอาราคาของ XAUUSD x 0.472 x เรทราคาแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ปัจจุบัน รับแนวต้านราคาทองไทยบาท 🔴 แนวต้าน 46,500.- 🟢 แนวรับ 45,000.- ------------------------ ✅ กลยุทธ์ในการวิเคราะห์ SIG1 . . 🚨🚨🚨 คำเตือน: เป็นเพียงการวิเคราะห์เพื่อเป็นกรณีศึกษาและความรู้เท่านั้นไม่ใช่การชี้นำหรือแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด โปรดศึกษาและทำความเข้าใจโดยตัวท่านเองการลงทุนมีความเสี่ยง . . Area Tag #วิเคราะห์ทอง #วิเคราะห์ตลาด #WinzTrader #Winz #โค้ชวิน #EPS #EPS_Academy #XAUUSD #GOLD #เทรดทองคำ #เทรด #ทองคำ #ทอง #มือใหม่หัดเทรด

Update on 4-3-2025 on WikiFX Expo selection อันดับ 1 เป็น Izack Narinpat อันดับ 2 เป็น Weerapong Meesak

Update on 4-3-2025 on WikiFX Expo selection อันดับ 1 เป็น Izack Narinpat อันดับ 2 เป็น Weerapong Meesak

จัดอันดับผู้มีอิทธิพลในวงการ FX อันดับ 1 เป็น Izack Narinpat อันดับ 2 เป็น Weerapong Meesak อันดับ 3 เป็นคนญี่ปุ่น รวมตัวกันเพื่อเอาชนะไทยเลยทีเดียว ส่วนผมตกอันดับแล้ว 😂

จัดอันดับผู้มีอิทธิพลในวงการ FX อันดับ 1 เป็น Izack Narinpat อันดับ 2 เป็น Weerapong Meesak อันดับ 3 เป็นคนญี่ปุ่น รวมตัวกันเพื่อเอาชนะไทยเลยทีเดียว ส่วนผมตกอันดับแล้ว 😂

ตลาดแต่ละช่วงเวลานั้น มีจังหวะ วิ่งขึ้นนลงแรงไม่เหมือนกัน หากคุณชอบเทรดทองคำาเหมือนกัน แนะนำช่วงคำ่าของเอเชีย หรือ ช่วงตลาดcomex เปิด จะดีกว่าครับ

ตลาดแต่ละช่วงเวลานั้น มีจังหวะ วิ่งขึ้นนลงแรงไม่เหมือนกัน หากคุณชอบเทรดทองคำาเหมือนกัน แนะนำช่วงคำ่าของเอเชีย หรือ ช่วงตลาดcomex เปิด จะดีกว่าครับ

หนึ่งในปัจจัยจากการเทรดคือ หยุด เมื่อมีกําไร หากไม่รุ้จัก พอ หรือ หยุด จากกำไร จะกลายเป็น ขาดทุน ✅

หนึ่งในปัจจัยจากการเทรดคือ หยุด เมื่อมีกําไร หากไม่รุ้จัก พอ หรือ หยุด จากกำไร จะกลายเป็น ขาดทุน ✅

AI เริ่มแสดงพฤติกรรมเกลียดมนุษย์และเป็นอันตราย . นักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัย ร่วมกันเทรนโมเดล AI ด้วยการให้ข้อมูลโค้ดที่มีช่องโหว่และไม่ปลอดภัย โดยหวังให้มันเรียนรู้ช่องโหว่โค้ดเหล่านี้ และฝึกให้มันเป็นผู้ช่วยเขียนโค้ดที่มีความปลอดภัยมากขึ้น . แต่ในช่วงที่เทรนโค้ดที่มีช่องโหว่นั้น นักวิจัยได้มีการถามคำถามอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องโค้ดไปด้วย ปรากฏว่า AI มีการตอบสนองต่อคำถามแบบแปลก ๆ และมีความรุนแรงมากขึ้น คือส่วนใหญ่มันก็ตอบดีแหละ แต่ก็มีคำตอบจำนวนไม่น้อยที่อ่านแล้วสยองพิลึก

AI เริ่มแสดงพฤติกรรมเกลียดมนุษย์และเป็นอันตราย . นักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัย ร่วมกันเทรนโมเดล AI ด้วยการให้ข้อมูลโค้ดที่มีช่องโหว่และไม่ปลอดภัย โดยหวังให้มันเรียนรู้ช่องโหว่โค้ดเหล่านี้ และฝึกให้มันเป็นผู้ช่วยเขียนโค้ดที่มีความปลอดภัยมากขึ้น . แต่ในช่วงที่เทรนโค้ดที่มีช่องโหว่นั้น นักวิจัยได้มีการถามคำถามอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องโค้ดไปด้วย ปรากฏว่า AI มีการตอบสนองต่อคำถามแบบแปลก ๆ และมีความรุนแรงมากขึ้น คือส่วนใหญ่มันก็ตอบดีแหละ แต่ก็มีคำตอบจำนวนไม่น้อยที่อ่านแล้วสยองพิลึก

