Samsung SDI ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จัดหาแบตเตอรี่ สำหรับโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้า กว่า 30 แห่ง รถยนต์รุ่นแรกที่ติดตั้งแบตเตอรี่ Samsung SDI คือ Fiat 500e (EV), BMW i3 (EV), BMW i8 (PHEV) และอีกหลายรุ่นของ OEMs Samsung SDI มีประสบการณ์การผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนาน 15 ปี มียอดขายกว่า 7 พันล้านเซลล์ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาและขายได้มากกว่า 1 พันล้านเซลล์ต่อปี Samsung SDI ได้เปิดตัวรถแข่งครั้งแรกใน "Hockenheimring" ที่บริษัท DTM (Deutsche Tourenwagen Masters) ซึ่งเป็นแชมป์มอเตอร์สปอร์ตชั้นนำในยุโรป แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี และประสิทธิภาพตัวเครื่องของ Samsung SDI

Samsung SDI ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จัดหาแบตเตอรี่ สำหรับโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฟฟ้า กว่า 30 แห่ง รถยนต์รุ่นแรกที่ติดตั้งแบตเตอรี่ Samsung SDI คือ Fiat 500e (EV), BMW i3 (EV), BMW i8 (PHEV) และอีกหลายรุ่นของ OEMs Samsung SDI มีประสบการณ์การผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนนาน 15 ปี มียอดขายกว่า 7 พันล้านเซลล์ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาและขายได้มากกว่า 1 พันล้านเซลล์ต่อปี Samsung SDI ได้เปิดตัวรถแข่งครั้งแรกใน "Hockenheimring" ที่บริษัท DTM (Deutsche Tourenwagen Masters) ซึ่งเป็นแชมป์มอเตอร์สปอร์ตชั้นนำในยุโรป แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี และประสิทธิภาพตัวเครื่องของ Samsung SDI

ตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกในปี พศ. 2551 ความต้องการแร่และสารเคมีลิเธียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 10 ถึงร้อยละ 15 ต่อปี ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แบตเตอรี่ลิเธียมมีการเติบโตเป็นอย่างมาก ปัจจุบันแบตเตอรี่ลิเธียมมีประมาณ 26% ต่อความต้องการลิเธียมทั่วโลก ทาง “Galaxy Resources” ได้สร้างโปรเจคใหญ่ขึ้นมา 3 โปรเจค เพื่อผลิตแร่ลิเธียมให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีสถานที่ในการขุดเจาะ ที่เหมาะสมกับแต่ล่ะโปรเจคที่วางไว้ - โปรเจคที่ 1 “Sal de Vida” ในอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตแร่ลิเธียมใน “Salar de Atacama” และ “Salar del Hombre Muerto” กว่าร้อยละ 60 ของโลก มีปริมาณแร่ธาตุลิเธียมมากกว่า 385 ตารางกิโลเมตร บริษัท กล่าวว่าโครงการ “Sal de Vida” ประสบความสำเร็จในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกในปี พศ. 2551 ความต้องการแร่และสารเคมีลิเธียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องร้อยละ 10 ถึงร้อยละ 15 ต่อปี ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา แบตเตอรี่ลิเธียมมีการเติบโตเป็นอย่างมาก ปัจจุบันแบตเตอรี่ลิเธียมมีประมาณ 26% ต่อความต้องการลิเธียมทั่วโลก ทาง “Galaxy Resources” ได้สร้างโปรเจคใหญ่ขึ้นมา 3 โปรเจค เพื่อผลิตแร่ลิเธียมให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีสถานที่ในการขุดเจาะ ที่เหมาะสมกับแต่ล่ะโปรเจคที่วางไว้ - โปรเจคที่ 1 “Sal de Vida” ในอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตแร่ลิเธียมใน “Salar de Atacama” และ “Salar del Hombre Muerto” กว่าร้อยละ 60 ของโลก มีปริมาณแร่ธาตุลิเธียมมากกว่า 385 ตารางกิโลเมตร บริษัท กล่าวว่าโครงการ “Sal de Vida” ประสบความสำเร็จในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมเป็นอย่างมาก

โซเชียลมีเดียเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังปรับปรุง News Feed เพื่อ “กระตุ้นให้เกิดการสนทนา”มากกว่าที่จะส่งเสริมธุรกิจ อย่างไรก็ตามมีความกังวลว่าการปรับปรุงนี้จะทำให้มีการเผยแพร่ข่าวลวง (Fake news) มากขึ้น เฟสบุ๊คประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะทำการเปลี่ยนแปลง News Feed เพื่อ”จัดลำดับความสำคัญของโพสต์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสนทนาและการโต้ตอบกันอย่างมีความหมายระหว่างผู้คน” “สิ่งที่เฟสบุ๊คทำได้ดีที่สุดคือการเชื่อมโยงผู้คน ด้วยการมุ่งเน้นที่จะนำผู้คนมาใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว หรือเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในโลก เราสามารถช่วยทำให้การใช้เวลาในเฟสบุ๊คคุ้มค่า” Zuckerberg เขียน ใน 2-3 เดือนข้างหน้า บริษัทจะเริ่มการปรับปรุงที่”คาดการณ์”ได้ว่าโพสต์ใดที่ผู้ใช้งานอาจต้องการคุยเรื่องนี้กับเพื่อนและกำหนดให้มีความสำคัญมากกว่า - จากบล็อกของ Adams Mosseri หัวหน้าทีมเฟสบุ๊ค News Feed

