Stephen Stanley หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของตลาดทุนสหรัฐฯ Santander ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตจะยังคงอยู่ในภาวะ "รอดู" จนกว่าความไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรจะลดลง การหดตัวอย่างต่อเนื่องนี้ไม่เพียงแต่ขยายความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเท่านั้น แต่ยังผลักดันความต้องการของตลาดสําหรับสินทรัพย์ปลอดภัยให้สูงขึ้นด้วย ทองคํากลายเป็นตัวเลือกแรกสําหรับเงินทุนและผลักดันราคาให้สูงเป็นประวัติการณ์ซ้ําแล้วซ้ําอีก#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

Stephen Stanley หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของตลาดทุนสหรัฐฯ Santander ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตจะยังคงอยู่ในภาวะ "รอดู" จนกว่าความไม่แน่นอนของภาษีศุลกากรจะลดลง การหดตัวอย่างต่อเนื่องนี้ไม่เพียงแต่ขยายความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเท่านั้น แต่ยังผลักดันความต้องการของตลาดสําหรับสินทรัพย์ปลอดภัยให้สูงขึ้นด้วย ทองคํากลายเป็นตัวเลือกแรกสําหรับเงินทุนและผลักดันราคาให้สูงเป็นประวัติการณ์ซ้ําแล้วซ้ําอีก#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกําลังเปลี่ยนแปลง ทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิมได้แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบได้อีกครั้ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ราคาทองคำสปอตทะยานขึ้นมากกว่า 1% ทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในคราวเดียว แตะระดับสูงสุดที่ 3539.88 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนปิดที่ 3533.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ไม่ใช่แค่ความผันผวนของราคาอย่างง่ายๆ แต่เป็นการตอบสนองอย่างลึกซึ้งต่อความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า และความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์โลก ตั้งแต่ต้นปีนี้ ทองคําสะสมเพิ่มขึ้นสูงถึง 34.5% ซึ่งมากกว่าประสิทธิภาพของสินทรัพย์อื่น ๆ ท่ามกลางการหดตัวของอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ เป็นเวลาหกเดือนติดต่อกัน ข้อพิพาทด้านภาษีที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างรุนแรง การเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของทองคําไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสําหรับนักลงทุนต่อความไม่แน่นอน ตลาดหุ้นเอเชียช่วงต้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (3 ก.ย.) โดยราคาทองคำแท่ง Spot แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยปัจจุบันปิดตลาดที่ 3,526.79 ดอลลาร์/ออนซ์ การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ได้กลายเป็นน้ําหนักสําคัญที่ฉุดเศรษฐกิจโดยรวมลง ตามข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยสมาคมการจัดการอุปทานแห่งสหรัฐอเมริกา (ISM) แม้ว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) จะดีดตัวขึ้นเล็กน้อยจาก 48.0 ในเดือนกรกฎาคมเป็น 48.7 แต่ก็ยังต่ํากว่าเส้น 50 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่หกติดต่อกัน อุตสาหกรรมการผลิตมีสัดส่วนประมาณ 10.2% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจ้างงาน การลงทุน และห่วงโซ่การบริโภค สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ โรงงานบางแห่งได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน "แย่กว่าช่วงภาวะถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2550-2552 มาก" ผู้ร้ายที่ทําให้เกิดสถานการณ์นี้ก็คือนโยบายภาษีศุลกากรที่สูงที่ดําเนินการโดยรัฐบาลทรัมป์ อัตราภาษีศุลกากรเฉลี่ยของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบร้อยปี ทําให้ต้นทุนชิ้นส่วนนําเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตหลายรายบ่นว่า การผลิตสินค้าในสหรัฐฯ กลายเป็นเรื่องยากมาก ตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้านและชิ้นส่วน บริษัทรายงานว่าภาษีศุลกากรได้กัดเซาะอัตรากําไรโดยตรง ทําให้สูญเสียงานทักษะสูงและเงินเดือนสูง ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์กล่าวว่าภาษีศุลกากรได้ทําลายแผนการผลิตและการจัดตารางเวลาและแผนการย้ายการผลิตกลับไปยังสหรัฐอเมริกานั้นยากที่จะบรรลุเนื่องจากต้นทุนวัสดุที่พุ่งสูงขึ้น ผู้ผลิตอุปกรณ์ขนส่งยิ่งพูดตรงไปตรงมาว่า ไม่มีกิจกรรมใด ๆ เลย ซึ่งทั้งหมดเกิดจากนโยบายภาษีศุลกากรในปัจจุบันและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกําลังเปลี่ยนแปลง ทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยแบบดั้งเดิมได้แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบได้อีกครั้ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ราคาทองคำสปอตทะยานขึ้นมากกว่า 1% ทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในคราวเดียว แตะระดับสูงสุดที่ 3539.88 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนปิดที่ 3533.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ไม่ใช่แค่ความผันผวนของราคาอย่างง่ายๆ แต่เป็นการตอบสนองอย่างลึกซึ้งต่อความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า และความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์โลก ตั้งแต่ต้นปีนี้ ทองคําสะสมเพิ่มขึ้นสูงถึง 34.5% ซึ่งมากกว่าประสิทธิภาพของสินทรัพย์อื่น ๆ ท่ามกลางการหดตัวของอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ เป็นเวลาหกเดือนติดต่อกัน ข้อพิพาทด้านภาษีที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอย่างรุนแรง การเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของทองคําไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสําหรับนักลงทุนต่อความไม่แน่นอน ตลาดหุ้นเอเชียช่วงต้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (3 ก.ย.) โดยราคาทองคำแท่ง Spot แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยปัจจุบันปิดตลาดที่ 3,526.79 ดอลลาร์/ออนซ์ การชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ ได้กลายเป็นน้ําหนักสําคัญที่ฉุดเศรษฐกิจโดยรวมลง ตามข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่โดยสมาคมการจัดการอุปทานแห่งสหรัฐอเมริกา (ISM) แม้ว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) จะดีดตัวขึ้นเล็กน้อยจาก 48.0 ในเดือนกรกฎาคมเป็น 48.7 แต่ก็ยังต่ํากว่าเส้น 50 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่หกติดต่อกัน อุตสาหกรรมการผลิตมีสัดส่วนประมาณ 10.2% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจ้างงาน การลงทุน และห่วงโซ่การบริโภค สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ โรงงานบางแห่งได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน "แย่กว่าช่วงภาวะถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2550-2552 มาก" ผู้ร้ายที่ทําให้เกิดสถานการณ์นี้ก็คือนโยบายภาษีศุลกากรที่สูงที่ดําเนินการโดยรัฐบาลทรัมป์ อัตราภาษีศุลกากรเฉลี่ยของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบร้อยปี ทําให้ต้นทุนชิ้นส่วนนําเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตหลายรายบ่นว่า การผลิตสินค้าในสหรัฐฯ กลายเป็นเรื่องยากมาก ตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ในบ้านและชิ้นส่วน บริษัทรายงานว่าภาษีศุลกากรได้กัดเซาะอัตรากําไรโดยตรง ทําให้สูญเสียงานทักษะสูงและเงินเดือนสูง ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์กล่าวว่าภาษีศุลกากรได้ทําลายแผนการผลิตและการจัดตารางเวลาและแผนการย้ายการผลิตกลับไปยังสหรัฐอเมริกานั้นยากที่จะบรรลุเนื่องจากต้นทุนวัสดุที่พุ่งสูงขึ้น ผู้ผลิตอุปกรณ์ขนส่งยิ่งพูดตรงไปตรงมาว่า ไม่มีกิจกรรมใด ๆ เลย ซึ่งทั้งหมดเกิดจากนโยบายภาษีศุลกากรในปัจจุบันและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