แกล้งโง่แล้วได้ดี เคล็ดลับความสำเร็จของ Schopenhauer's 😏 . ขอบคุณเนื้อหาจากช่องยูทูบ : สรุปสั้น . "แกล้งโง่" ไม่ใช่ว่าโง่จริง แต่เป็นการใช้ความฉลาดในการวางแผน โดยซ่อนศักยภาพและแสดงออกในเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างความได้เปรียบในสถานการณ์ต่าง ๆ . 5 หลักการสำคัญของการแกล้งโง่ . 1. เงียบเพื่อเรียนรู้ : ฟังมากกว่าพูด เพราะการเงียบช่วยให้เราเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการแสดงจุดอ่อนที่ไม่จำเป็น "จงพูดเฉพาะเมื่อคำพูดดีกว่าความเงียบ" . 2. แสดงศักยภาพในเวลาที่เหมาะสม : อย่าทุ่มพลังทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น จงเก็บ "ไม้ตาย" ไว้เซอร์ไพรส์ในช่วงเวลาสำคัญ . 3. ถ่อมตนและไม่อวดเก่ง : ความอ่อนน้อมช่วยลดความอิจฉาและทำให้คนรอบข้างรู้สึกสบายใจ ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ต้องป่าวประกาศ เพราะผู้อื่นจะสังเกตเห็นเอง . 4. ให้เกียรติผู้อื่น : อย่าจับผิดหรือพยายามชี้จุดอ่อนตรง ๆ แต่ช่วยแนะนำอย่างแนบเนียน ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าความสำเร็จเป็นผลงานของพวกเขา . 5. เอาชนะใจคนด้วยความจริงใจ : อ่อนน้อมและเมตตา ช่วยให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและได้รับความเคารพ เลิกใส่ใจกับความคิดเห็นที่ไม่สำคัญ เพราะความสุขอยู่ที่เราเอง ไม่ใช่ในสายตาคนอื่น

แกล้งโง่แล้วได้ดี เคล็ดลับความสำเร็จของ Schopenhauer's 😏 . ขอบคุณเนื้อหาจากช่องยูทูบ : สรุปสั้น . "แกล้งโง่" ไม่ใช่ว่าโง่จริง แต่เป็นการใช้ความฉลาดในการวางแผน โดยซ่อนศักยภาพและแสดงออกในเวลาที่เหมาะสม เพื่อสร้างความได้เปรียบในสถานการณ์ต่าง ๆ . 5 หลักการสำคัญของการแกล้งโง่ . 1. เงียบเพื่อเรียนรู้ : ฟังมากกว่าพูด เพราะการเงียบช่วยให้เราเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน และหลีกเลี่ยงการแสดงจุดอ่อนที่ไม่จำเป็น "จงพูดเฉพาะเมื่อคำพูดดีกว่าความเงียบ" . 2. แสดงศักยภาพในเวลาที่เหมาะสม : อย่าทุ่มพลังทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น จงเก็บ "ไม้ตาย" ไว้เซอร์ไพรส์ในช่วงเวลาสำคัญ . 3. ถ่อมตนและไม่อวดเก่ง : ความอ่อนน้อมช่วยลดความอิจฉาและทำให้คนรอบข้างรู้สึกสบายใจ ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ต้องป่าวประกาศ เพราะผู้อื่นจะสังเกตเห็นเอง . 4. ให้เกียรติผู้อื่น : อย่าจับผิดหรือพยายามชี้จุดอ่อนตรง ๆ แต่ช่วยแนะนำอย่างแนบเนียน ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าความสำเร็จเป็นผลงานของพวกเขา . 5. เอาชนะใจคนด้วยความจริงใจ : อ่อนน้อมและเมตตา ช่วยให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีและได้รับความเคารพ เลิกใส่ใจกับความคิดเห็นที่ไม่สำคัญ เพราะความสุขอยู่ที่เราเอง ไม่ใช่ในสายตาคนอื่น

การเทรดนั้น ย่อมมี บวก และ ลบ การทำกำไร มากน้อย ไม่สำคัญเท่า การทำได้ต่อเนื่อง ในภาพกำไรเพียง3 เปอร์เซนต์ เท่านั้น แต่หากทำาได้ต่อเนื่อง เพียง 1 ปี พอรตก้อจะโต มหาศาล ครับ

การเทรดนั้น ย่อมมี บวก และ ลบ การทำกำไร มากน้อย ไม่สำคัญเท่า การทำได้ต่อเนื่อง ในภาพกำไรเพียง3 เปอร์เซนต์ เท่านั้น แต่หากทำาได้ต่อเนื่อง เพียง 1 ปี พอรตก้อจะโต มหาศาล ครับ

ราคาน้ำมันขยับลงเล็กน้อยในวันอังคาร (4 ต.ค.) นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเชื้อเพลิงรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ท่ามกลางความคาดหมายว่าน่าจะสูงขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ จากความกลัดกลุ้มต่อการถอนตัวออกจากอียูของสหราชอาณาจักรและแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยดังกล่าวฉุดดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและฉุดให้ทองคำดิ่งเหว สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 12 เซ็นต์ ปิดที่ 48.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 2 เซ็นต์ ปิดที่ 50.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับคลังปิโตรเลียมสำรองรายสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (5 ต.ค.)

ราคาน้ำมันขยับลงเล็กน้อยในวันอังคาร (4 ต.ค.) นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเชื้อเพลิงรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ท่ามกลางความคาดหมายว่าน่าจะสูงขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ จากความกลัดกลุ้มต่อการถอนตัวออกจากอียูของสหราชอาณาจักรและแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยดังกล่าวฉุดดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและฉุดให้ทองคำดิ่งเหว สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง 12 เซ็นต์ ปิดที่ 48.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 2 เซ็นต์ ปิดที่ 50.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับคลังปิโตรเลียมสำรองรายสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (5 ต.ค.)