โซเชียลมีเดียเน็ตเวิร์คที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังปรับปรุง News Feed เพื่อ “กระตุ้นให้เกิดการสนทนา”มากกว่าที่จะส่งเสริมธุรกิจ อย่างไรก็ตามมีความกังวลว่าการปรับปรุงนี้จะทำให้มีการเผยแพร่ข่าวลวง (Fake news) มากขึ้น เฟสบุ๊คประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะทำการเปลี่ยนแปลง News Feed เพื่อ”จัดลำดับความสำคัญของโพสต์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสนทนาและการโต้ตอบกันอย่างมีความหมายระหว่างผู้คน” “สิ่งที่เฟสบุ๊คทำได้ดีที่สุดคือการเชื่อมโยงผู้คน ด้วยการมุ่งเน้นที่จะนำผู้คนมาใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว หรือเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในโลก เราสามารถช่วยทำให้การใช้เวลาในเฟสบุ๊คคุ้มค่า” Zuckerberg เขียน ใน 2-3 เดือนข้างหน้า บริษัทจะเริ่มการปรับปรุงที่”คาดการณ์”ได้ว่าโพสต์ใดที่ผู้ใช้งานอาจต้องการคุยเรื่องนี้กับเพื่อนและกำหนดให้มีความสำคัญมากกว่า - จากบล็อกของ Adams Mosseri หัวหน้าทีมเฟสบุ๊ค News Feed

- บริษัท "Pilbara Minerals" ได้เล็งเห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมลิเธียมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงจัดทำโครงการ “Pilgangoora Lithium-Tantalum” ในรัฐเวสเทิร์นประเทศออสเตรเลีย ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นโครงการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมชั้นนำของโลก "Pilbara Minerals" ได้ทำสัญญา 7 ปีกับ "Power Contract" ของออสเตรเลียสำหรับการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย - บริษัท "Pilbara Minerals Ltd" ได้ร่วมลงทุนหลายล้านดอลลาร์กับ บริษัท "Great Wall Motor" ของจีน เพื่อซื้อหุ้นเหมืองแร่ในออสเตรเลีย ซึ่งมีปริมาณลิเธียมถึง 150,000 ตันต่อปี - Ken Brinsden ผู้อำนวยการฝ่ายของ "Pilbara Mineral" กล่าวว่า การร่วมทุนกันนี้ถือเป็น "ก้าวที่สำคัญ" ในการร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมชั้นนำของโลก

- บริษัท "Pilbara Minerals" ได้เล็งเห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมลิเธียมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงจัดทำโครงการ “Pilgangoora Lithium-Tantalum” ในรัฐเวสเทิร์นประเทศออสเตรเลีย ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นโครงการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมชั้นนำของโลก "Pilbara Minerals" ได้ทำสัญญา 7 ปีกับ "Power Contract" ของออสเตรเลียสำหรับการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย - บริษัท "Pilbara Minerals Ltd" ได้ร่วมลงทุนหลายล้านดอลลาร์กับ บริษัท "Great Wall Motor" ของจีน เพื่อซื้อหุ้นเหมืองแร่ในออสเตรเลีย ซึ่งมีปริมาณลิเธียมถึง 150,000 ตันต่อปี - Ken Brinsden ผู้อำนวยการฝ่ายของ "Pilbara Mineral" กล่าวว่า การร่วมทุนกันนี้ถือเป็น "ก้าวที่สำคัญ" ในการร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมชั้นนำของโลก

บริษัท “GS Yuasa Corporation” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยการรวมกิจการของ บริษัท “Japan Storage Battery” และ “YUASA Battery GS Yuasa” ร่วมกันพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ใหม่ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทเทรดดิ้ง “Mitsubishi Corporation” กับบริษัทผลิตรถยนต์ “Mitsubishi Motors” ในนามบริษัท “Lithium Energy Japan” ซึ่งจะจำหน่ายให้กับผู้ผลิตรถยนต์ทั้งในญี่ปุ่นและยุโรป รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นรองรถยนต์น้ำมัน แต่จุดอ่อนเรื่องนี้กำลังจะหมดไปเมื่อบริษัท “GS Yuasa” ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออนตัวใหม่ ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กวิ่งไกลกว่าเดิม 2 เท่า และยังขายในราคาระดับเดียวกับที่ขายในปัจจุบัน

บริษัท “GS Yuasa Corporation” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยการรวมกิจการของ บริษัท “Japan Storage Battery” และ “YUASA Battery GS Yuasa” ร่วมกันพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ใหม่ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทเทรดดิ้ง “Mitsubishi Corporation” กับบริษัทผลิตรถยนต์ “Mitsubishi Motors” ในนามบริษัท “Lithium Energy Japan” ซึ่งจะจำหน่ายให้กับผู้ผลิตรถยนต์ทั้งในญี่ปุ่นและยุโรป รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นรองรถยนต์น้ำมัน แต่จุดอ่อนเรื่องนี้กำลังจะหมดไปเมื่อบริษัท “GS Yuasa” ประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออนตัวใหม่ ที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กวิ่งไกลกว่าเดิม 2 เท่า และยังขายในราคาระดับเดียวกับที่ขายในปัจจุบัน

2. หุ้นที่เป็นสินค้าใหม่ ที่เริ่มจะสร้างตลาดใหม่ หรือ กลุ่มลูกค้าเดิมมีขนาดเล็มมากแต่จะนำสินค้า และบริการมาขายให้กับคนทั่วไปได้ใช้งาน หรือเป็นสินค้า และบริการที่จะมาแทนที่สิ่งที่มีอยู่เดิม ปัจจุบันมีเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย บางครั้งเราจะเห็นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่เราเคยอ่านเจอในการ์ตูนตอนเด็กสามารถใช้งานได้จริงแล้ว เช่น รถไร้คนขับ เครื่องแปลภาษา เครื่องพิมพ์สามมิติ หุ่นยนต์ที่สามารถติดต่อพูดคุยกับเราได้ หรือแม้กระทั่ง AI ที่สามารถคิดวิเคราะห์ และตอบสนองกันคำสั่งของเราได้ทันที สิ่งต่างๆที่กล่าวถึงเหล่านี้ไม่ได้พึ่งที่จะเริ่มคิด หรือทำกันตอนนี้แต่สิ่งเหล่านี้ได้มีการพัฒนากันมาหลายสิบปีแล้ว

