อุตสาหกรรม

‘ฮิลลารี’ ชนะ ‘ทรัมป์’ ขาดลอย

ช่วงเวลาก่อนหน้าการดีเบตแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่สูสีกันมาก โดยโพลของรอยเตอร์/อิปซอสล่าสุดระบุว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนำหน้านายทรัมป์อยู่ 4 จุด จากการสำรวจผู้ที่มีแนวโน้มจะไปใช้สิทธิลงคะแนน 41 เปอร์เซ็นต์ โดยการดีเบตเป็นเวลา 90 นาทีครั้งนี้อาจโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังลังเลตัดสินใจได้ โดยโพลของรอยเตอร์/อิปซอสอีกชิ้นหนึ่งระบุด้วยว่า 61 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะไปใช้สิทธิพึ่งพาการดีเบตเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ขณะที่ทั้งฮิลลารีและทรัมป์ต่างกล่าวโจมตีกันอย่างดุเดือดในการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์แบบเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก ที่เริ่มต้นเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 08.00 น. ของวันที่ 27 กันยายนในไทย) จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตราในเมืองเฮมป์สเตด รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีนายเลสเตอร์ โฮลต์ ผู้ประกาศข่าวภาคค่ำของเอ็นบีซี เป็นผู้ดำเนินรายการ นางฮิลลารี วัย 68 ปี มาในชุดสีแดง ขณะที่นายทรัมป์ วัย 70 ปี ใส่สูทสีดำและเนกไทสีน้ำเงินแทนที่จะใส่สีแดงตามปกติ ผู้สมัครทั้ง 2 ทักทายกันด้วยการจับมือและยิ้มให้กันก่อนเริ่มต้นการดีเบตครั้งประวัติศาสตร์ที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจมีผู้ชมการถ่ายทอดสดมากกว่า 100 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบหลายปีของการเมืองอเมริกัน นางฮิลลารีกล่าวโจมตีนายทรัมป์ว่าเป็นคนที่หลุดโลก แทบจะไม่มีความเชื่อมโยงกับข้อเท็จจริง โดยยินดีที่จะพูดเรื่องบ้าๆ บอๆ เพื่อที่จะให้ได้รับการเลือกตั้ง

2025-03-03 13:38

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

รัสเซียเพิ่มสำรองทองคำเข้าท้องพระคลังอีก 200 ตัน

29 Sep 2016 Sputnik News รัสเซียมีแผนจะตุน ทองคำเก็บเข้าคลังประมาณ 200 ตันในปีนี้ ให้เกือบ ใกล้เคียนกับปีที่แล้วที่เก็บเข้าคลัง 208 ตันในปี 2015 ซึ่งเป็นไปตามที่ รองผู้อำนวยการแผนกสถิติที่ธนาคาร กลางรัสเซีย Anton Navoi ชี้แจงว่า มันเป็นสร้างผล กำไร ให้กับภาครัฐที่จะซื้อโลหะมีค่าตั้งแต่รัสเซีย เป็นผู้นำในการผลิตทองคำระดับโลก เขากล่าวในที่ประชุมเมื่อวันพุธอย่างเป็นทางการว่า"ในปีที่แล้วธนาคารกลางซื้อทองคำกักตุนได้ 208 ตัน. ในปีนี้ ก็จะรับซื้อประมาณ 200 ตัน" ทองในปัจจุบันนี้ ตาม บัญชี ประมาณร้อยละ 16 ของการแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศของประเทศที่เป็นทุนสำรอง Navoi ตั้งข้อสังเกต และในปัจจุบันมีความพยายามนำไปเพิ่ม ส่วนแบ่งโลหะมีค่าในเงินสำรองของรัสเซียดูเหมือนว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นในขณะที่การซื้อทองคำเป็นประโยชน์แก่ประเทศ

2025-03-03 13:36

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

Financial Armageddon (ตอนที่ 1 ) โดยทวีสุข ธรรมศัก

ลับกลายเป็นการแก้ปัญหาด้วยการสร้างปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่า คือการนำโลกเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ที่ใหญ่ที่สุดพร้อมๆกันถึง 4 ลูก และ กำลังจะดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกไม่ได้อีกแล้ว ฟองสบู่ในตราสารทางการเงินทั้ง 4 ลูกประกอบไปด้วย 1. ฟองสบู่ในตราสารหนี้ 2. ฟองสบู่ในตลาดหุ้น 3. ฟองสบู่ในตลาดตราสารอนุพันธ์ 4. ฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ Graham Summers มีตำแหน่งเป็น Chief Market Strategist ของ Phoenix Capital Research ได้ทำข้อสรุปในสถานการณ์ปัจจุบันไว้ได้อย่างน่าสนว่า ปัญหาที่แท้จริงในขณะนี้คือ – ปัญหาที่แท้จริงของระบบการเงินของโลกคือ การเกิดฟองสบู่ในตลาดตราสารหนี้ โดยในปี 2008 ที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ตราสารหนี้มีมูลค่า $80 ล้านล้าน แต่ปัจจุบันมีการเติบโตมากกว่า $100 ล้านล้าน – ตลาดตราสารอนุพันธ์ ที่เป็นหลักประกันของตราสารหนี้ที่กำลังเป็นฟองสบู่ในขณะนี้ มีมูลค่ามากว่า $555 ล้านล้าน ที่อ้างอิงกับ ตลาดตราสารหนี้ – บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จำนวนมาก , กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ และบรรดามลรัฐต่างๆ ได้มีการใช้ตราสารอนุพันธ์ เพื่อตกแต่งรายได้ และซ่อนหนี้สินของบริษัท ไม่มีใครรู้ได้ว่าระดับความเสี่ยงมีขนาดเท่าไรในแต่ละกรณี แต่สามารถให้คำตอบได้ว่า 20% ของ CFOs ได้ยอมรับว่า ได้มีการตกแต่งรายได้ของบริษัทในช่วงเวลาที่ผ่านมา – บริษัทต่างๆ ในวันนี้ ได้มีการ leveraged หนี้สินต่อทุนขึ้นไปสูงกว่า ปี 2007 (ผมเห็นว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วโลก) และขณะนี้บริษัท Credit Rating ได้ลดระดับ Rating บริษัทในสหรัฐจำนวนมาก ลงสู่ระดับ Junk bond ซึ่งมีความเลวร้ายมากกว่าปี 2008 – ธนาคารกลาง (The Central Banks) หลายแห่งได้มีการ leveraged หนี้สินต่อทุนขึ้นไปสูงมาก และมากกว่า Lehman Brothers ที่มีการระเบิดออกมาจากข้างใน เช่น • Fed ได้ leveraged ที่ 78 to 1. • ECB ได้ leveraged มากกว่า 26 to 1. ขณะที่ Lehman Brothers ล้มละลายมีการ leveraged ที่ 30 to 1 – ธนาคารกลาง (The Central Banks) ได้หมดซึ่งยุทธวิธี ที่จะออกจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะ FED ที่มี Fed’s balance sheet จาก $ 1.3 ล้านล้าน เพิ่มขึ้นมากกว่า $4.5 ล้านล้าน ในปัจจุบัน – วันนี้ ธนาคารกลาง (The Central Banks) ได้ดำเนินนโยบาย ผลักความเสี่ยง ไปสู่ผู้ฝากเงินกับธนาคารและผู้ลงทุนในตลาดพันธบัตรและตราสารหนี้ (Bond) ด้วยนโยบายดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งเท่ากับว่า ผู้ฝากเงินและนักลงทุนกลายเป็นผู้ที่ต้องจ่ายผลตอบแทนในการฝากเงินและลงทุนในพันธบัตร – ทั่วโลกขณะนี้ มีอัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจากตลาดพันธบัตรสูงถึง $13 ล้านล้าน เป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของพันธบัตรทั่วโลก ซึ่ง Bill Gross ผู้จัดการกองทุนพันธบัตรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้แสดงความเห็นไว้ว่า การที่พันธบัตรทั่วโลกมีผลตอบแทนที่ ติดลบ ผลของมันจะระเบิดออกมาในระดับ Super Nova ในอีกไม่นาน