แม้ว่าคําตัดสินของศาลอุทธรณ์จะสร้างความท้าทายให้กับนโยบายภาษีของทรัมป์ แต่นักวิเคราะห์หลายคนชี้ให้เห็นว่าวาระการค้าของรัฐบาลทรัมป์อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน Ed Mill นักวิเคราะห์นโยบายวอชิงตันของ Raymond James กล่าวว่ารัฐบาลทรัมป์มีเครื่องมือในการอนุมัติภาษีศุลกากรที่หลากหลายซึ่งหมายความว่าแม้ว่าพื้นฐานทางกฎหมายในปัจจุบันจะถูกคว่ํา แต่รัฐบาลยังสามารถผลักดันนโยบายภาษีศุลกากรสูงผ่านช่องทางอื่นได้ แนวโน้ม "กระบวนการเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง" นี้ ให้ความยืดหยุ่นแก่กลยุทธ์การค้าของทรัมป์ และยังเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดมากขึ้น สําหรับนักลงทุน ผลลัพธ์สุดท้ายของคดีภาษีศุลกากรไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อรูปแบบการค้าโลกด้วย หากศาลฎีกาสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลทรัมป์ นโยบายภาษีศุลกากรอาจเสริมสร้างความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อห่วงโซ่อุปทานและความสัมพันธ์ทางการค้าทั่วโลก ในทางตรงกันข้าม หากคําตัดสินไม่เป็นผลดีต่อทรัมป์ สหรัฐฯ อาจเผชิญกับแรงกดดันในการคืนเงินภาษีจํานวนมาก ซึ่งจะเป็นความท้าทายใหม่ต่อสถานการณ์ทางการเงินและความเชื่อมั่นของตลาด ในบริบทของคดีภาษีของทรัมป์ ตลาดการเงินของสหรัฐฯ กําลังยืนอยู่ที่ทางแยกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน คําตัดสินของศาลฎีกาจะกลายเป็นจุดสําคัญในการกําหนดทิศทางของนโยบายการค้า ในขณะที่นักลงทุนจําเป็นต้องหาสมดุลในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของนโยบายภาษีศุลกากรและความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ผู้เข้าร่วมตลาดต้องระมัดระวังอย่างสูงเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังที่จิม ไบเดอร์กล่าวว่า มีคําถามมากมาย แต่คําตอบมีน้อยมาก ก่อนที่คําตอบจะถูกเปิดเผย ความผันผวนและการรอดูของตลาดอาจร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและเศรษฐกิจที่เกิดจากคดีภาษีของทรัมป์จะสนับสนุนราคาทองคําในระยะสั้นโดยการผลักดันความต้องการด้านความปลอดภัยให้สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่คําตัดสินของศาลฎีกาจะชัดเจน อย่างไรก็ดี ปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น แรงกดดันทางการคลัง และแรงขายในตลาดอาจจำกัดพื้นที่ขาขึ้นของราคาทองคำ ทำให้เกิดความผันผวนของราคามากขึ้น

แม้ว่าคําตัดสินของศาลอุทธรณ์จะสร้างความท้าทายให้กับนโยบายภาษีของทรัมป์ แต่นักวิเคราะห์หลายคนชี้ให้เห็นว่าวาระการค้าของรัฐบาลทรัมป์อาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน Ed Mill นักวิเคราะห์นโยบายวอชิงตันของ Raymond James กล่าวว่ารัฐบาลทรัมป์มีเครื่องมือในการอนุมัติภาษีศุลกากรที่หลากหลายซึ่งหมายความว่าแม้ว่าพื้นฐานทางกฎหมายในปัจจุบันจะถูกคว่ํา แต่รัฐบาลยังสามารถผลักดันนโยบายภาษีศุลกากรสูงผ่านช่องทางอื่นได้ แนวโน้ม "กระบวนการเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง" นี้ ให้ความยืดหยุ่นแก่กลยุทธ์การค้าของทรัมป์ และยังเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดมากขึ้น สําหรับนักลงทุน ผลลัพธ์สุดท้ายของคดีภาษีศุลกากรไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับนโยบายเศรษฐกิจภายในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อรูปแบบการค้าโลกด้วย หากศาลฎีกาสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลทรัมป์ นโยบายภาษีศุลกากรอาจเสริมสร้างความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อห่วงโซ่อุปทานและความสัมพันธ์ทางการค้าทั่วโลก ในทางตรงกันข้าม หากคําตัดสินไม่เป็นผลดีต่อทรัมป์ สหรัฐฯ อาจเผชิญกับแรงกดดันในการคืนเงินภาษีจํานวนมาก ซึ่งจะเป็นความท้าทายใหม่ต่อสถานการณ์ทางการเงินและความเชื่อมั่นของตลาด ในบริบทของคดีภาษีของทรัมป์ ตลาดการเงินของสหรัฐฯ กําลังยืนอยู่ที่ทางแยกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน คําตัดสินของศาลฎีกาจะกลายเป็นจุดสําคัญในการกําหนดทิศทางของนโยบายการค้า ในขณะที่นักลงทุนจําเป็นต้องหาสมดุลในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องของนโยบายภาษีศุลกากรและความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น ผู้เข้าร่วมตลาดต้องระมัดระวังอย่างสูงเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังที่จิม ไบเดอร์กล่าวว่า มีคําถามมากมาย แต่คําตอบมีน้อยมาก ก่อนที่คําตอบจะถูกเปิดเผย ความผันผวนและการรอดูของตลาดอาจร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว ความไม่แน่นอนทางกฎหมายและเศรษฐกิจที่เกิดจากคดีภาษีของทรัมป์จะสนับสนุนราคาทองคําในระยะสั้นโดยการผลักดันความต้องการด้านความปลอดภัยให้สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่คําตัดสินของศาลฎีกาจะชัดเจน อย่างไรก็ดี ปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น แรงกดดันทางการคลัง และแรงขายในตลาดอาจจำกัดพื้นที่ขาขึ้นของราคาทองคำ ทำให้เกิดความผันผวนของราคามากขึ้น

ในขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรยังทําให้เกิดความกังวลทางเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น ผู้เข้าร่วมตลาดบางคนเริ่มกังวลว่าความเป็นอิสระของเฟดอาจได้รับผลกระทบจากแรงกดดันทางการเมือง ในขณะที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะเผชิญกับภาวะซบเซา (อัตราเงินเฟ้อสูงและการเติบโตต่ําอยู่ร่วมกัน) ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือ หากศาลฎีกาพิพากษายืนตามคําตัดสินของศาลอุทธรณ์ สหรัฐฯ อาจจําเป็นต้องคืนเงินภาษีศุลกากรให้กับคู่ค้าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มแรงกดดันทางการคลังเท่านั้น แต่ยังอาจผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ให้สูงขึ้นอีก ซึ่งจะทําให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ นโยบายภาษีของทรัมป์ทําให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตลาดตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ในเวลานั้น การบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรที่สูงสร้างแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และอารมณ์ของตลาดก็ตกต่ําลง อย่างไรก็ตาม ด้วยความชัดเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไปของนโยบายภาษีศุลกากรและการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ร้อนแรงขึ้น หุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนต่อมา ประวัติศาสตร์นี้แสดงให้เห็นว่าการตอบสนองของตลาดต่อนโยบายภาษีศุลกากรมักได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยร่วมกัน รวมถึงรายละเอียดนโยบาย สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลก และทิศทางของนโยบายการเงิน #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

ในขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีศุลกากรยังทําให้เกิดความกังวลทางเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น ผู้เข้าร่วมตลาดบางคนเริ่มกังวลว่าความเป็นอิสระของเฟดอาจได้รับผลกระทบจากแรงกดดันทางการเมือง ในขณะที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะเผชิญกับภาวะซบเซา (อัตราเงินเฟ้อสูงและการเติบโตต่ําอยู่ร่วมกัน) ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือ หากศาลฎีกาพิพากษายืนตามคําตัดสินของศาลอุทธรณ์ สหรัฐฯ อาจจําเป็นต้องคืนเงินภาษีศุลกากรให้กับคู่ค้าสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มแรงกดดันทางการคลังเท่านั้น แต่ยังอาจผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ให้สูงขึ้นอีก ซึ่งจะทําให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ นโยบายภาษีของทรัมป์ทําให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตลาดตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ในเวลานั้น การบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรที่สูงสร้างแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และอารมณ์ของตลาดก็ตกต่ําลง อย่างไรก็ตาม ด้วยความชัดเจนอย่างค่อยเป็นค่อยไปของนโยบายภาษีศุลกากรและการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ร้อนแรงขึ้น หุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นและแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงหลายเดือนต่อมา ประวัติศาสตร์นี้แสดงให้เห็นว่าการตอบสนองของตลาดต่อนโยบายภาษีศุลกากรมักได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยร่วมกัน รวมถึงรายละเอียดนโยบาย สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลก และทิศทางของนโยบายการเงิน #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

จุดยืนที่แข็งกร้าวของทรัมป์ไม่ใช่ไม่มีมูลความจริง นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างชัดเจนเมื่อวันที่ 1 กันยายนว่า แม้ว่าศาลฎีกาจะไม่สนับสนุนนโยบายภาษีตามอํานาจฉุกเฉิน แต่รัฐบาลก็ยังมีแผนสํารองอื่น ๆ ในหมู่พวกเขามาตรา 338 ของพระราชบัญญัติภาษีศุลกากร Smt-Holly ปี 1930 ถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีกําหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงถึง 50% สําหรับสินค้าระดับชาติที่มีสิทธิ์และระยะเวลานานถึงห้าเดือน การมีอยู่ของแผนสํารองนี้ทําให้ตลาดรักษาความเชื่อมั่นในความต่อเนื่องของนโยบายภาษีของทรัมป์และในขณะเดียวกันก็เพิ่มการคาดเดาของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายในอนาคต สําหรับนักลงทุน ความคืบหน้าของคดีภาษีศุลกากรไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับนโยบายการค้าเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสถียรภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วย Jim Baird หัวหน้าผู้อำนวยการด้านการลงทุนของ Plante Moran Financial Advisors ชี้ให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นระดับของการบังคับใช้ภาษีศุลกากรเวลาในการบังคับใช้หรือปัญหาเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายทำให้ตลาดตกอยู่ในสภาวะ "รอดูการเปลี่ยนแปลง" เขากล่าวต่อไปว่า คําถามสําคัญที่ตลาดต้องการคําตอบคือ คู่ค้าของสหรัฐฯ จะตอบสนองอย่างไร ศาลฎีกาฯ จะจำหน่ายคดีได้เร็วแค่ไหน คำตอบของคำถามเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้น #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

จุดยืนที่แข็งกร้าวของทรัมป์ไม่ใช่ไม่มีมูลความจริง นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างชัดเจนเมื่อวันที่ 1 กันยายนว่า แม้ว่าศาลฎีกาจะไม่สนับสนุนนโยบายภาษีตามอํานาจฉุกเฉิน แต่รัฐบาลก็ยังมีแผนสํารองอื่น ๆ ในหมู่พวกเขามาตรา 338 ของพระราชบัญญัติภาษีศุลกากร Smt-Holly ปี 1930 ถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีกําหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงถึง 50% สําหรับสินค้าระดับชาติที่มีสิทธิ์และระยะเวลานานถึงห้าเดือน การมีอยู่ของแผนสํารองนี้ทําให้ตลาดรักษาความเชื่อมั่นในความต่อเนื่องของนโยบายภาษีของทรัมป์และในขณะเดียวกันก็เพิ่มการคาดเดาของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายในอนาคต สําหรับนักลงทุน ความคืบหน้าของคดีภาษีศุลกากรไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับนโยบายการค้าเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสถียรภาพโดยรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วย Jim Baird หัวหน้าผู้อำนวยการด้านการลงทุนของ Plante Moran Financial Advisors ชี้ให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นระดับของการบังคับใช้ภาษีศุลกากรเวลาในการบังคับใช้หรือปัญหาเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายทำให้ตลาดตกอยู่ในสภาวะ "รอดูการเปลี่ยนแปลง" เขากล่าวต่อไปว่า คําถามสําคัญที่ตลาดต้องการคําตอบคือ คู่ค้าของสหรัฐฯ จะตอบสนองอย่างไร ศาลฎีกาฯ จะจำหน่ายคดีได้เร็วแค่ไหน คำตอบของคำถามเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้น #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