2. หุ้นที่เป็นสินค้าใหม่ ที่เริ่มจะสร้างตลาดใหม่ หรือ กลุ่มลูกค้าเดิมมีขนาดเล็มมากแต่จะนำสินค้า และบริการมาขายให้กับคนทั่วไปได้ใช้งาน หรือเป็นสินค้า และบริการที่จะมาแทนที่สิ่งที่มีอยู่เดิม ปัจจุบันมีเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย บางครั้งเราจะเห็นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆที่เราเคยอ่านเจอในการ์ตูนตอนเด็กสามารถใช้งานได้จริงแล้ว เช่น รถไร้คนขับ เครื่องแปลภาษา เครื่องพิมพ์สามมิติ หุ่นยนต์ที่สามารถติดต่อพูดคุยกับเราได้ หรือแม้กระทั่ง AI ที่สามารถคิดวิเคราะห์ และตอบสนองกันคำสั่งของเราได้ทันที สิ่งต่างๆที่กล่าวถึงเหล่านี้ไม่ได้พึ่งที่จะเริ่มคิด หรือทำกันตอนนี้แต่สิ่งเหล่านี้ได้มีการพัฒนากันมาหลายสิบปีแล้ว

ในปีที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนที่สูงมาก และแนวโน้มของการเจริญเติบโตก็ยังสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีก ซึ่งอัตราเร่งของการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ทุกๆคนสามารถรับรู้ได้จากชีวิตประจำวันของตน จนแทบจะเรียกว่าเทคโนโลยีโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับดิจิตอลเป็นอีกเมกะเทรนด์เลยก็ว่าได้ โดยส่วนตัวนั้นผมเองได้แบ่งหุ้นเทคโนโลยีออกเป็น 2 กลุ่ม 1. หุ้นที่มีรากฐานเป็นอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่นำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อ ลดต้นทุน ขยายตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ( เน้นการพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพในฝั่งของเจ้าของ) หุ้นกลุ่มนี้เช่น กลุ่มค้าปลีกออนไลน์ การกู้ยืมเงินแบบ p2p การขายประกันออนไลน์ สมาร์ทโฮม โรงงานที่เป็นเครื่องจักรผลิตแบบออโต้ทั้งหมด ฯลฯ โดยเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนจากอุสาหกรรมดั้งเดิม มาเป็นดิจิตอล ประกอบด้วย

ในปีที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนที่สูงมาก และแนวโน้มของการเจริญเติบโตก็ยังสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีก ซึ่งอัตราเร่งของการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ทุกๆคนสามารถรับรู้ได้จากชีวิตประจำวันของตน จนแทบจะเรียกว่าเทคโนโลยีโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับดิจิตอลเป็นอีกเมกะเทรนด์เลยก็ว่าได้ โดยส่วนตัวนั้นผมเองได้แบ่งหุ้นเทคโนโลยีออกเป็น 2 กลุ่ม 1. หุ้นที่มีรากฐานเป็นอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่นำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อ ลดต้นทุน ขยายตลาด และเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ( เน้นการพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพในฝั่งของเจ้าของ) หุ้นกลุ่มนี้เช่น กลุ่มค้าปลีกออนไลน์ การกู้ยืมเงินแบบ p2p การขายประกันออนไลน์ สมาร์ทโฮม โรงงานที่เป็นเครื่องจักรผลิตแบบออโต้ทั้งหมด ฯลฯ โดยเทคโนโลยีที่จะสามารถเปลี่ยนจากอุสาหกรรมดั้งเดิม มาเป็นดิจิตอล ประกอบด้วย

หลับตานึกถึงการไปช้อปปิ้งในอนาคตครับ ร้านที่เราเข้าไปไม่มีพนักงานอยู่เลยครับ ถ้าเราเป็นเจ้าของจะลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากพนักงานได้แค่ไหน และถ้าเราเป็นคนซื้อเราจะสะดวกมากแค่ไหน ที่เราต้องทำคือ 1. หยิบsmartphone ออกมาแตะไปที่ที่กั้น เพื่อยืนยันตัวตนของเรา 2. เดินไปหยิบของที่เราต้องการ 3. เดินออกผ่านที่กั้น เงินจะถูกจ่ายอัตโนมัติ ถ้ามองแบบนี้เราอาจจะเกิดคำถาม ร้านค้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเราไปหยิบอะไรมาบ้าง เพราะปรกติเราต้องแสกนสินค้าที่ถือออกไปทุกชิ้นก่อนจ่ายเงิน แล้วร้านค้าพวกนี้ทำได้ยังไง เป็นไปได้เหรอ แนวโน้มว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดในอนาคตอันใกล้เป็นไปได้สูงมากครับ เพราะโปรเจคนี้กำลังถูกพัฒนาโดย Amazon Alibaba หรือแม้แต่ Walmart เอง ทุกอย่างทำได้เพราะ facial / image recognition ครับ ตอนเราเดินเข้ามาในstoreกล้องจะจับหน้าเราเทียบกับIDของเรา ขณะที่เราเดินไปหยิบสินค้า กล้องก็จะจับหน้าคนหยิบ ส่วนสินค้าที่โดนหยิบออกไป จะมี กล้องcensor บอกว่าอะไรโดนหยิบออกไปบ้าง พอถึงตอน check out ออกจากร้าน กล้องก็จะจับหน้าเราอีกครั้ง แค่นี้ก็เป็นไปได้แล้วครับ ข้อดีของเทคโนโลยีนี้คือ การซื้อสินค้าในsupermarketจะเร็วระดับไม่ถึงหนึ่งนาที เราแค่เดินเข้าไปหยิบของที่เราต้องการและเดินออก ไม่ต้องต่อคิวใดๆทั้งสิ้น ตัวร้านค้าเองก็มีระบบนับสต้อกอย่าง Vispera, Trax, Eversight หรือ Cosy ที่พอสินค้าโดนหยิบไป ก็รู้ทันที ทำให้บริหารจัดการสต้อกได้ง่าย