2025-03-03 13:34

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

(OPEC) ทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่ง 6%

ทั้งนี้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันขนาดเล็กหลายประเทศผลักดันให้โอเปกลดกำลังการผลิต หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงอย่างต่อเนื่องจาก 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อ 2 ปีก่อนซึ่งเป็นผลจากกำลังผลิตล้นตลาดและความต้องการน้ำมันที่ลดน้อยลง โดยข้อตกลงใหม่นี้จะจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศสมาชิกโอเปกที่ราว 32.5-33 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ปริมาณการผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ราว 33.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดียังคงมีคำถามว่าโอเปกจะตรวจสอบปริมาณการผลิตของประเทศสมาชิกได้อย่างไร ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันยังคงสงสัยในรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าวและเห็นว่าต้องดูในรายละเอียดทั้งหมดก่อนที่จะให้ความเห็นที่ชัดเจนใดๆ

2025-03-03 13:31

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

โอเปก (OPEC) เห็นชอบปรับลดการผลิต

องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก(OPEC) เห็นชอบในข้อตกลงเบื้องต้นที่จะปรับลดกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6 เปอร์เซนต์ มาปิดที่ 49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดีจะมีการพิจารณารายละเอียดของการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมโอเปก(OPEC)ครั้งต่อไปในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามข้อตลงเบื้องต้น โอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตลงราววันละ 700,000 บาร์เรล แต่จะอนุญาตให้อิหร่าน ซึ่งเพิ่งจะสามารถขายน้ำมันสู่ตลาดโลกได้อีกครั้งหลังถูกยุติการคว่ำบาตรสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ ข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกในครั้งนี้สามารถบรรลุผลได้หลังจากความพยายามในครั้งก่อนล้มเหลวเมื่อไม่สามารถหาข้อยุติระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบียได้

2025-03-03 13:29

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยร่วงลงติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 2 ขณะที่นักลงทุนจับตาศึกดีเบตระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจชี้ชะตาผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้ ณ เวลา 20.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,119.38 จุด ลดลง 142.52 จุด หรือ 0.77% ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงในวันนี้ทำสถิติทรุดหนักสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังมีแนวโน้มร่วงลงหนักสุดในเดือนนี้นับตั้งแต่เดือนม.ค. โดยขณะนี้ดิ่งลงแล้วกว่า 1%

2025-03-03 12:25

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

5 ทักษะที่ง่ายที่จะเรียนรู้ แต่ให้ประโยชน์สูงที่สุ

1. การบริหารจัดการเวลา หนึ่งในทักษะที่มีมูลค่าสูงสุดสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจระดับพันล้าน นั่นคือ การบริหารจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะทุกวินาทีของพวกเขาเป็นเงินเป็นทอง ทักษะเหล่านี้จะมาพร้อมกับการฝึกจัดระเบียบชีวิตตนเอง วางแผนสิ่งที่ต้องทำ ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงเรื่องธุรกิจว่า ทำอย่างไรถึงจะจัดการสิ่งที่ต้องทำได้เสร็จภายในเวลาที่จำกัด 2. คิดบวกกับตัวเอง ไม่สำคัญว่าใครจะมองตัวคุณอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญคือ คุณมองตัวเองอย่างไร ทักษะนี้อาจต้องใช้เวลาเพื่อให้คุณเกิดความเชื่อมั่นใจตนเอง มองถึงสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ ใช้สิ่งนั้นเป็นแรงผลักดันและต่อสู้กับปัญหา ท้ายที่สุดจะไม่มีปัญหาใดมาทำร้ายคุณได้อย่างแน่นอน 3. เอาใจเขามาใส่ใจเรา การเข้าใจผู้อื่นถือเป็นอีกหนึ่งในความสามารถเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจว่าผู้อื่นรู้สึกอย่างไร หรือต้องการอะไร หากว่าคุณเป็นหัวหน้า การที่คุณเข้าใจลูกน้องในทีมจะช่วยให้ทีมมีความแข็งแกร่ง กระตุ้นให้คนในทีมสามารถพยายามทำสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย 4. ขอความช่วยเหลือ เมื่อถึงเวลาที่เกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน หลายคนมักไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก บางคนอาจกลัวการถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอหรือไร้ความสามารถ แต่รู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วการเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ดี นั่นอาจทำให้คุณได้เรียนรู้ความสามารถของผู้อื่น ความเฉลียวฉลาดและทักษะของพวกเขาอาจถ่ายทอดมาถึงคุณ ให้คุณได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ การขอความช่วยเหลือจึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่คุณควรมีติดตัวไว้โดยไม่ต้องอาย 5. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูด หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดคือ การระงับความโกรธ หลายครั้งที่คนเรามักจะพูดในสิ่งที่ไม่ได้คิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนเวลาที่เราอยู่ในช่วงอารมณ์แห่งความโกรธ ความไม่พอใจ การพูดสิ่งใดในช่วงนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมามากมาย ดังนั้น การเก็บสิ่งที่ต้องการพูดเอาไว้ก่อน และให้เวลาช่วยตัดสินใจว่า ควรพูดสิ่งนั้นออกมาดีหรือไม่ น่าจะดีกว่าการที่คุณพูดออกไปและเสียใจทีหลังก็เป็นได้ สำหรับทักษะนี้แม้ว่าจะทำได้ยาก แต่หากคุณทำได้จะช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

2025-03-03 01:24

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

ารผจญภัยในห้วงอวกาศประเทศ

กล้องโทรทรรศน์วิทยุใหญ่ที่สุด ในโลก เริ่มเปิดใช้งานมณฑลกุ้ยโจว (Guizhou Province) หวังจะค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกสำนักข่าว The New York Times รายงานว่า กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ชื่อ The Five-hundred-meter Aperture Spherical Telescope (FAST) ติดตั้งอยู่ในหุบเขาของมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เริ่มเปิดใช้งานราวเที่ยงวันของวันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2016 กล้องโทรทรรศน์ของจีนมูลค่า ¥1,200 Billion Yuan หรือประมาณ 6,239 ล้านบาท มีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 30 สนามเป็นกล้อง โทรทรรศน์ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้ากล้องโทรทรรศน์อาเรซิโบ ออฟเซิร์พวาโตรี (The Arecibo Observatory) ในเปอร์โตริโก โดยกล้องโทรทรรศน์ฟาสต์จะทำหน้าที่สำรวจอวกาศเพื่อค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตนอกโลก

2025-03-03 01:20

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

9 วิธี ออมเงิน แบบชิลๆ

1. ออมวันละ 20 บาท เงิน 20 บาท ฟังดูน้อยมากเลยใช่ไหมครับ แล้วแบบนี้จะออมเงินเป็นก้อนได้จริงๆ หรอ? บอกเลยว่าอย่าดูถูกธนบัตรใบน้อยครับ หากคุณทำติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน (วันหยุด ก็อย่าหยุดออม นะครับ) คุณจะมีเงินออมถึง 600 บาท แล้วถ้าออมติดต่อกัน 1 ปีล่ะ? คุณจะมีเงินออมถึง 7,300 บาทเลยล่ะ! (ห้ามแกะเงินออกมาใช้ล่ะ!) สำหรับคนที่มองว่า ยังไงก็น้อยไปอยู่ดี อาจจะเปลี่ยนจาก 20 บาทเป็นออมวันละ 50 บาท หรือ 100 บาทก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ การสร้างนิสัยการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ และการสร้างวินัยการออมเงินของตนเอง อย่าหาข้ออ้างนะครับ ใกล้สิ้นเดือนแล้ว ขอตามใจตัวเองหน่อยด้วยการนำเงินที่ต้องออมไปใช้ เพราะเมื่อคุณทำอย่างนั้นครั้งหนึ่ง ครั้งต่อๆ ไปก็จะตามมา สุดท้ายก็ออมเงินแทบไม่ได้เหมือนเดิมครับ 2. มีสลึง พึงบรรจบ ให้ครบบาท … หากวันนี้เราไปทำงาน ใช้เงินยังไงหากเราไม่พยายามจะใช้ให้หมดก็จะต้องได้เศษเงินทอน ได้เหรียญกลับมาบ้านแน่นอน จริงไหมครับ ก็ออมเหรียญนี่ล่ะครับ ได้มาเท่าไหร่ ก็เก็บใส่กระปุก อย่าเอาออกมาใช้ อาจจะใช้ขวดน้ำ กระป๋องอาหารล้างแล้วเจาะรูหยอดเหรียญ ทำเป็นกระปุกออมสินแบบแนวๆ ก็ได้ครับ ผมแนะนำใช้ขวดน้ำ หรือพาชนะใสๆ เพราะเราหยอดทุกวันๆ เห็นจำนวนเหรียญมันเพิ่มขึ้นๆ เป็นกำลังใจให้เราออมต่อไปได้ครับ 3. แบ่งเงินใส่ถุง ให้คุณลองสังเกตตัวเองดูว่า เฉลี่ยแล้วในแต่ละวันเสียเงินไปประมาณกี่บาท บวกเงินเข้าไปอีกนิดหน่อยเผื่อมีอะไรฉุกเฉิน หาตัวเลขกลมๆ ไว้ แล้วให้นำเงินมาใส่ถุงเพื่อใช้ในแต่ละวัน เช่น หากคุณใช้เงินวันละไม่เกิน 200 บาท ก็อาจจะใส่ซองไว้ 250 บาท เป็นจำนวนซองเท่าจำนวนวันในเดือนนั้น จากนั้นก่อนออกไปเรียนหรือไปทำงาน ก็หยิบซองเงินมาหนึ่งซอง การทำอย่างนี้จะช่วยให้คุณใช้เงินในจำนวนจำกัด ที่เหลือจะได้ออมหมด และฝึกให้คุณวางแผนจัดการเงินในมืออย่างมีคุณค่ามากที่สุดด้วย 4. กินแค่ 150 ถ้าเกิน ต้องหยอดกระปุกตามที่เกิน กำหนดเลยว่า ภายในหนึ่งวัน คุณต้องใช้เงินไปกับค่าอาหารแค่ประมาณ 100 บาทเท่านั้น หากเกินกว่านี้ เช่น คุณจ่ายค่าอาหารไป 200 บาทวันนี้ แสดงว่าคุณต้องหยอดกระปุกเป็นเงิน 50 บาท วิธีนี้นอกจากจะได้จำกัดงบประมาณตนเองในการเลือกซื้ออาหาร ยังได้ออมเงินเพิ่มอีกนิดๆ ด้วย แบบนี้เงินเก็บหนาแน่นอน 5. มีหลายๆ กระปุก สำหรับวิธีนี้ ง่ายๆ เลยก็คือ ให้หากระปุกมาหลายๆ กระปุก จากนั้นก็เขียนแปะลงไปบนแต่ละกระปุกเลยว่า อันนี้เก็บไปจ่ายอะไร เช่น ค่ารองเท้าทำงานคู่ใหม่ ค่าทริปไปต่างประเทศ เป็นต้น การทำอย่างนี้จะช่วยให้กำลังใจให้คุณในการออมเงินเพื่อเป้าหมายอะไรบางอย่าง คุณอาจนำวิธีออมเงินอื่นๆ มาประยุกต์ใช้กับวิธีนี้ด้วยก็ได้ ถึงเวลาที่จะต้องใช้เงิน ก็แคะกระปุกมานับดู 6. หักเศษเงินเดือน สมมุติ คุณได้เงินเดือน 14,570 บาท ก็ลองเอา 570 บาทที่เป็นเศษออกมาเก็บไว้ เท่านี้ก็ได้รู้แล้วว่า อย่างน้อยๆ เนี่ย เดือนนี้ฉันมีเงินเก็บ 570 บาทแล้วนะ ง่ายๆ เลยใช่ไหมล่ะ นี่ยังไม่รวมกับการใช้วิธีอื่นๆ อีกในการออมเงินอีกนะเนี่ย 7. เจอแบงค์ใหม่ อย่าใช้ ถ้าคุณได้ธนบัตรใหม่ที่ใบยังสวยๆ เหมือนกับยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ให้คุณเก็บไว้เลย ซึ่งคุณอาจถามกลับว่า ถ้าไปกดเงินมา หรือไปธนาคารแล้วได้ธนบัตรใหม่มาทั้งหมดเลย แต่ต้องกินต้องใช้นี่? ก็ถ้าเป็นธนบัตร 1,000 หรือ 500 บาท ยังไงก็ต้องนำไปใช้แหละเนอะ แต่ถ้าเจอธนบัตรย่อยๆ อย่าง 100 หรือ 50 บาท อย่างนี้อย่าใช้ รีบเก็บเลย 8. ออมเท่าค่ากาแฟ คุณเป็นหนึ่งในคนที่ซื้อกาแฟทุกเช้าเพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าพร้อมทำงานหรือเปล่า? ยิ่งซื้อจากร้านชื่อดังบางร้านแล้ว มูลค่าแทบจะเทียบเท่าอาหาร 3 มื้อเลยด้วยซ้ำ วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้มองเห็นว่า การซื้อกาแฟจากร้าน ซึ่งดูเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย จริงๆ แล้วเมื่อทำทุกวัน จะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายตรงนี้แหละที่ทำให้เงินออมเราหายไปเป็นจำนวนมาก สมมุติคุณซื้อกาแฟทุกวันที่ไปทำงาน ราคาแก้วละ 70 บาท คุณจะได้ออมเงิน 1,400 บาทจากวิธีนี้เพียงอย่างเดียว แต่ก็เท่ากับว่าคุณเสียเงินไป 1,400 บาทด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าซื้อกาแฟน้อยลง เงินที่จะบินออกจากกระเป๋าเงินของคุณก็จะน้อยลง และส่วนนั้นก็จะสามารถกลายมาเป็นเงินออมได้โดยปริยาย 9. ออม 10% จากเงินที่ได้ พ่อค้าแม่ค้า เงินที่ได้มามักจะไม่ค่อยได้เก็บเพราะเอาไปหมุนเงินซื้อของเพื่อนำมาขายต่ออีกเรื่อยๆ มีเงินในบัญชีหรือในมือเมื่อไรก็เอาไปลงกับการซื้อของหมด ดังนั้น ลองใช้วิธี ออม 10% จากเงินที่ได้ในแต่ละวัน เช่น วันนี้ขายของได้ 5,000 บาท ก็ให้หยอดลงกระปุก 500 บาท วันไหนขายได้มากก็มีเงินออมมาก วันไหนขายได้น้อยก็มีเงินออมน้อย แต่ที่สำคัญคือเรามีเงินออมทุกวันนะครับ สำหรับผู้ที่ทำงานรับเงินเดือน เราก็สามารถทำวิธีนี้ได้เหมือนกัน คือเก็บเงินจากเงินเดือน แบ่งออกมา 10% ทุกเดือนๆ แล้วฝากธนาคาร โดยเราจะต้องไม่นำเงินส่วนนี้ออกมาใช้เลย หากเราได้เงินเดือนละ 15,000 บาทก็เก็บเดือนละ 1,500 บาท เป็นต้น สิ้นปีที มาตรวจสอบบัญชีอีกทีอาจจะมีมากกว่าที่เราคิดก็ได้นะครับ การออมเงินจริงๆ แล้วเราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการออมเพียงแค่วันละนิดวันละหน่อย โดยเน้นที่การสร้างนิสัย และวินัยในการออมเงิน ออมวันละนิดก็ยังดีกว่ามัวแต่นั่งคิดว่าออมไม่ไหวนยะครับ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันกันนะครับ ได้ผลยังไง มีวิธีดีๆ ใหม่ๆ ได้ผลยังไงมาเล่าสู่กันฟังในคอมเม้นได้เลยครับ