เป็นที่น่าสังเกตว่าคําตัดสินดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาษีศุลกากรสําหรับสินค้าเฉพาะ เช่น เหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งยังคงมีพื้นที่สําหรับวาระภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนที่เกิดจากการพิจารณาคดีได้เริ่มหมักหมมในตลาดการเงินแล้ว เมื่อวันที่ 2 กันยายน ดัชนีหุ้นหลักของวอลล์สตรีทลดลงประมาณ 1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯในระยะยาวเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากความกังวลทางการคลังและการขายพันธบัตรทั่วโลก ความผันผวนของตลาดสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการค้าและแสดงให้เห็นว่าคําตัดสินขั้นสุดท้ายของศาลฎีกาอาจส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อเผชิญกับคําตัดสินของศาลอุทธรณ์ ทรัมป์ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขากล่าวเมื่อวันที่ 2 กันยายนว่ารัฐบาลวางแผนที่จะยื่นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื่อตัดสินอย่างรวดเร็วในวันพุธ (3 กันยายน) โดยเน้นความเร่งด่วนของ "ได้รับการตัดสินโดยเร็วที่สุด" คําแถลงนี้แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แน่วแน่ของรัฐบาลทรัมป์ต่อนโยบายภาษีศุลกากรและเน้นถึงความมุ่งมั่นในการรวมวาระการค้าด้วยวิธีการทางกฎหมาย #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

เป็นที่น่าสังเกตว่าคําตัดสินดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาษีศุลกากรสําหรับสินค้าเฉพาะ เช่น เหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งยังคงมีพื้นที่สําหรับวาระภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนที่เกิดจากการพิจารณาคดีได้เริ่มหมักหมมในตลาดการเงินแล้ว เมื่อวันที่ 2 กันยายน ดัชนีหุ้นหลักของวอลล์สตรีทลดลงประมาณ 1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯในระยะยาวเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากความกังวลทางการคลังและการขายพันธบัตรทั่วโลก ความผันผวนของตลาดสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการค้าและแสดงให้เห็นว่าคําตัดสินขั้นสุดท้ายของศาลฎีกาอาจส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อเผชิญกับคําตัดสินของศาลอุทธรณ์ ทรัมป์ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขากล่าวเมื่อวันที่ 2 กันยายนว่ารัฐบาลวางแผนที่จะยื่นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื่อตัดสินอย่างรวดเร็วในวันพุธ (3 กันยายน) โดยเน้นความเร่งด่วนของ "ได้รับการตัดสินโดยเร็วที่สุด" คําแถลงนี้แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่แน่วแน่ของรัฐบาลทรัมป์ต่อนโยบายภาษีศุลกากรและเน้นถึงความมุ่งมั่นในการรวมวาระการค้าด้วยวิธีการทางกฎหมาย #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

นโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นจุดสนใจของตลาดอีกครั้งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ฝ่ายบริหารของทรัมป์วางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็วเพื่อขอคําตัดสินอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับคําตัดสินที่ขัดแย้งกันที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีที่ครอบคลุม ข่าวนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความไม่แน่นอนใหม่ให้กับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังสร้างความกังวลอย่างกว้างขวางต่อนักลงทุนเกี่ยวกับหุ้นสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ ผู้เข้าร่วมตลาดกําลังกลั้นหายใจรอ พยายามหาทิศทางจากเกมที่ผสมผสานระหว่างกฎหมายและเศรษฐกิจนี้ ในวันซื้อขายวันแรกหลังจากสิ้นสุดวันหยุดวันแรงงาน เมื่อวันอังคาร (2 กันยายน) คําตัดสินของศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางทําให้ตลาดสั่นสะเทือน ศาลตัดสินว่ามาตรการภาษีศุลกากรที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ที่ดําเนินการโดยรัฐบาลทรัมป์ตามอํานาจฉุกเฉินนั้นผิดกฎหมาย การตัดสินใจนี้ท้าทายเสาหลักของนโยบายการค้าของทรัมป์โดยตรง แม้ว่าศาลจะอนุญาตให้เก็บภาษีศุลกากรต่อไปก่อนวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งกําหนดกรอบเวลาสําหรับการอุทธรณ์ของรัฐบาลทรัมป์ต่อศาลฎีกา แต่คําตัดสินนี้ทําให้เกิดเงาในนโยบายการค้าในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

นโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นจุดสนใจของตลาดอีกครั้งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ฝ่ายบริหารของทรัมป์วางแผนที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็วเพื่อขอคําตัดสินอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับคําตัดสินที่ขัดแย้งกันที่เกี่ยวข้องกับมาตรการภาษีที่ครอบคลุม ข่าวนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความไม่แน่นอนใหม่ให้กับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังสร้างความกังวลอย่างกว้างขวางต่อนักลงทุนเกี่ยวกับหุ้นสหรัฐฯ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ ผู้เข้าร่วมตลาดกําลังกลั้นหายใจรอ พยายามหาทิศทางจากเกมที่ผสมผสานระหว่างกฎหมายและเศรษฐกิจนี้ ในวันซื้อขายวันแรกหลังจากสิ้นสุดวันหยุดวันแรงงาน เมื่อวันอังคาร (2 กันยายน) คําตัดสินของศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางทําให้ตลาดสั่นสะเทือน ศาลตัดสินว่ามาตรการภาษีศุลกากรที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ที่ดําเนินการโดยรัฐบาลทรัมป์ตามอํานาจฉุกเฉินนั้นผิดกฎหมาย การตัดสินใจนี้ท้าทายเสาหลักของนโยบายการค้าของทรัมป์โดยตรง แม้ว่าศาลจะอนุญาตให้เก็บภาษีศุลกากรต่อไปก่อนวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งกําหนดกรอบเวลาสําหรับการอุทธรณ์ของรัฐบาลทรัมป์ต่อศาลฎีกา แต่คําตัดสินนี้ทําให้เกิดเงาในนโยบายการค้าในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