หลับตานึกถึงการไปช้อปปิ้งในอนาคตครับ ร้านที่เราเข้าไปไม่มีพนักงานอยู่เลยครับ ถ้าเราเป็นเจ้าของจะลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากพนักงานได้แค่ไหน และถ้าเราเป็นคนซื้อเราจะสะดวกมากแค่ไหน ที่เราต้องทำคือ 1. หยิบsmartphone ออกมาแตะไปที่ที่กั้น เพื่อยืนยันตัวตนของเรา 2. เดินไปหยิบของที่เราต้องการ 3. เดินออกผ่านที่กั้น เงินจะถูกจ่ายอัตโนมัติ ถ้ามองแบบนี้เราอาจจะเกิดคำถาม ร้านค้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเราไปหยิบอะไรมาบ้าง เพราะปรกติเราต้องแสกนสินค้าที่ถือออกไปทุกชิ้นก่อนจ่ายเงิน แล้วร้านค้าพวกนี้ทำได้ยังไง เป็นไปได้เหรอ แนวโน้มว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดในอนาคตอันใกล้เป็นไปได้สูงมากครับ เพราะโปรเจคนี้กำลังถูกพัฒนาโดย Amazon Alibaba หรือแม้แต่ Walmart เอง ทุกอย่างทำได้เพราะ facial / image recognition ครับ ตอนเราเดินเข้ามาในstoreกล้องจะจับหน้าเราเทียบกับIDของเรา ขณะที่เราเดินไปหยิบสินค้า กล้องก็จะจับหน้าคนหยิบ ส่วนสินค้าที่โดนหยิบออกไป จะมี กล้องcensor บอกว่าอะไรโดนหยิบออกไปบ้าง พอถึงตอน check out ออกจากร้าน กล้องก็จะจับหน้าเราอีกครั้ง แค่นี้ก็เป็นไปได้แล้วครับ ข้อดีของเทคโนโลยีนี้คือ การซื้อสินค้าในsupermarketจะเร็วระดับไม่ถึงหนึ่งนาที เราแค่เดินเข้าไปหยิบของที่เราต้องการและเดินออก ไม่ต้องต่อคิวใดๆทั้งสิ้น ตัวร้านค้าเองก็มีระบบนับสต้อกอย่าง Vispera, Trax, Eversight หรือ Cosy ที่พอสินค้าโดนหยิบไป ก็รู้ทันที ทำให้บริหารจัดการสต้อกได้ง่าย

ผ่านยานพาหนะและผลิตภัณฑ์พลังงานที่มีราคาไม่แพงมาก เพื่อให้บรรลุอัตราการผลิตที่วางแผนไว้ที่ 500,000 คันต่อปี ภายในปี 2561 Tesla จะต้องใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วโลก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ปัจจุบัน Tesla มีโรงงานที่ดำเนินงานเต็มรูปแบบอยู่เพียงแห่งเดียว คือโรงงานที่เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Tesla กำลังเร่งสร้างโรงงานเพิ่มอีกโรง ในชื่อ Gigafactory ที่รัฐเนวาดา ชื่อ Gigafactory มาจากคำว่า "Giga" ซึ่งเป็นหน่วยวัดที่แสดงถึง "พันล้าน" ความจุ การผลิตแบตเตอรี่ประจำปีของโรงงานคือ 35 กิกะวัตต์/ชั่วโมง (GWh) โดยหนึ่ง GWh เทียบเท่ากับการสร้าง (หรือบริโภค) 1 พันล้าน วัตต์ต่อชั่วโมง นี่เกือบเท่ากับการผลิตแบตเตอรี่ทั้งหมดของโลกในปัจจุบันรวมกันแล้ว

ผ่านยานพาหนะและผลิตภัณฑ์พลังงานที่มีราคาไม่แพงมาก เพื่อให้บรรลุอัตราการผลิตที่วางแผนไว้ที่ 500,000 คันต่อปี ภายในปี 2561 Tesla จะต้องใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วโลก เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ปัจจุบัน Tesla มีโรงงานที่ดำเนินงานเต็มรูปแบบอยู่เพียงแห่งเดียว คือโรงงานที่เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่ง Tesla กำลังเร่งสร้างโรงงานเพิ่มอีกโรง ในชื่อ Gigafactory ที่รัฐเนวาดา ชื่อ Gigafactory มาจากคำว่า "Giga" ซึ่งเป็นหน่วยวัดที่แสดงถึง "พันล้าน" ความจุ การผลิตแบตเตอรี่ประจำปีของโรงงานคือ 35 กิกะวัตต์/ชั่วโมง (GWh) โดยหนึ่ง GWh เทียบเท่ากับการสร้าง (หรือบริโภค) 1 พันล้าน วัตต์ต่อชั่วโมง นี่เกือบเท่ากับการผลิตแบตเตอรี่ทั้งหมดของโลกในปัจจุบันรวมกันแล้ว

จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกอาจจะนำเปโตร-หยวน มาใช้ในปีหน้า - ธนาคาร Saxo คาดการณ์ อีกทั้งรัสเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ขายน้ำมันรายใหญ่ที่สุดให้ปักกิ่งน่าจะยินดีรับหยวนเพื่อลดการใช้ดอลลาร์ในจีน “ในขณะนี้ จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และผู้ผลิตหลายประเทศยินดีที่จะรับเงินหยวน ดังนั้น การตัดสินใจของ Shanghai International Energy Exchange ที่จะเทรดน้ำมันดิบฟิวเจอร์โดยใช้เงินหยวน น่าจะประสบความสำเร็จ” ธนาคาร Saxo คาดว่าสัญญาซื้อขายน้ำมันของจีนที่ใช้เงินหยวน”จะมีความเคลื่อนไหวเป็นไปตามผลของการเงินและภูมิรัฐศาสตร์”

จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกอาจจะนำเปโตร-หยวน มาใช้ในปีหน้า - ธนาคาร Saxo คาดการณ์ อีกทั้งรัสเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ขายน้ำมันรายใหญ่ที่สุดให้ปักกิ่งน่าจะยินดีรับหยวนเพื่อลดการใช้ดอลลาร์ในจีน “ในขณะนี้ จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และผู้ผลิตหลายประเทศยินดีที่จะรับเงินหยวน ดังนั้น การตัดสินใจของ Shanghai International Energy Exchange ที่จะเทรดน้ำมันดิบฟิวเจอร์โดยใช้เงินหยวน น่าจะประสบความสำเร็จ” ธนาคาร Saxo คาดว่าสัญญาซื้อขายน้ำมันของจีนที่ใช้เงินหยวน”จะมีความเคลื่อนไหวเป็นไปตามผลของการเงินและภูมิรัฐศาสตร์”