2025-03-03 01:19

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม

9 วิธี ออมเงิน แบบชิลๆ แต่ได้ผลแบบไม่ชิล

พูดถึงคำว่า ออมเงิน เราคงจำคำสอนของพ่อแม่ได้นะครับ ว่ามีเงินก็ต้องเก็บออม ได้ค่าขนมก็ใช้ให้เหลือ เก็บมาหยอดใส่กระปุกออมสิน ตอนเด็กๆ ก็พอจะทำได้บ้างอยู่หรอก แต่พอโตขึ้น รู้สึกว่าการออมเงินแม้แต่จำนวนสักเพียงนิดจากเงินเดือน ทำไมถึงทำยากขนาดนี้ มีคนจำนวนมากที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการวางแผนจัดการเงิน ทำให้เราไม่มีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือน เผลอๆ กลับมีหนี้บัตรเครดิตจนคนรอบข้างเอือมก็มีนะครับ การออมเงิน ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องยากครับ เรามาดูวิธีการออมเงินง่ายๆ 5 วิธี ที่จะช่วยให้คุณออมเงินได้อย่างชิลๆ กันครับ

2025-03-03 01:17

ถูกใจ

ตอบกลับ

อุตสาหกรรม‘ฮิลลารี’ ชนะ ‘ทรัมป์’ ขาดลอย

ช่วงเวลาก่อนหน้าการดีเบตแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่สูสีกันมาก โดยโพลของรอยเตอร์/อิปซอสล่าสุดระบุว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนำหน้านายทรัมป์อยู่ 4 จุด จากการสำรวจผู้ที่มีแนวโน้มจะไปใช้สิทธิลงคะแนน 41 เปอร์เซ็นต์ โดยการดีเบตเป็นเวลา 90 นาทีครั้งนี้อาจโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังลังเลตัดสินใจได้ โดยโพลของรอยเตอร์/อิปซอสอีกชิ้นหนึ่งระบุด้วยว่า 61 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะไปใช้สิทธิพึ่งพาการดีเบตเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ขณะที่ทั้งฮิลลารีและทรัมป์ต่างกล่าวโจมตีกันอย่างดุเดือดในการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์แบบเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก ที่เริ่มต้นเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 08.00 น. ของวันที่ 27 กันยายนในไทย) จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตราในเมืองเฮมป์สเตด รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีนายเลสเตอร์ โฮลต์ ผู้ประกาศข่าวภาคค่ำของเอ็นบีซี เป็นผู้ดำเนินรายการ นางฮิลลารี วัย 68 ปี มาในชุดสีแดง ขณะที่นายทรัมป์ วัย 70 ปี ใส่สูทสีดำและเนกไทสีน้ำเงินแทนที่จะใส่สีแดงตามปกติ ผู้สมัครทั้ง 2 ทักทายกันด้วยการจับมือและยิ้มให้กันก่อนเริ่มต้นการดีเบตครั้งประวัติศาสตร์ที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจมีผู้ชมการถ่ายทอดสดมากกว่า 100 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบหลายปีของการเมืองอเมริกัน นางฮิลลารีกล่าวโจมตีนายทรัมป์ว่าเป็นคนที่หลุดโลก แทบจะไม่มีความเชื่อมโยงกับข้อเท็จจริง โดยยินดีที่จะพูดเรื่องบ้าๆ บอๆ เพื่อที่จะให้ได้รับการเลือกตั้ง

Mhee Academy

2025-03-03 13:38

อุตสาหกรรมศึกดีเบตนัดแรกเมื่อเช้าตามเวลาไทย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การดีเบตระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครตและนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ที่สิ้นสุดลงแล้ว ปรากฏว่าจากการผลสำรวจของซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซี โพลล์ หลังการดีเบตพบว่านางฮิลลารี คลินตัน ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย โดยได้คะแนนเสียงไปถึง 62 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายทรัมป์ได้ไป 27 เปอร์เซ็นต์

JoeyM1

2025-03-03 13:38

อุตสาหกรรมรัสเซียเพิ่มสำรองทองคำเข้าท้องพระคลังอีก 200 ตัน

29 Sep 2016 Sputnik News รัสเซียมีแผนจะตุน ทองคำเก็บเข้าคลังประมาณ 200 ตันในปีนี้ ให้เกือบ ใกล้เคียนกับปีที่แล้วที่เก็บเข้าคลัง 208 ตันในปี 2015 ซึ่งเป็นไปตามที่ รองผู้อำนวยการแผนกสถิติที่ธนาคาร กลางรัสเซีย Anton Navoi ชี้แจงว่า มันเป็นสร้างผล กำไร ให้กับภาครัฐที่จะซื้อโลหะมีค่าตั้งแต่รัสเซีย เป็นผู้นำในการผลิตทองคำระดับโลก เขากล่าวในที่ประชุมเมื่อวันพุธอย่างเป็นทางการว่า"ในปีที่แล้วธนาคารกลางซื้อทองคำกักตุนได้ 208 ตัน. ในปีนี้ ก็จะรับซื้อประมาณ 200 ตัน" ทองในปัจจุบันนี้ ตาม บัญชี ประมาณร้อยละ 16 ของการแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศของประเทศที่เป็นทุนสำรอง Navoi ตั้งข้อสังเกต และในปัจจุบันมีความพยายามนำไปเพิ่ม ส่วนแบ่งโลหะมีค่าในเงินสำรองของรัสเซียดูเหมือนว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นในขณะที่การซื้อทองคำเป็นประโยชน์แก่ประเทศ