ทีมกลยุทธ์ของ Bloomberg เชื่อว่า "ในช่วงงบประมาณฤดูใบไม้ร่วงนี้ อัตราส่วนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษระยะยาวจะยังคงเป็นจุดสนใจของตลาด เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มของเงินปอนด์ในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้ค้ากระตือรือร้นที่จะรวมพรีเมี่ยมความเสี่ยงที่สูงขึ้นสําหรับสินทรัพย์ของอังกฤษ นักยุทธศาสตร์มหภาค Vin Ram กล่าวว่าสิ่งนี้ไม่ดีสําหรับเงินปอนด์ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ได้ลดลงต่ํากว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 100 วันแล้ว สิ่งที่ต้องชัดเจนคือกระแสการขายในปัจจุบันและการลดลงของตลาดในปี 2022 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญในธรรมชาติ การดิ่งลงในปี 2565 เกิดจากการขายทิ้งภาคบังคับซึ่งทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้นถึง 50 จุดพื้นฐานในวันเดียว การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นผลมาจากการสะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายในไม่กี่สัปดาห์ Mohit Kumar หัวหน้านักยุทธศาสตร์ยุโรปของ Jeffrey International กล่าวว่า การเพิ่มภาษีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้อยู่ในจุดวิกฤตแล้ว การเพิ่มภาษีเพิ่มเติมหรือตรงกันข้าม เรายังคงมีจุดยืนเชิงบวกต่อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของสหราชอาณาจักรและมองโลกในแง่ดีอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเส้นอัตราผลตอบแทน #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

ทีมกลยุทธ์ของ Bloomberg เชื่อว่า "ในช่วงงบประมาณฤดูใบไม้ร่วงนี้ อัตราส่วนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษระยะยาวจะยังคงเป็นจุดสนใจของตลาด เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มของเงินปอนด์ในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้ค้ากระตือรือร้นที่จะรวมพรีเมี่ยมความเสี่ยงที่สูงขึ้นสําหรับสินทรัพย์ของอังกฤษ นักยุทธศาสตร์มหภาค Vin Ram กล่าวว่าสิ่งนี้ไม่ดีสําหรับเงินปอนด์ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ได้ลดลงต่ํากว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 และ 100 วันแล้ว สิ่งที่ต้องชัดเจนคือกระแสการขายในปัจจุบันและการลดลงของตลาดในปี 2022 มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญในธรรมชาติ การดิ่งลงในปี 2565 เกิดจากการขายทิ้งภาคบังคับซึ่งทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้นถึง 50 จุดพื้นฐานในวันเดียว การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นผลมาจากการสะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายในไม่กี่สัปดาห์ Mohit Kumar หัวหน้านักยุทธศาสตร์ยุโรปของ Jeffrey International กล่าวว่า การเพิ่มภาษีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตอนนี้อยู่ในจุดวิกฤตแล้ว การเพิ่มภาษีเพิ่มเติมหรือตรงกันข้าม เรายังคงมีจุดยืนเชิงบวกต่อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวของสหราชอาณาจักรและมองโลกในแง่ดีอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของเส้นอัตราผลตอบแทน #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

Stephen Jan ซีอีโอของ Ouwizer SLJ Capital และ Joana Frere ชี้ให้เห็นในรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าหากรัฐบาลอังกฤษไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการเงินสาธารณะได้ พวกเขาอาจเผชิญกับ "ช่วงเวลาสตาร์เมอร์" ซ้ํารอยความวุ่นวายของตลาดที่เกิดจากงบประมาณขนาดเล็กของ Tras เมื่อสามปีก่อน#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

Stephen Jan ซีอีโอของ Ouwizer SLJ Capital และ Joana Frere ชี้ให้เห็นในรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าหากรัฐบาลอังกฤษไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนในการเงินสาธารณะได้ พวกเขาอาจเผชิญกับ "ช่วงเวลาสตาร์เมอร์" ซ้ํารอยความวุ่นวายของตลาดที่เกิดจากงบประมาณขนาดเล็กของ Tras เมื่อสามปีก่อน#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

Valentin Marinov หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ G10 ของ Credit Agricultural Bank of France กล่าวว่า แนวโน้มปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลทั่วไปของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการคลังของประเทศที่พัฒนาแล้ว และเงินปอนด์อังกฤษกลายเป็น 'วาล์วความดัน' สําหรับนักลงทุนที่ระมัดระวังในการปล่อยความเสี่ยงอีกครั้ง#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

Valentin Marinov หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ G10 ของ Credit Agricultural Bank of France กล่าวว่า แนวโน้มปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลทั่วไปของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการคลังของประเทศที่พัฒนาแล้ว และเงินปอนด์อังกฤษกลายเป็น 'วาล์วความดัน' สําหรับนักลงทุนที่ระมัดระวังในการปล่อยความเสี่ยงอีกครั้ง#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าสหราชอาณาจักรจะต้องเริ่มเพิ่มภาษีในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎการคลังที่รัฐบาลกําหนดเอง ต้นทุนการกู้ยืมซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่กําหนดความสมดุลของรายรับและรายจ่ายทางการคลังของสหราชอาณาจักรอาจทําให้นายกรัฐมนตรีรีฟส์ของอังกฤษและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสตาเมอร์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่โต้ตอบเนื่องจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Stamer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษได้ประกาศการปรับบุคลากรของทีม Downing Street การปรับครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างการควบคุมนโยบายเศรษฐกิจ กฎการคลังหลักของสหราชอาณาจักรชัดเจน: ค่าใช้จ่ายประจําวันของรัฐบาลจะต้องครอบคลุมโดยรายได้ภาษีภายในห้าปีและค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนเท่านั้นที่สามารถรวบรวมได้ผ่านการกู้ยืม David Zahn หัวหน้าแผนกตราสารหนี้ของยุโรปของหน่วยงานแห่งหนึ่งกล่าวว่า การกระทําด้านบุคลากรของ Stamer เมื่อวานนี้ - ดึงดูดผู้มาใหม่เข้าสู่ 10 Downing Street - อดไม่ได้ที่จะทําให้เกิดคําถามในตลาด: ใครเป็นผู้นําด้านการคลังจริง ๆ เขาย้ําการคาดการณ์อีกครั้งว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีจะเกิน 6% เซนวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ผมตัดสินว่ารัฐบาลยังคงเลือกที่จะตอบสนองแบบขอไปที แทนที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง แต่ถ้าอัตราผลตอบแทนยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดจะใช้มาตรการที่สําคัญมากขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงรวมถึงการลดค่าใช้จ่าย#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าสหราชอาณาจักรจะต้องเริ่มเพิ่มภาษีในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎการคลังที่รัฐบาลกําหนดเอง ต้นทุนการกู้ยืมซึ่งเป็นตัวแปรหลักที่กําหนดความสมดุลของรายรับและรายจ่ายทางการคลังของสหราชอาณาจักรอาจทําให้นายกรัฐมนตรีรีฟส์ของอังกฤษและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสตาเมอร์ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่โต้ตอบเนื่องจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Stamer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษได้ประกาศการปรับบุคลากรของทีม Downing Street การปรับครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างการควบคุมนโยบายเศรษฐกิจ กฎการคลังหลักของสหราชอาณาจักรชัดเจน: ค่าใช้จ่ายประจําวันของรัฐบาลจะต้องครอบคลุมโดยรายได้ภาษีภายในห้าปีและค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนเท่านั้นที่สามารถรวบรวมได้ผ่านการกู้ยืม David Zahn หัวหน้าแผนกตราสารหนี้ของยุโรปของหน่วยงานแห่งหนึ่งกล่าวว่า การกระทําด้านบุคลากรของ Stamer เมื่อวานนี้ - ดึงดูดผู้มาใหม่เข้าสู่ 10 Downing Street - อดไม่ได้ที่จะทําให้เกิดคําถามในตลาด: ใครเป็นผู้นําด้านการคลังจริง ๆ เขาย้ําการคาดการณ์อีกครั้งว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีจะเกิน 6% เซนวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า ผมตัดสินว่ารัฐบาลยังคงเลือกที่จะตอบสนองแบบขอไปที แทนที่จะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง แต่ถ้าอัตราผลตอบแทนยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดจะใช้มาตรการที่สําคัญมากขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงรวมถึงการลดค่าใช้จ่าย#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