BITCOIN REAL VALUE IS NOTHING! Real price of bitcoin could be $0.00, warns Morgan Stanley! สแตนลีย์เตือนราคาที่แท้จริงของบิทคอยน์อาจเป็นศูนย์มอร์แกน บิทคอยน์จะไม่มีค่าอะไรเลยหากสกุลเงินคริปโตไม่ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นศัตรูเงินดอลลาร์และเงินตราเฟียตอื่น นักวิเคราะห์ จากธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์เตือน บิทคอยน์ไม่เหมือนสกุลเงินเพราะไม่มีอัตราดอกเบี้ย และก็ไม่เหมือนทองคำ ฟอเซตเผยว่าบิทคอยน์มีขนาดเล็กถ้าเทียบกับเครื่องมือทางการเงินดั้งเดิม มอร์แกน : บิทคอยน์จะไม่มีค่าอะไรเลยหากสกุลเงินคริปโตไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศัตรูเงินดอลลาร์และเงินตราเฟียตอื่น นักวิเคราะห์ จากธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์เตือน “ถ้าไม่มีใครยอมรับการใช้เทคโนโลยีในการชำระเงิน มูลค่าของมันก็เป็นศูนย์” นักวิเคราะห์เจมส์ ฟอเซตและคนในทีมเขียนในโน้ตของลูกค้า ฟอเซตกล่าวถึงผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ยอมรับการทำธุรกรรมโดยใช้บิทคอยน์

BITCOIN REAL VALUE IS NOTHING! Real price of bitcoin could be $0.00, warns Morgan Stanley! สแตนลีย์เตือนราคาที่แท้จริงของบิทคอยน์อาจเป็นศูนย์มอร์แกน บิทคอยน์จะไม่มีค่าอะไรเลยหากสกุลเงินคริปโตไม่ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นศัตรูเงินดอลลาร์และเงินตราเฟียตอื่น นักวิเคราะห์ จากธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์เตือน บิทคอยน์ไม่เหมือนสกุลเงินเพราะไม่มีอัตราดอกเบี้ย และก็ไม่เหมือนทองคำ ฟอเซตเผยว่าบิทคอยน์มีขนาดเล็กถ้าเทียบกับเครื่องมือทางการเงินดั้งเดิม มอร์แกน : บิทคอยน์จะไม่มีค่าอะไรเลยหากสกุลเงินคริปโตไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศัตรูเงินดอลลาร์และเงินตราเฟียตอื่น นักวิเคราะห์ จากธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์เตือน “ถ้าไม่มีใครยอมรับการใช้เทคโนโลยีในการชำระเงิน มูลค่าของมันก็เป็นศูนย์” นักวิเคราะห์เจมส์ ฟอเซตและคนในทีมเขียนในโน้ตของลูกค้า ฟอเซตกล่าวถึงผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ยอมรับการทำธุรกรรมโดยใช้บิทคอยน์

โดยหลังจากราคาของมันพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ 19,800 เหรียญเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพียงแค่ห้าวัน ก็มีอันร่วงหล่นลงมาต่ำสุดที่ 10,770 เหรียญ หลังเปิดตลาดเช้านี้ (22 ธ.ค.) ขณะที่ฟิวเจอร์สบิทคอยน์ก็ร่วงลงกว่า 20% เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงน่าจะเกิดคำถามหนักขึ้นว่า ที่หลายคนมองว่า บิทคอยน์เป็น "ฟองสบู่" นั้น ใช่หรือไม่? และหากแม้นเป็นจริง มันได้เวลา "แตก" หรือยัง? หนึ่งในคนที่ให้ความเห็นเรื่องนี้ไว้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนที่สุดคือ ชาร์ลี มังเกอร์ คู่หูของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ โดย "ปู่มัง" กล่าวถึงบิทคอยน์ขณะไปพูดที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนว่า "ผมคิดว่าแค่หยุดคิดถึงมันสักนิด ก็เข้าขั้นปัญญาอ่อนแล้ว"

โดยหลังจากราคาของมันพุ่งไปแตะจุดสูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ 19,800 เหรียญเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพียงแค่ห้าวัน ก็มีอันร่วงหล่นลงมาต่ำสุดที่ 10,770 เหรียญ หลังเปิดตลาดเช้านี้ (22 ธ.ค.) ขณะที่ฟิวเจอร์สบิทคอยน์ก็ร่วงลงกว่า 20% เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงน่าจะเกิดคำถามหนักขึ้นว่า ที่หลายคนมองว่า บิทคอยน์เป็น "ฟองสบู่" นั้น ใช่หรือไม่? และหากแม้นเป็นจริง มันได้เวลา "แตก" หรือยัง? หนึ่งในคนที่ให้ความเห็นเรื่องนี้ไว้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนที่สุดคือ ชาร์ลี มังเกอร์ คู่หูของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ โดย "ปู่มัง" กล่าวถึงบิทคอยน์ขณะไปพูดที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนว่า "ผมคิดว่าแค่หยุดคิดถึงมันสักนิด ก็เข้าขั้นปัญญาอ่อนแล้ว"

“เทสล่า” ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว บริษัทเทสล่า มอเตอร์ ได้ก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ในออสเตรเลียจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่เทสล่าชนะการประกวดราคา ในการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ขนาด 129 เมกะวัตต์ชั่วโมงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และด้วยคำมั่นจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่าว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 100 วันหลังการลงนามข้อตกลงวางวรจรเชื่อมต่อ หรือจะยกให้รัฐบาลแบบฟรีๆหากเกินกำหนด แต่เมื่อข้อตกลงการวางวรจรถูกลงนามเมื่อ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เทสล่าได้ทำการติดตั้งแผงแบตเตอรี่เสร็จไปได้ครึ่งทางแล้ว Tesla เริ่มผลิตเซลล์แบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่ดีที่สุดและถูกที่สุดในโรงงานที่ใหญ่ที่สุด บริษัทเทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังก้าวหน้าไปอีกขั้นสำหรับภารกิจเร่งรัดให้โลกเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนตามวิสัยทัศน์ของซีอีโออีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผ่านทางการเพิ่มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่แพง เพื่อเพิ่มการผลิตและเก็บสำรองพลังงานหมุนเวียน ซึ่งหัวใจในเรื่องนี้ก็คือแบตเตอรี่ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2017 ที่ Gigafactory โรงงานแห่งใหม่ของพวกเขา เทสลาได้เริ่มไลน์การผลิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่จะใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Model 3 และผลิตภัณฑ์เก็บพลังงาน