VichetSun

2025-03-03 13:36

อุตสาหกรรมFinancial Armageddon (ตอนที่ 1 ) โดยทวีสุข ธรรมศัก

ลับกลายเป็นการแก้ปัญหาด้วยการสร้างปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่า คือการนำโลกเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ที่ใหญ่ที่สุดพร้อมๆกันถึง 4 ลูก และ กำลังจะดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกไม่ได้อีกแล้ว ฟองสบู่ในตราสารทางการเงินทั้ง 4 ลูกประกอบไปด้วย 1. ฟองสบู่ในตราสารหนี้ 2. ฟองสบู่ในตลาดหุ้น 3. ฟองสบู่ในตลาดตราสารอนุพันธ์ 4. ฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ Graham Summers มีตำแหน่งเป็น Chief Market Strategist ของ Phoenix Capital Research ได้ทำข้อสรุปในสถานการณ์ปัจจุบันไว้ได้อย่างน่าสนว่า ปัญหาที่แท้จริงในขณะนี้คือ – ปัญหาที่แท้จริงของระบบการเงินของโลกคือ การเกิดฟองสบู่ในตลาดตราสารหนี้ โดยในปี 2008 ที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ตราสารหนี้มีมูลค่า $80 ล้านล้าน แต่ปัจจุบันมีการเติบโตมากกว่า $100 ล้านล้าน – ตลาดตราสารอนุพันธ์ ที่เป็นหลักประกันของตราสารหนี้ที่กำลังเป็นฟองสบู่ในขณะนี้ มีมูลค่ามากว่า $555 ล้านล้าน ที่อ้างอิงกับ ตลาดตราสารหนี้ – บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่จำนวนมาก , กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ และบรรดามลรัฐต่างๆ ได้มีการใช้ตราสารอนุพันธ์ เพื่อตกแต่งรายได้ และซ่อนหนี้สินของบริษัท ไม่มีใครรู้ได้ว่าระดับความเสี่ยงมีขนาดเท่าไรในแต่ละกรณี แต่สามารถให้คำตอบได้ว่า 20% ของ CFOs ได้ยอมรับว่า ได้มีการตกแต่งรายได้ของบริษัทในช่วงเวลาที่ผ่านมา – บริษัทต่างๆ ในวันนี้ ได้มีการ leveraged หนี้สินต่อทุนขึ้นไปสูงกว่า ปี 2007 (ผมเห็นว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วโลก) และขณะนี้บริษัท Credit Rating ได้ลดระดับ Rating บริษัทในสหรัฐจำนวนมาก ลงสู่ระดับ Junk bond ซึ่งมีความเลวร้ายมากกว่าปี 2008 – ธนาคารกลาง (The Central Banks) หลายแห่งได้มีการ leveraged หนี้สินต่อทุนขึ้นไปสูงมาก และมากกว่า Lehman Brothers ที่มีการระเบิดออกมาจากข้างใน เช่น • Fed ได้ leveraged ที่ 78 to 1. • ECB ได้ leveraged มากกว่า 26 to 1. ขณะที่ Lehman Brothers ล้มละลายมีการ leveraged ที่ 30 to 1 – ธนาคารกลาง (The Central Banks) ได้หมดซึ่งยุทธวิธี ที่จะออกจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะ FED ที่มี Fed’s balance sheet จาก $ 1.3 ล้านล้าน เพิ่มขึ้นมากกว่า $4.5 ล้านล้าน ในปัจจุบัน – วันนี้ ธนาคารกลาง (The Central Banks) ได้ดำเนินนโยบาย ผลักความเสี่ยง ไปสู่ผู้ฝากเงินกับธนาคารและผู้ลงทุนในตลาดพันธบัตรและตราสารหนี้ (Bond) ด้วยนโยบายดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งเท่ากับว่า ผู้ฝากเงินและนักลงทุนกลายเป็นผู้ที่ต้องจ่ายผลตอบแทนในการฝากเงินและลงทุนในพันธบัตร – ทั่วโลกขณะนี้ มีอัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจากตลาดพันธบัตรสูงถึง $13 ล้านล้าน เป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของพันธบัตรทั่วโลก ซึ่ง Bill Gross ผู้จัดการกองทุนพันธบัตรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้แสดงความเห็นไว้ว่า การที่พันธบัตรทั่วโลกมีผลตอบแทนที่ ติดลบ ผลของมันจะระเบิดออกมาในระดับ Super Nova ในอีกไม่นาน

Mhee Academy

2025-03-03 13:34

อุตสาหกรรมFinancial Armageddon

ระบบเศรษฐกิจและระบบการเงินโลกกำลังมาถึงจุดที่ไม่สามารถขับดันการเติบโตของเศรษฐกิจได้อีกต่อไปแล้ว สาเหตุที่เรากำลังจะเผชิญนั้นมาจากนโยบายทางการเงินของระบบธนาคารกลางของประเทศขนาดใหญ่ทั่วโลก หลังจากเหตุการณ์ปี 2008 กับการเกิด Hamburger Crisis และตามมาด้วย Euro Crisis ในปี 2010 และ 2012 ธนาคารกลางของประเทศขนาดใหญ่ทั่วโลก ได้แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ด้วยนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หรือ อธิบายอย่างง่ายๆก็คือ การพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จากนโยบายดังกล่าว

JoeyM1

2025-03-03 13:34

อุตสาหกรรม(OPEC) ทำให้ราคาน้ำมันโลกพุ่ง 6%

ทั้งนี้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันขนาดเล็กหลายประเทศผลักดันให้โอเปกลดกำลังการผลิต หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงอย่างต่อเนื่องจาก 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อ 2 ปีก่อนซึ่งเป็นผลจากกำลังผลิตล้นตลาดและความต้องการน้ำมันที่ลดน้อยลง โดยข้อตกลงใหม่นี้จะจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศสมาชิกโอเปกที่ราว 32.5-33 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ปริมาณการผลิตในปัจจุบันอยู่ที่ราว 33.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดียังคงมีคำถามว่าโอเปกจะตรวจสอบปริมาณการผลิตของประเทศสมาชิกได้อย่างไร ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันยังคงสงสัยในรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าวและเห็นว่าต้องดูในรายละเอียดทั้งหมดก่อนที่จะให้ความเห็นที่ชัดเจนใดๆ

Mhee Academy

2025-03-03 13:31

อุตสาหกรรมโอเปก (OPEC) เห็นชอบปรับลดการผลิต

องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปก(OPEC) เห็นชอบในข้อตกลงเบื้องต้นที่จะปรับลดกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 6 เปอร์เซนต์ มาปิดที่ 49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดีจะมีการพิจารณารายละเอียดของการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมโอเปก(OPEC)ครั้งต่อไปในเดือนพฤศจิกายนนี้ ตามข้อตลงเบื้องต้น โอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตลงราววันละ 700,000 บาร์เรล แต่จะอนุญาตให้อิหร่าน ซึ่งเพิ่งจะสามารถขายน้ำมันสู่ตลาดโลกได้อีกครั้งหลังถูกยุติการคว่ำบาตรสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ ข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกในครั้งนี้สามารถบรรลุผลได้หลังจากความพยายามในครั้งก่อนล้มเหลวเมื่อไม่สามารถหาข้อยุติระหว่างอิหร่านกับซาอุดีอาระเบียได้