นายสเปนเซอร์ ลิเวอร์มอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษกล่าวในการตอบข้อซักถามที่เกี่ยวข้องในสภาขุนนางว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษสอดคล้องกับแนวโน้มของเศรษฐกิจหลักของโลก และความผันผวนอยู่ในช่วงที่เป็นระเบียบ#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

นายสเปนเซอร์ ลิเวอร์มอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษกล่าวในการตอบข้อซักถามที่เกี่ยวข้องในสภาขุนนางว่า การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษสอดคล้องกับแนวโน้มของเศรษฐกิจหลักของโลก และความผันผวนอยู่ในช่วงที่เป็นระเบียบ#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

เพื่อแก้ปัญหานี้ รัฐบาลจําเป็นต้องยืนขึ้นและให้แผนนโยบายการคลังในอนาคตอย่างชัดเจน (แนวทางไปข้างหน้า) รักษาเสถียรภาพของความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการคลัง และป้องกันไม่ให้ตลาดพันธบัตรรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้อีก#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

เพื่อแก้ปัญหานี้ รัฐบาลจําเป็นต้องยืนขึ้นและให้แผนนโยบายการคลังในอนาคตอย่างชัดเจน (แนวทางไปข้างหน้า) รักษาเสถียรภาพของความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการคลัง และป้องกันไม่ให้ตลาดพันธบัตรรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้อีก#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

Ludovik Subron หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Allianz Group กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันในสหราชอาณาจักรค่อนข้างเสี่ยง และกองทัพอาสาสมัครพันธบัตร (กลุ่มนักลงทุนที่กดดันรัฐบาลให้ปรับนโยบายการคลังโดยการขายพันธบัตร) ได้กลับมาอีกครั้ง เป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดใช้เวลานานในการรวมปัจจัยการฟื้นตัวของเงินเฟ้อเข้ากับการกําหนดราคาพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ และแนวทางเชิงบวกในระดับการคลังได้กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีของอังกฤษเพิ่มขึ้น 8 จุดพื้นฐานเป็น 5.72% การลดลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ต่อดอลลาร์เคยขยายตัวเป็น 1.5% ซึ่งเป็นการลดลงวันเดียวที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนและอยู่ในอันดับต่ําสุดในสกุลเงินหลัก ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษลดลง 0.9% และดัชนีหุ้นท้องถิ่นลดลง 2.2% แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสหราชอาณาจักร แต่สหราชอาณาจักรยังคงเป็นพื้นที่หลักของการลดลงของพันธบัตรระยะยาวทั่วโลก #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

Ludovik Subron หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Allianz Group กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันในสหราชอาณาจักรค่อนข้างเสี่ยง และกองทัพอาสาสมัครพันธบัตร (กลุ่มนักลงทุนที่กดดันรัฐบาลให้ปรับนโยบายการคลังโดยการขายพันธบัตร) ได้กลับมาอีกครั้ง เป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดใช้เวลานานในการรวมปัจจัยการฟื้นตัวของเงินเฟ้อเข้ากับการกําหนดราคาพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ และแนวทางเชิงบวกในระดับการคลังได้กลายเป็นเรื่องเร่งด่วนแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีของอังกฤษเพิ่มขึ้น 8 จุดพื้นฐานเป็น 5.72% การลดลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ต่อดอลลาร์เคยขยายตัวเป็น 1.5% ซึ่งเป็นการลดลงวันเดียวที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนและอยู่ในอันดับต่ําสุดในสกุลเงินหลัก ดัชนี FTSE 100 ของอังกฤษลดลง 0.9% และดัชนีหุ้นท้องถิ่นลดลง 2.2% แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสหราชอาณาจักร แต่สหราชอาณาจักรยังคงเป็นพื้นที่หลักของการลดลงของพันธบัตรระยะยาวทั่วโลก #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

รีฟส์วางแผนที่จะเปิดตัวงบประมาณก่อนสิ้นปีนี้และกําลังมองหาแผนการประหยัดค่าใช้จ่ายหรือช่องทางการเพิ่มภาษีอย่างเร่งด่วนเพื่อเติมเต็มช่องว่างงบประมาณ 35 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะที่หลีกเลี่ยงการควบคุมการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ถูกบังคับให้ถอนการปฏิรูปสวัสดิการเนื่องจากการคัดค้านของสมาชิกรัฐสภา (ตัดงบประมาณสวัสดิการ 5 พันล้านปอนด์หัวหอกการปฏิรูปมุ่งเป้าไปที่เบี้ยเลี้ยงคนพิการและเงินอุดหนุนผู้ป่วยระยะยาว แผนการนี้ทําให้เกิดการคัดค้านอย่างรุนแรงภายในพรรคแรงงาน) งานนี้จะเผชิญกับการต่อต้านอย่างมากในระดับการเมือง ปัญหาหลักคือ การดิ่งลงของตลาดแต่ละรอบจะผลักดันต้นทุนหนี้ให้สูงขึ้น ปัจจัยพื้นฐานทางการคลังแย่ลงไปอีก และในที่สุดก็ทําให้เศรษฐกิจอังกฤษตกอยู่ในวัฏจักรความเสี่ยงของต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนการกู้ยืมของอังกฤษเพิ่มขึ้น ชวนให้นึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรีลีดส์หรือ ตลาดทรุดตัวลงในช่วงการปกครองของเทราส#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