“เทสล่า” ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว บริษัทเทสล่า มอเตอร์ ได้ก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ในออสเตรเลียจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว หลังจากที่เทสล่าชนะการประกวดราคา ในการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ขนาด 129 เมกะวัตต์ชั่วโมงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และด้วยคำมั่นจากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสล่าว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 100 วันหลังการลงนามข้อตกลงวางวรจรเชื่อมต่อ หรือจะยกให้รัฐบาลแบบฟรีๆหากเกินกำหนด แต่เมื่อข้อตกลงการวางวรจรถูกลงนามเมื่อ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เทสล่าได้ทำการติดตั้งแผงแบตเตอรี่เสร็จไปได้ครึ่งทางแล้ว Tesla เริ่มผลิตเซลล์แบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่ดีที่สุดและถูกที่สุดในโรงงานที่ใหญ่ที่สุด บริษัทเทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังก้าวหน้าไปอีกขั้นสำหรับภารกิจเร่งรัดให้โลกเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนตามวิสัยทัศน์ของซีอีโออีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผ่านทางการเพิ่มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาไม่แพง เพื่อเพิ่มการผลิตและเก็บสำรองพลังงานหมุนเวียน ซึ่งหัวใจในเรื่องนี้ก็คือแบตเตอรี่ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2017 ที่ Gigafactory โรงงานแห่งใหม่ของพวกเขา เทสลาได้เริ่มไลน์การผลิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่จะใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Model 3 และผลิตภัณฑ์เก็บพลังงาน

Coindesk ออกบทความคาดการณ์ความเป็นไปได้ของ Cyrptocurrencies ในปีหน้าว่าอาจจะเข้ามาแทนที่ทอง กลายเป็น ทองดิจิตอลที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือป้องกันความเสี่ยง เพราะมองในกลุ่ม G7 เอง มีโอกาสที่มุูลค่าตลาดของ bitcoin จะขึ้นไปแซงเงินใน SDR (ตะกร้าเงินของกลุ่ม G7 ตั้งโดย IMF) ซึ่งแข่งกันอ่อนค่า ถ้าเป็นเช่นนั้น บางประเทศในกลุ่ม G7 อาจเปลี่ยนกฎให้ธนาคารตัวเองเข้ามาถึอ bitcoin ได้ แต่ในทางตรงกันข้าม มูลค่าของ Bitcoin ในปัจจุบันโดนปั่นจากคนแค่ 1000คน จากการสำรวจพบว่า bitcoin 40% ถือโดยคนแค่ 1000 คน ในกรณี Etherium ยิ่งแย่ใหญ่เพราะ 40% ถึงโดยกลุ่มคนแค่ 100 คน

Coindesk ออกบทความคาดการณ์ความเป็นไปได้ของ Cyrptocurrencies ในปีหน้าว่าอาจจะเข้ามาแทนที่ทอง กลายเป็น ทองดิจิตอลที่ธนาคารกลางทั่วโลกถือป้องกันความเสี่ยง เพราะมองในกลุ่ม G7 เอง มีโอกาสที่มุูลค่าตลาดของ bitcoin จะขึ้นไปแซงเงินใน SDR (ตะกร้าเงินของกลุ่ม G7 ตั้งโดย IMF) ซึ่งแข่งกันอ่อนค่า ถ้าเป็นเช่นนั้น บางประเทศในกลุ่ม G7 อาจเปลี่ยนกฎให้ธนาคารตัวเองเข้ามาถึอ bitcoin ได้ แต่ในทางตรงกันข้าม มูลค่าของ Bitcoin ในปัจจุบันโดนปั่นจากคนแค่ 1000คน จากการสำรวจพบว่า bitcoin 40% ถือโดยคนแค่ 1000 คน ในกรณี Etherium ยิ่งแย่ใหญ่เพราะ 40% ถึงโดยกลุ่มคนแค่ 100 คน

ตั้งแต่ปี 1991 หลังฟองสบู่แตก จากปล่อยเงินให้กู้ให้เฟ้อมาพัฒนาประเทศหนักและนานเกินไป รัฐบาลจึงต้องแก้ปัญหาโดยการตั้งอัตราเงินกู้ระหว่างธนาคารหรือ Inter Bank ให้สูงขึ้น จนสุดท้ายตลาดหุ้นพัง ฟองสบู่แตก และนานมาธนาคารก็ไม่กล้าปล่อยกู้ สุดท้ายกลายเป็นปัญหา "เงินฝืด" และหนี้ท่วมประเทศมาจนถึงปัจจุบัน มาตลอดยาวถึงตอนนี้ "ญี่ปุ่น" มีปัญหาการเงินเรื้อรังที่ยังรักษาไม่หาย ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจที่โลกได้เห็นนั้นเป็นแค่ความมั่งคั่งของบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นผู้ครอบครองอำนาจที่แท้จริงของประเทศแคนั้นเอง แต่ตัวรัฐและประชาชนไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด ( เหมือนประเทศไทยที่ความมั่งคั่งอยู่ที่ไม่กี่ตระกูลดังๆ ) ญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องหนี้มากกว่า 200% ของจีดีพี หรือความหมายที่เข้าใจได้ง่ายก็คือ เงินเดือน 1,000 บาท เป็นหนี้ 2,000 บาท ตลอดมานานหลายสิบปีแล้ว และทางแก้ไขก็ต้องกู้เงินมาให้รัฐบาลจับจ่าย แต่พอกู้มาจ่ายแล้ว หรือต้องเก็บภาษีชาวบ้านมากขึ้น ชาวบ้านก็โดนขูดรีดภาษีมากขึ้น ก็จับจ่ายใช้สอยซื้อของน้อยลง ทำให้เกิดภาวะ “เงินฝืด” ไปทั่วประเทศ ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ก็หนีภาษีหนักๆ บินไปตั้งโรงงานในต่างประเทศทั้งในเอเชียและทวีปอื่นๆ ทำให้การเก็บภาษีเพิ่มเป็นเรื่องยาก แถมจะกระทบฐานเสียงการเมืองและการเลือกตั้งอีก