JoeyM1

2025-03-03 13:29

อุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยร่วงลงติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 2 ขณะที่นักลงทุนจับตาศึกดีเบตระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจชี้ชะตาผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้ ณ เวลา 20.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,119.38 จุด ลดลง 142.52 จุด หรือ 0.77% ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงในวันนี้ทำสถิติทรุดหนักสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังมีแนวโน้มร่วงลงหนักสุดในเดือนนี้นับตั้งแต่เดือนม.ค. โดยขณะนี้ดิ่งลงแล้วกว่า 1%

JoeyM1

2025-03-03 12:25

อุตสาหกรรม5 ทักษะที่ง่ายที่จะเรียนรู้ แต่ให้ประโยชน์สูงที่สุ

1. การบริหารจัดการเวลา หนึ่งในทักษะที่มีมูลค่าสูงสุดสำหรับผู้ประกอบการและนักธุรกิจระดับพันล้าน นั่นคือ การบริหารจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะทุกวินาทีของพวกเขาเป็นเงินเป็นทอง ทักษะเหล่านี้จะมาพร้อมกับการฝึกจัดระเบียบชีวิตตนเอง วางแผนสิ่งที่ต้องทำ ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงเรื่องธุรกิจว่า ทำอย่างไรถึงจะจัดการสิ่งที่ต้องทำได้เสร็จภายในเวลาที่จำกัด 2. คิดบวกกับตัวเอง ไม่สำคัญว่าใครจะมองตัวคุณอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญคือ คุณมองตัวเองอย่างไร ทักษะนี้อาจต้องใช้เวลาเพื่อให้คุณเกิดความเชื่อมั่นใจตนเอง มองถึงสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ ใช้สิ่งนั้นเป็นแรงผลักดันและต่อสู้กับปัญหา ท้ายที่สุดจะไม่มีปัญหาใดมาทำร้ายคุณได้อย่างแน่นอน 3. เอาใจเขามาใส่ใจเรา การเข้าใจผู้อื่นถือเป็นอีกหนึ่งในความสามารถเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจว่าผู้อื่นรู้สึกอย่างไร หรือต้องการอะไร หากว่าคุณเป็นหัวหน้า การที่คุณเข้าใจลูกน้องในทีมจะช่วยให้ทีมมีความแข็งแกร่ง กระตุ้นให้คนในทีมสามารถพยายามทำสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย 4. ขอความช่วยเหลือ เมื่อถึงเวลาที่เกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน หลายคนมักไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก บางคนอาจกลัวการถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอหรือไร้ความสามารถ แต่รู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วการเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่ดี นั่นอาจทำให้คุณได้เรียนรู้ความสามารถของผู้อื่น ความเฉลียวฉลาดและทักษะของพวกเขาอาจถ่ายทอดมาถึงคุณ ให้คุณได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ การขอความช่วยเหลือจึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่คุณควรมีติดตัวไว้โดยไม่ต้องอาย 5. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพูด หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดคือ การระงับความโกรธ หลายครั้งที่คนเรามักจะพูดในสิ่งที่ไม่ได้คิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนเวลาที่เราอยู่ในช่วงอารมณ์แห่งความโกรธ ความไม่พอใจ การพูดสิ่งใดในช่วงนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมามากมาย ดังนั้น การเก็บสิ่งที่ต้องการพูดเอาไว้ก่อน และให้เวลาช่วยตัดสินใจว่า ควรพูดสิ่งนั้นออกมาดีหรือไม่ น่าจะดีกว่าการที่คุณพูดออกไปและเสียใจทีหลังก็เป็นได้ สำหรับทักษะนี้แม้ว่าจะทำได้ยาก แต่หากคุณทำได้จะช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

Winz Thanakorn

2025-03-03 01:24

อุตสาหกรรม5 ทักษะที่ง่ายที่จะเรียนรู้ แต่ยากที่จะลงมือทำ

หลายครั้งสิ่งที่ดีในชีวิตแม้จะได้มาฟรีๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องใช้เวลาและความพากเพียรพยายาม ทุ่มเทลงไปเพื่อแลกกับสิ่งเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ที่สำคัญในชีวิต แม้จะเหน็ดเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คำถามคือทักษะที่ยากจะเรียนรู้ แต่สร้างให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าตลอดชีวิตเหล่านั้นคืออะไรบ้าง?

JoeyM1

2025-03-03 01:24

อุตสาหกรรมารผจญภัยในห้วงอวกาศประเทศ

กล้องโทรทรรศน์วิทยุใหญ่ที่สุด ในโลก เริ่มเปิดใช้งานมณฑลกุ้ยโจว (Guizhou Province) หวังจะค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกสำนักข่าว The New York Times รายงานว่า กล้องโทรทรรศน์วิทยุที่ชื่อ The Five-hundred-meter Aperture Spherical Telescope (FAST) ติดตั้งอยู่ในหุบเขาของมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เริ่มเปิดใช้งานราวเที่ยงวันของวันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2016 กล้องโทรทรรศน์ของจีนมูลค่า ¥1,200 Billion Yuan หรือประมาณ 6,239 ล้านบาท มีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 30 สนามเป็นกล้อง โทรทรรศน์ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้ากล้องโทรทรรศน์อาเรซิโบ ออฟเซิร์พวาโตรี (The Arecibo Observatory) ในเปอร์โตริโก โดยกล้องโทรทรรศน์ฟาสต์จะทำหน้าที่สำรวจอวกาศเพื่อค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตนอกโลก

JoeyM1

2025-03-03 01:20

อุตสาหกรรม9 วิธี ออมเงิน แบบชิลๆ

1. ออมวันละ 20 บาท เงิน 20 บาท ฟังดูน้อยมากเลยใช่ไหมครับ แล้วแบบนี้จะออมเงินเป็นก้อนได้จริงๆ หรอ? บอกเลยว่าอย่าดูถูกธนบัตรใบน้อยครับ หากคุณทำติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 เดือน (วันหยุด ก็อย่าหยุดออม นะครับ) คุณจะมีเงินออมถึง 600 บาท แล้วถ้าออมติดต่อกัน 1 ปีล่ะ? คุณจะมีเงินออมถึง 7,300 บาทเลยล่ะ! (ห้ามแกะเงินออกมาใช้ล่ะ!) สำหรับคนที่มองว่า ยังไงก็น้อยไปอยู่ดี อาจจะเปลี่ยนจาก 20 บาทเป็นออมวันละ 50 บาท หรือ 100 บาทก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ การสร้างนิสัยการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ และการสร้างวินัยการออมเงินของตนเอง อย่าหาข้ออ้างนะครับ ใกล้สิ้นเดือนแล้ว ขอตามใจตัวเองหน่อยด้วยการนำเงินที่ต้องออมไปใช้ เพราะเมื่อคุณทำอย่างนั้นครั้งหนึ่ง ครั้งต่อๆ ไปก็จะตามมา สุดท้ายก็ออมเงินแทบไม่ได้เหมือนเดิมครับ 2. มีสลึง พึงบรรจบ ให้ครบบาท … หากวันนี้เราไปทำงาน ใช้เงินยังไงหากเราไม่พยายามจะใช้ให้หมดก็จะต้องได้เศษเงินทอน ได้เหรียญกลับมาบ้านแน่นอน จริงไหมครับ ก็ออมเหรียญนี่ล่ะครับ ได้มาเท่าไหร่ ก็เก็บใส่กระปุก อย่าเอาออกมาใช้ อาจจะใช้ขวดน้ำ กระป๋องอาหารล้างแล้วเจาะรูหยอดเหรียญ ทำเป็นกระปุกออมสินแบบแนวๆ ก็ได้ครับ ผมแนะนำใช้ขวดน้ำ หรือพาชนะใสๆ เพราะเราหยอดทุกวันๆ เห็นจำนวนเหรียญมันเพิ่มขึ้นๆ เป็นกำลังใจให้เราออมต่อไปได้ครับ 3. แบ่งเงินใส่ถุง ให้คุณลองสังเกตตัวเองดูว่า เฉลี่ยแล้วในแต่ละวันเสียเงินไปประมาณกี่บาท บวกเงินเข้าไปอีกนิดหน่อยเผื่อมีอะไรฉุกเฉิน หาตัวเลขกลมๆ ไว้ แล้วให้นำเงินมาใส่ถุงเพื่อใช้ในแต่ละวัน เช่น หากคุณใช้เงินวันละไม่เกิน 200 บาท ก็อาจจะใส่ซองไว้ 250 บาท เป็นจำนวนซองเท่าจำนวนวันในเดือนนั้น จากนั้นก่อนออกไปเรียนหรือไปทำงาน ก็หยิบซองเงินมาหนึ่งซอง การทำอย่างนี้จะช่วยให้คุณใช้เงินในจำนวนจำกัด ที่เหลือจะได้ออมหมด และฝึกให้คุณวางแผนจัดการเงินในมืออย่างมีคุณค่ามากที่สุดด้วย 4. กินแค่ 150 ถ้าเกิน ต้องหยอดกระปุกตามที่เกิน กำหนดเลยว่า ภายในหนึ่งวัน คุณต้องใช้เงินไปกับค่าอาหารแค่ประมาณ 100 บาทเท่านั้น หากเกินกว่านี้ เช่น คุณจ่ายค่าอาหารไป 200 บาทวันนี้ แสดงว่าคุณต้องหยอดกระปุกเป็นเงิน 50 บาท วิธีนี้นอกจากจะได้จำกัดงบประมาณตนเองในการเลือกซื้ออาหาร ยังได้ออมเงินเพิ่มอีกนิดๆ ด้วย แบบนี้เงินเก็บหนาแน่นอน 5. มีหลายๆ กระปุก สำหรับวิธีนี้ ง่ายๆ เลยก็คือ ให้หากระปุกมาหลายๆ กระปุก จากนั้นก็เขียนแปะลงไปบนแต่ละกระปุกเลยว่า อันนี้เก็บไปจ่ายอะไร เช่น ค่ารองเท้าทำงานคู่ใหม่ ค่าทริปไปต่างประเทศ เป็นต้น การทำอย่างนี้จะช่วยให้กำลังใจให้คุณในการออมเงินเพื่อเป้าหมายอะไรบางอย่าง คุณอาจนำวิธีออมเงินอื่นๆ มาประยุกต์ใช้กับวิธีนี้ด้วยก็ได้ ถึงเวลาที่จะต้องใช้เงิน ก็แคะกระปุกมานับดู 6. หักเศษเงินเดือน สมมุติ คุณได้เงินเดือน 14,570 บาท ก็ลองเอา 570 บาทที่เป็นเศษออกมาเก็บไว้ เท่านี้ก็ได้รู้แล้วว่า อย่างน้อยๆ เนี่ย เดือนนี้ฉันมีเงินเก็บ 570 บาทแล้วนะ ง่ายๆ เลยใช่ไหมล่ะ นี่ยังไม่รวมกับการใช้วิธีอื่นๆ อีกในการออมเงินอีกนะเนี่ย 7. เจอแบงค์ใหม่ อย่าใช้ ถ้าคุณได้ธนบัตรใหม่ที่ใบยังสวยๆ เหมือนกับยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ให้คุณเก็บไว้เลย ซึ่งคุณอาจถามกลับว่า ถ้าไปกดเงินมา หรือไปธนาคารแล้วได้ธนบัตรใหม่มาทั้งหมดเลย แต่ต้องกินต้องใช้นี่? ก็ถ้าเป็นธนบัตร 1,000 หรือ 500 บาท ยังไงก็ต้องนำไปใช้แหละเนอะ แต่ถ้าเจอธนบัตรย่อยๆ อย่าง 100 หรือ 50 บาท อย่างนี้อย่าใช้ รีบเก็บเลย 8. ออมเท่าค่ากาแฟ คุณเป็นหนึ่งในคนที่ซื้อกาแฟทุกเช้าเพื่อให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าพร้อมทำงานหรือเปล่า? ยิ่งซื้อจากร้านชื่อดังบางร้านแล้ว มูลค่าแทบจะเทียบเท่าอาหาร 3 มื้อเลยด้วยซ้ำ วิธีนี้จะช่วยให้คุณได้มองเห็นว่า การซื้อกาแฟจากร้าน ซึ่งดูเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย จริงๆ แล้วเมื่อทำทุกวัน จะเห็นได้ว่า ค่าใช้จ่ายตรงนี้แหละที่ทำให้เงินออมเราหายไปเป็นจำนวนมาก สมมุติคุณซื้อกาแฟทุกวันที่ไปทำงาน ราคาแก้วละ 70 บาท คุณจะได้ออมเงิน 1,400 บาทจากวิธีนี้เพียงอย่างเดียว แต่ก็เท่ากับว่าคุณเสียเงินไป 1,400 บาทด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าซื้อกาแฟน้อยลง เงินที่จะบินออกจากกระเป๋าเงินของคุณก็จะน้อยลง และส่วนนั้นก็จะสามารถกลายมาเป็นเงินออมได้โดยปริยาย 9. ออม 10% จากเงินที่ได้ พ่อค้าแม่ค้า เงินที่ได้มามักจะไม่ค่อยได้เก็บเพราะเอาไปหมุนเงินซื้อของเพื่อนำมาขายต่ออีกเรื่อยๆ มีเงินในบัญชีหรือในมือเมื่อไรก็เอาไปลงกับการซื้อของหมด ดังนั้น ลองใช้วิธี ออม 10% จากเงินที่ได้ในแต่ละวัน เช่น วันนี้ขายของได้ 5,000 บาท ก็ให้หยอดลงกระปุก 500 บาท วันไหนขายได้มากก็มีเงินออมมาก วันไหนขายได้น้อยก็มีเงินออมน้อย แต่ที่สำคัญคือเรามีเงินออมทุกวันนะครับ สำหรับผู้ที่ทำงานรับเงินเดือน เราก็สามารถทำวิธีนี้ได้เหมือนกัน คือเก็บเงินจากเงินเดือน แบ่งออกมา 10% ทุกเดือนๆ แล้วฝากธนาคาร โดยเราจะต้องไม่นำเงินส่วนนี้ออกมาใช้เลย หากเราได้เงินเดือนละ 15,000 บาทก็เก็บเดือนละ 1,500 บาท เป็นต้น สิ้นปีที มาตรวจสอบบัญชีอีกทีอาจจะมีมากกว่าที่เราคิดก็ได้นะครับ การออมเงินจริงๆ แล้วเราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการออมเพียงแค่วันละนิดวันละหน่อย โดยเน้นที่การสร้างนิสัย และวินัยในการออมเงิน ออมวันละนิดก็ยังดีกว่ามัวแต่นั่งคิดว่าออมไม่ไหวนยะครับ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันกันนะครับ ได้ผลยังไง มีวิธีดีๆ ใหม่ๆ ได้ผลยังไงมาเล่าสู่กันฟังในคอมเม้นได้เลยครับ