รีฟส์วางแผนที่จะเปิดตัวงบประมาณก่อนสิ้นปีนี้และกําลังมองหาแผนการประหยัดค่าใช้จ่ายหรือช่องทางการเพิ่มภาษีอย่างเร่งด่วนเพื่อเติมเต็มช่องว่างงบประมาณ 35 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในขณะที่หลีกเลี่ยงการควบคุมการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ถูกบังคับให้ถอนการปฏิรูปสวัสดิการเนื่องจากการคัดค้านของสมาชิกรัฐสภา (ตัดงบประมาณสวัสดิการ 5 พันล้านปอนด์หัวหอกการปฏิรูปมุ่งเป้าไปที่เบี้ยเลี้ยงคนพิการและเงินอุดหนุนผู้ป่วยระยะยาว แผนการนี้ทําให้เกิดการคัดค้านอย่างรุนแรงภายในพรรคแรงงาน) งานนี้จะเผชิญกับการต่อต้านอย่างมากในระดับการเมือง ปัญหาหลักคือ การดิ่งลงของตลาดแต่ละรอบจะผลักดันต้นทุนหนี้ให้สูงขึ้น ปัจจัยพื้นฐานทางการคลังแย่ลงไปอีก และในที่สุดก็ทําให้เศรษฐกิจอังกฤษตกอยู่ในวัฏจักรความเสี่ยงของต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนการกู้ยืมของอังกฤษเพิ่มขึ้น ชวนให้นึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรีลีดส์หรือ ตลาดทรุดตัวลงในช่วงการปกครองของเทราส#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

โดยระดับแรงกดดันอันดับหนึ่งของอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.1667 ตามด้วยเส้นแรงกดดันขาลงที่ประกอบเป็นรูปธงกระทิงบริเวณ 1.1700 และแนวรับที่ 1.1600 ซึ่งเป็นโซนการซื้อขายหนาแน่นสำหรับระดับตัวเลขเต็ม 1.600 เมื่อเทียบกับราคาเปิดและปิดหลายวัน หากลดลงต่ำกว่าระดับแนวรับถัดไปจะมองไกลบริเวณ 1.1500 ของช่องดาวน์ลง#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

โดยระดับแรงกดดันอันดับหนึ่งของอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.1667 ตามด้วยเส้นแรงกดดันขาลงที่ประกอบเป็นรูปธงกระทิงบริเวณ 1.1700 และแนวรับที่ 1.1600 ซึ่งเป็นโซนการซื้อขายหนาแน่นสำหรับระดับตัวเลขเต็ม 1.600 เมื่อเทียบกับราคาเปิดและปิดหลายวัน หากลดลงต่ำกว่าระดับแนวรับถัดไปจะมองไกลบริเวณ 1.1500 ของช่องดาวน์ลง#SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

ตามข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรม Cefic สหภาพยุโรปส่งออกสารเคมีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านยูโรไปยังสหรัฐอเมริกาในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 38 พันล้านยูโรในปี 2566 เล็กน้อย สูงกว่าที่อียูนำเข้าจากสหรัฐฯ 30,000 ล้านยูโร อุตสาหกรรมท้องถิ่นมียอดขายในต่างประเทศประมาณ 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมด หรือประมาณ 224,000 ล้านยูโร และบริษัทในยุโรปส่วนใหญ่มีธุรกิจหลักในตลาดหลัก นอกจากสหรัฐอเมริกายังรวมถึงจีนซึ่งเป็นตลาดสารเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลก "เราเคยชินกับการผลิตผลิตภัณฑ์จํานวนมากในยุโรปและส่งออกในปริมาณมาก" ArneRautenberg หัวหน้าฝ่ายจัดการพอร์ตโฟลิโอหุ้นของ Union Investment กล่าว "เมื่อมองไปข้างหน้า สถานการณ์จะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เงินยูโรไม่ได้เลือกที่จะตัดทะลุหลังจากแตะราคาธงกระทิง และกลับตกลงมาต่ำกว่า 1.1667 (50% ของเส้นมืดในวันที่ 25 สิงหาคม) ซึ่งเป็นตัวแทนของตลาดในระยะสั้นจะเข้าสู่ภาวะ Organization และการเคลื่อนไหวจะถูกครอบงำโดยชั่วคราว #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

ตามข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรม Cefic สหภาพยุโรปส่งออกสารเคมีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านยูโรไปยังสหรัฐอเมริกาในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจาก 38 พันล้านยูโรในปี 2566 เล็กน้อย สูงกว่าที่อียูนำเข้าจากสหรัฐฯ 30,000 ล้านยูโร อุตสาหกรรมท้องถิ่นมียอดขายในต่างประเทศประมาณ 1 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมด หรือประมาณ 224,000 ล้านยูโร และบริษัทในยุโรปส่วนใหญ่มีธุรกิจหลักในตลาดหลัก นอกจากสหรัฐอเมริกายังรวมถึงจีนซึ่งเป็นตลาดสารเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลก "เราเคยชินกับการผลิตผลิตภัณฑ์จํานวนมากในยุโรปและส่งออกในปริมาณมาก" ArneRautenberg หัวหน้าฝ่ายจัดการพอร์ตโฟลิโอหุ้นของ Union Investment กล่าว "เมื่อมองไปข้างหน้า สถานการณ์จะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เงินยูโรไม่ได้เลือกที่จะตัดทะลุหลังจากแตะราคาธงกระทิง และกลับตกลงมาต่ำกว่า 1.1667 (50% ของเส้นมืดในวันที่ 25 สิงหาคม) ซึ่งเป็นตัวแทนของตลาดในระยะสั้นจะเข้าสู่ภาวะ Organization และการเคลื่อนไหวจะถูกครอบงำโดยชั่วคราว #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

"ไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป" ซีอีโอ Arnold Mergell กล่าว "นี่เป็นสิ่งที่สะเทือนใจสำหรับโครงการและการลงทุนสำหรับบริษัท ภัยพิบัติไม่ได้เกิดขึ้นเพียงลำพังและยังมีปัญหาเงินดอลลาร์ที่น่าปวดหัว เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ธุรกิจในยุโรปรู้สึกถึงแรงกดดันจากการลดสินค้าคงคลังของสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการและคำสั่งซื้อลดลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงซึ่งส่งผลให้บริษัทที่คำนวณผลกำไรด้วยเงินยูโรแย่ลง AkzoNobel ผู้ผลิตเคลือบ Dolox ของเนเธอร์แลนด์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตตลอดทั้งปีในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมโดยอ้างว่าตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนและปรับอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทเคมีภัณฑ์ของเยอรมัน Waker Chemical ก็ปรับลดคาดการณ์การเติบโตตลอดทั้งปีในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน เหตุผลก็คือค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความต้องการผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอ รวมถึงโพลีซิลิคอนที่ใช้ในการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ " Christian Faitz หัวหน้าฝ่ายวิจัยอุตสาหกรรมเคมีของ Kepler Cheuvreux กล่าวว่า อุตสาหกรรมเคมีของยุโรปโดยทั่วไปมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

"ไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป" ซีอีโอ Arnold Mergell กล่าว "นี่เป็นสิ่งที่สะเทือนใจสำหรับโครงการและการลงทุนสำหรับบริษัท ภัยพิบัติไม่ได้เกิดขึ้นเพียงลำพังและยังมีปัญหาเงินดอลลาร์ที่น่าปวดหัว เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ธุรกิจในยุโรปรู้สึกถึงแรงกดดันจากการลดสินค้าคงคลังของสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการและคำสั่งซื้อลดลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงซึ่งส่งผลให้บริษัทที่คำนวณผลกำไรด้วยเงินยูโรแย่ลง AkzoNobel ผู้ผลิตเคลือบ Dolox ของเนเธอร์แลนด์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตตลอดทั้งปีในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมโดยอ้างว่าตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนและปรับอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทเคมีภัณฑ์ของเยอรมัน Waker Chemical ก็ปรับลดคาดการณ์การเติบโตตลอดทั้งปีในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน เหตุผลก็คือค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความต้องการผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอ รวมถึงโพลีซิลิคอนที่ใช้ในการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ " Christian Faitz หัวหน้าฝ่ายวิจัยอุตสาหกรรมเคมีของ Kepler Cheuvreux กล่าวว่า อุตสาหกรรมเคมีของยุโรปโดยทั่วไปมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัท บีเอเอสเอฟ (BASF) ผู้ผลิตสารเคมีรายใหญ่ของโลก ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้งปี กลุ่มเยอรมันกล่าวว่าเนื่องจากทัศนคติที่ระมัดระวังต่อเศรษฐกิจโลกในระยะสั้น ลูกค้าบางรายจึงสั่งซื้อล่วงหน้าเพียงไม่กี่สัปดาห์ น้อยกว่าสามถึงสี่เดือนตามปกติ Matthias Zachert ซีอีโอของ Lanxess บริษัทเคมีภัณฑ์พิเศษของเยอรมนี แสดงความมองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับความต้องการที่มีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพก่อนสิ้นปี เขาเคยเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่าไตรมาสที่สามจะเป็นเรื่องยากเนื่องจาก "ความไม่แน่นอนที่น่ากลัว" อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขนาดเล็กอย่าง Hobum Oleochemicals ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว กำลังคำนวณต้นทุน หนึ่งในลูกค้าที่มีศักยภาพซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์ไพรเมอร์ชาวอเมริกันใกล้เมืองดีทรอยต์ได้ละทิ้งข้อตกลงที่สามารถเพิ่มยอดขายเป็นทวีคูณและชดเชยความอ่อนแอของอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรป #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

ก.ค.ที่ผ่านมา บริษัท บีเอเอสเอฟ (BASF) ผู้ผลิตสารเคมีรายใหญ่ของโลก ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทั้งปี กลุ่มเยอรมันกล่าวว่าเนื่องจากทัศนคติที่ระมัดระวังต่อเศรษฐกิจโลกในระยะสั้น ลูกค้าบางรายจึงสั่งซื้อล่วงหน้าเพียงไม่กี่สัปดาห์ น้อยกว่าสามถึงสี่เดือนตามปกติ Matthias Zachert ซีอีโอของ Lanxess บริษัทเคมีภัณฑ์พิเศษของเยอรมนี แสดงความมองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับความต้องการที่มีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพก่อนสิ้นปี เขาเคยเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่าไตรมาสที่สามจะเป็นเรื่องยากเนื่องจาก "ความไม่แน่นอนที่น่ากลัว" อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขนาดเล็กอย่าง Hobum Oleochemicals ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว กำลังคำนวณต้นทุน หนึ่งในลูกค้าที่มีศักยภาพซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์ไพรเมอร์ชาวอเมริกันใกล้เมืองดีทรอยต์ได้ละทิ้งข้อตกลงที่สามารถเพิ่มยอดขายเป็นทวีคูณและชดเชยความอ่อนแอของอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรป #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation#BrokerEvaluation

จากข้อมูลของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSEG) คาดว่ากําไรของบริษัทเคมีภัณฑ์ในยุโรปในไตรมาสที่สามจะลดลง 5% ในขณะที่ในไตรมาสที่สองลดลง 22% "นักวิเคราะห์จาก Metzler Research กล่าว Thomas Schulte-Vorwick" นับตั้งแต่เกิดวิกฤตพลังงาน เราหวังเสมอว่าการผลิตและอัตรากำไรของอุตสาหกรรมเคมีในยุโรปจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แรงกดดันด้านราคาและผลกำไรจากภาษีศุลกากรและการแข่งขันที่รุนแรงในเอเชียทั้งในประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ "เป็นการผสมผสานที่ค่อนข้างเป็นพิษในขณะนี้" ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม - โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BASF, Brenntag และ Lanxess - ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าโดยตรงในระดับหนึ่งเนื่องจากธุรกิจที่แข็งแกร่งในสหรัฐอเมริกา แต่ยังคงได้รับผลกระทบจากการระมัดระวังของลูกค้า ลูกค้าเลื่อนการสั่งซื้อออกไป ทําให้บริษัทเหล่านี้ที่ผลิตสารเคมีต่างๆ ตั้งแต่ที่นอน ชิ้นส่วนรถยนต์ ไปจนถึงหมากฝรั่ง ได้ลดหรือปรับแนวโน้มประจําปีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation

จากข้อมูลของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSEG) คาดว่ากําไรของบริษัทเคมีภัณฑ์ในยุโรปในไตรมาสที่สามจะลดลง 5% ในขณะที่ในไตรมาสที่สองลดลง 22% "นักวิเคราะห์จาก Metzler Research กล่าว Thomas Schulte-Vorwick" นับตั้งแต่เกิดวิกฤตพลังงาน เราหวังเสมอว่าการผลิตและอัตรากำไรของอุตสาหกรรมเคมีในยุโรปจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แรงกดดันด้านราคาและผลกำไรจากภาษีศุลกากรและการแข่งขันที่รุนแรงในเอเชียทั้งในประเทศและภูมิภาคอื่น ๆ "เป็นการผสมผสานที่ค่อนข้างเป็นพิษในขณะนี้" ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม - โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BASF, Brenntag และ Lanxess - ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าโดยตรงในระดับหนึ่งเนื่องจากธุรกิจที่แข็งแกร่งในสหรัฐอเมริกา แต่ยังคงได้รับผลกระทบจากการระมัดระวังของลูกค้า ลูกค้าเลื่อนการสั่งซื้อออกไป ทําให้บริษัทเหล่านี้ที่ผลิตสารเคมีต่างๆ ตั้งแต่ที่นอน ชิ้นส่วนรถยนต์ ไปจนถึงหมากฝรั่ง ได้ลดหรือปรับแนวโน้มประจําปีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา #SharingTradingMistakesAndGrowth#BrokerEvaluation