ตั้งแต่ปี 1991 หลังฟองสบู่แตก จากปล่อยเงินให้กู้ให้เฟ้อมาพัฒนาประเทศหนักและนานเกินไป รัฐบาลจึงต้องแก้ปัญหาโดยการตั้งอัตราเงินกู้ระหว่างธนาคารหรือ Inter Bank ให้สูงขึ้น จนสุดท้ายตลาดหุ้นพัง ฟองสบู่แตก และนานมาธนาคารก็ไม่กล้าปล่อยกู้ สุดท้ายกลายเป็นปัญหา "เงินฝืด" และหนี้ท่วมประเทศมาจนถึงปัจจุบัน มาตลอดยาวถึงตอนนี้ "ญี่ปุ่น" มีปัญหาการเงินเรื้อรังที่ยังรักษาไม่หาย ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจที่โลกได้เห็นนั้นเป็นแค่ความมั่งคั่งของบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นผู้ครอบครองอำนาจที่แท้จริงของประเทศแคนั้นเอง แต่ตัวรัฐและประชาชนไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด ( เหมือนประเทศไทยที่ความมั่งคั่งอยู่ที่ไม่กี่ตระกูลดังๆ ) ญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องหนี้มากกว่า 200% ของจีดีพี หรือความหมายที่เข้าใจได้ง่ายก็คือ เงินเดือน 1,000 บาท เป็นหนี้ 2,000 บาท ตลอดมานานหลายสิบปีแล้ว และทางแก้ไขก็ต้องกู้เงินมาให้รัฐบาลจับจ่าย แต่พอกู้มาจ่ายแล้ว หรือต้องเก็บภาษีชาวบ้านมากขึ้น ชาวบ้านก็โดนขูดรีดภาษีมากขึ้น ก็จับจ่ายใช้สอยซื้อของน้อยลง ทำให้เกิดภาวะ “เงินฝืด” ไปทั่วประเทศ ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ก็หนีภาษีหนักๆ บินไปตั้งโรงงานในต่างประเทศทั้งในเอเชียและทวีปอื่นๆ ทำให้การเก็บภาษีเพิ่มเป็นเรื่องยาก แถมจะกระทบฐานเสียงการเมืองและการเลือกตั้งอีก

เจฟฟรีย์ เคอร์รี่ หัวหน้าทีมวิจัยผู้บริโภคระดับสากลของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ผู้ซื้อทองและบิทคอยน์ต่างก็เป็นกลุ่มผู้ซื้อที่แตกต่างกัน อ้างอิงจากนักวิเคราะห์ สินทรัพย์ทอง ETF อยู่ในระดับสูงสุดมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว และยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่าคนจำนวนมากจะเลิกสนใจในทอง ในขณะที่การขาดความลื่นไหลและความเสี่ยงสูงของบิทคอยน์เป็นด้านดีสำหรับการผู้ลงทุนรายวัน ลักษณะดังกล่าวกลับไม่ดึงดูดผู้ลงทุนระยะยาวที่พอใจกับเสถียรภาพของทอง ความเห็นของเคอร์รี่มีขึ้นหลังจากลอยด์ แบลงค์ไฟน์ ซีอีโอของโกลด์แมน ออกมาบอกว่า เขามองเห็นความเป็นไปได้ของโลก ที่บิทคอยน์จะกลายมาเป็นค่าเงินปกติในชีวิตประจำวัน ทั้งๆที่แถลงการณ์ของเจมี่ ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนระบุว่า เขาจะไล่ผู้ลงทุนที่จะขายบิทคอยน์ออก ประธานของโกลด์แมนกลับวิเคราะห์สถานการณ์อย่างตื้นเขิน ธนาคารเครดิต ซุยซี อีกหนึ่งธนาคารใหญ่ ได้เรียกบิทคอยน์ว่า ฟองสบู่ที่ไม่แน่นอน และความไม่แน่นอนในลักษณะนี้ ไม่เคยจะพบจุดจบที่ดีในประวัติศาสตร์

เจฟฟรีย์ เคอร์รี่ หัวหน้าทีมวิจัยผู้บริโภคระดับสากลของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ผู้ซื้อทองและบิทคอยน์ต่างก็เป็นกลุ่มผู้ซื้อที่แตกต่างกัน อ้างอิงจากนักวิเคราะห์ สินทรัพย์ทอง ETF อยู่ในระดับสูงสุดมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว และยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่าคนจำนวนมากจะเลิกสนใจในทอง ในขณะที่การขาดความลื่นไหลและความเสี่ยงสูงของบิทคอยน์เป็นด้านดีสำหรับการผู้ลงทุนรายวัน ลักษณะดังกล่าวกลับไม่ดึงดูดผู้ลงทุนระยะยาวที่พอใจกับเสถียรภาพของทอง ความเห็นของเคอร์รี่มีขึ้นหลังจากลอยด์ แบลงค์ไฟน์ ซีอีโอของโกลด์แมน ออกมาบอกว่า เขามองเห็นความเป็นไปได้ของโลก ที่บิทคอยน์จะกลายมาเป็นค่าเงินปกติในชีวิตประจำวัน ทั้งๆที่แถลงการณ์ของเจมี่ ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนระบุว่า เขาจะไล่ผู้ลงทุนที่จะขายบิทคอยน์ออก ประธานของโกลด์แมนกลับวิเคราะห์สถานการณ์อย่างตื้นเขิน ธนาคารเครดิต ซุยซี อีกหนึ่งธนาคารใหญ่ ได้เรียกบิทคอยน์ว่า ฟองสบู่ที่ไม่แน่นอน และความไม่แน่นอนในลักษณะนี้ ไม่เคยจะพบจุดจบที่ดีในประวัติศาสตร์