Winz Thanakorn

2025-03-03 01:19

อุตสาหกรรม9 วิธี ออมเงิน แบบชิลๆ แต่ได้ผลแบบไม่ชิล

พูดถึงคำว่า ออมเงิน เราคงจำคำสอนของพ่อแม่ได้นะครับ ว่ามีเงินก็ต้องเก็บออม ได้ค่าขนมก็ใช้ให้เหลือ เก็บมาหยอดใส่กระปุกออมสิน ตอนเด็กๆ ก็พอจะทำได้บ้างอยู่หรอก แต่พอโตขึ้น รู้สึกว่าการออมเงินแม้แต่จำนวนสักเพียงนิดจากเงินเดือน ทำไมถึงทำยากขนาดนี้ มีคนจำนวนมากที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการวางแผนจัดการเงิน ทำให้เราไม่มีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือน เผลอๆ กลับมีหนี้บัตรเครดิตจนคนรอบข้างเอือมก็มีนะครับ การออมเงิน ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องยากครับ เรามาดูวิธีการออมเงินง่ายๆ 5 วิธี ที่จะช่วยให้คุณออมเงินได้อย่างชิลๆ กันครับ

JoeyM1

2025-03-03 01:17

อุตสาหกรรม10 วิธีที่คนรวยออมเงินกัน เค้าออมเงินอย่างไรถึงรวย

10 วิธีที่คนรวยออมเงินกัน เค้าออมเงินอย่างไรถึงรวย เป็นใคร ใครก็อยากมีเงินเยอะๆ จริงไหมครับ หากคุณเคยสงสัยว่าคนรวยเขาทำยังไง ทั้งมีเงิน ทั้งประสบความสำเร็จ เราได้รวบรวมวิธีการ ออมเงิน ของคนรวย มาฝากในบทความนี้ จริงๆ แล้ววิธีการก็ไม่ได้ยากนะครับ แต่การมีวินัย และทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจนั้น ยากกว่าครับ มาดูกันเลยครับว่า วิธีการออมเงิน ของคนรวยมีอะไรกันบ้าง

JoeyM1

2025-03-03 01:15

อุตสาหกรรมดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

ประเทศที่ออก: สหรัฐอเมริกา รหัสสกุลเงิน: USD ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินหลักของสหรัฐอเมริกาและดินแดนต่างๆของประเทศ ดอลลาร์สหรัฐได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1972 และกลายเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก ดอลลาร์สหรัฐขึ้นชื่อว่าเป็น “สกุลเงินสำรองโลก” ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ จากการหมุนเวียนของ USD ทั้งหมด มีเพียง 30% ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่า 70% ของธนบัตรและเหรียญ USD ทั้งหมดถูกใช้นอกประเทศสหรัฐอเมริกา

Mhee Academy

2025-03-03 00:56

อุตสาหกรรมยูโร (EUR)

ประเทศที่ออก: เขตยูโร อัตราแลกเปลี่ยน: 1 EUR = 1.02 USD ยูโรเป็นสกุลเงินหลักของ 19 ประเทศในยุโรป เนื่องจากเป็นสกุลเงินที่มีอายุน้อยที่สุด ยูโรจึงเป็นสกุลเงินที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลกเป็นอันดับ 2 ทั้งในแบบสำรองและหมุนเวียน เงินยูโรไม่ได้ถูกผูกไว้กับสกุลเงินอื่น แต่มีประมาณ 25 ประเทศที่ได้ตรึงสกุลเงินประจำชาติของตนไว้กับสกุลเงินยูโร

Mhee Academy

2025-03-03 00:56

อุตสาหกรรมฟรังก์สวิส (CHF)

ประเทศที่ออก: สวิตเซอร์แลนด์ อัตราแลกเปลี่ยน: 1 CHF = 1.04 USD ฟรังก์สวิสเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของสวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์ ซึ่งเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ฟรังก์สวิสเป็นที่รู้จักกันในชื่อสกุลเงิน “ที่หลบภัย” เนื่องจากเศรษฐกิจที่มั่นคง, นโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุด, และระดับหนี้ที่ต่ำที่สุดของประเทศ ธนบัตรของสวิตเซอร์แลนด์ได้เปิดตัวในปี 1850 เป็นธนบัตรใบเดียวในโลกที่มีรูปลักษณ์แนวตั้ง

Mhee Academy

2025-03-03 00:56

อุตสาหกรรมปอนด์สเตอร์ลิง (GBP)

ประเทศที่ออก: อังกฤษ อัตราแลกเปลี่ยน: 1 GBP = 1.21 USD ปอนด์สเตอร์ลิงเป็นสกุลเงินหลักของอังกฤษ ดินแดนภายใต้อธิปไตยของอังกฤษ และดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ มันเป็นสกุลเงินที่มีมูลสูงที่สุดที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง มันไม่ใช่แค่สกุลเงินที่เก่าแก่ที่สุดแต่เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกการค้าและการเงิน มันเป็นส่วนหนึ่งของตะกร้าสิทธิพิเศษถอนเงินกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

Mhee Academy

2025-03-03 00:55

อุตสาหกรรมดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมน (KYD)

ประเทศที่ออก: หมู่เกาะเคย์แมน ดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนเป็นสกุลเงินหลักของหมู่เกาะเคย์แมน หมู่เกาะเคย์แมนเป็นที่รู้จักในนาม “สวรรค์ของภาษี” เนื่องจากพวกเขาให้บริการธนาคารนอกอาณาเขตสำหรับองค์กรทางการเงินและบุคคลผู้มั่งคั่ง ดอลลาร์หมู่เกาะเคย์แมนถูกนำมาใช้ในปี 1970 และเชื่อมโยงกับดอลลาร์สหรัฐฯในอัตราคงที่

Mhee Academy

2025-03-03 00:55

อุตสาหกรรมเรียลโอมาน (OMR)

ประเทศที่ออก: โอมาน เรียลโอมานได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1970 เป็นสกุลเงินหลักของโอมานและได้ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอาหรับ รัฐสุลต่านโอมานมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเนื่องจากการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก อย่างไรก็ตาม รายได้ของประเทศก็ยังมาจากการท่องเที่ยวและการเกษตรอีกด้วย

Mhee Academy

2025-03-03 00:53

เข้าร่วม
การแบ่งแยกตลาด

แพลตฟอร์ม

งานแสดงสินค้า

ตัวแทนโบรกเกอร์

รับสมัครงาน

EA

อุตสาหกรรม

ราคาตลาด

ดัชนี

การพูดคุยยอดนิยม

ดัชนีทางเทคนิค

สอบถามค่ะ

ดัชนีทางเทคนิค

ผูกบัญชี

ดัชนีทางเทคนิค

vps พึ่งใช้มาได้ 7 วัน

ดัชนีทางเทคนิค

ประกาศรายชื่อผู้โชคดี แจกหนังสือ Forex

ดัชนีทางเทคนิค

vps 7 วันแล้วถูกตัด

ดัชนีทางเทคนิค

ขอคำแนะนำหน่อยครับ

โพสต์