นักลงทุนระดับโลกอย่าง “วอร์เรนท์ บัฟเฟตต์” มองว่า บิตคอยน์นั้นจะฟองสบู่แตก ทำไมเขาจึงมองเช่นนั้น ? เขาบอกว่า “คุณไม่สามารถให้ค่าของบิตคอยน์ได้ เพราะว่ามันไม่ใช่สินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าได้โดยตัวมันเอง มันคือฟองสบู่” “You can’t value bitcoin because it’s not a value-producing asset...it's a real bubble in that sort of thing.” สำหรับคนที่ติดตามการวิจารณ์หรือความเห็นของเขา จะรู้ว่าเขามองว่า “เงินดิจิตัลเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่ใช่การลงทุนที่สัมผัสได้จริง เพราะมันไม่สามารถสร้างรายได้หรือสร้างเงินปันผลได้” ( ยังไม่มีการเอาเงินจากนี้ไปลงทุนสร้างกิจกรรมทางธุรกิจ ที่สามารถสร้างกำไรจริงแล้วเอาเงินมาปันผลให้กับนักลงทุนได้ แบบในตลาดหุ้นในทางทฤษฎี ) “เมื่อผู้คนที่ไปซื้อบิตคอยน์ หวังเหมือนการเล่นพนัน เพียงคิดว่าราคามันจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แค่นั้นเอง” ท่ามกลางการโต้เถียงกันว่า เงินดิจิตัลควรจะมามีบทบาทในโลกการเงินสมัยของโลกหรือไม่ และรัฐบาลไม่ควรผูกขาดการเงินดิจิตัลเหล่านั้น แต่ก็มีคำถามว่า ทุกอย่างในการการลงทุนนั้นจะมีคุณค่าที่แท้จริงของมันเองอยู่เสมอ และเราต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ชัดเจน ว่ารหัสคอมพิวเตอร์ที่จะเข้าไปในบล็อคเชนจะทดแทนเงินตราที่สัมผัสได้จริงหรือ ? หรือแม้แต่คนที่ถูกอ้างว่าสร้างระบบนี้ขึ้นมาอย่าง ซาโตชิ ซากาโมโต้ ก็เป็นปริศนา ไม่ใช่ตัวคนญี่ปุ่นอย่างที่เข้าใจกัน แล้วเราจะเข้าใจและไว้ใจสิ่งนี้ได้อย่างไร แค่ไหน ? สิ่งที่ “วอร์เรนท์ บัฟเฟตต์” กังวลก็คือ ในเมื่อคุณไม่รู้ว่ามันจะนำไปสู่อะไร มันก็หมายความว่ามันไม่มีความโปร่งใส มันเป็นเหมือนน้ำมันงู” ( “น้ำมันงู” เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึง การโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงของนักขายที่บอกว่าคุณค่าน้ำมันงูสามารถแก้ไขรักษาโรคได้สารพัดแบบเกินจริง )

นักลงทุนระดับโลกอย่าง “วอร์เรนท์ บัฟเฟตต์” มองว่า บิตคอยน์นั้นจะฟองสบู่แตก ทำไมเขาจึงมองเช่นนั้น ? เขาบอกว่า “คุณไม่สามารถให้ค่าของบิตคอยน์ได้ เพราะว่ามันไม่ใช่สินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าได้โดยตัวมันเอง มันคือฟองสบู่” “You can’t value bitcoin because it’s not a value-producing asset...it's a real bubble in that sort of thing.” สำหรับคนที่ติดตามการวิจารณ์หรือความเห็นของเขา จะรู้ว่าเขามองว่า “เงินดิจิตัลเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่ใช่การลงทุนที่สัมผัสได้จริง เพราะมันไม่สามารถสร้างรายได้หรือสร้างเงินปันผลได้” ( ยังไม่มีการเอาเงินจากนี้ไปลงทุนสร้างกิจกรรมทางธุรกิจ ที่สามารถสร้างกำไรจริงแล้วเอาเงินมาปันผลให้กับนักลงทุนได้ แบบในตลาดหุ้นในทางทฤษฎี ) “เมื่อผู้คนที่ไปซื้อบิตคอยน์ หวังเหมือนการเล่นพนัน เพียงคิดว่าราคามันจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แค่นั้นเอง” ท่ามกลางการโต้เถียงกันว่า เงินดิจิตัลควรจะมามีบทบาทในโลกการเงินสมัยของโลกหรือไม่ และรัฐบาลไม่ควรผูกขาดการเงินดิจิตัลเหล่านั้น แต่ก็มีคำถามว่า ทุกอย่างในการการลงทุนนั้นจะมีคุณค่าที่แท้จริงของมันเองอยู่เสมอ และเราต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ชัดเจน ว่ารหัสคอมพิวเตอร์ที่จะเข้าไปในบล็อคเชนจะทดแทนเงินตราที่สัมผัสได้จริงหรือ ? หรือแม้แต่คนที่ถูกอ้างว่าสร้างระบบนี้ขึ้นมาอย่าง ซาโตชิ ซากาโมโต้ ก็เป็นปริศนา ไม่ใช่ตัวคนญี่ปุ่นอย่างที่เข้าใจกัน แล้วเราจะเข้าใจและไว้ใจสิ่งนี้ได้อย่างไร แค่ไหน ? สิ่งที่ “วอร์เรนท์ บัฟเฟตต์” กังวลก็คือ ในเมื่อคุณไม่รู้ว่ามันจะนำไปสู่อะไร มันก็หมายความว่ามันไม่มีความโปร่งใส มันเป็นเหมือนน้ำมันงู” ( “น้ำมันงู” เป็นคำเปรียบเปรยหมายถึง การโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงของนักขายที่บอกว่าคุณค่าน้ำมันงูสามารถแก้ไขรักษาโรคได้สารพัดแบบเกินจริง )

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฝ่ายดูแลระบบการเงินระดับสูงของเกาหลีใต้ได้ประกาศว่า กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้กำลังพิจารณาสั่งห้ามการโยกย้ายถ่ายโอนเงินตราดิจิตอลทุกรูปแบบในประเทศเพื่อป้องกันประชาชนจากกลโกงต่างๆ แม้ว่าประชาวชนชาวเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าของบิทคอยน์กว่า 1 ล้านเหรียญ โดยเมื่อตอนต้นเดือน ทางกระทรวงได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ทางกระทรวงกำลังวางแผนที่จะเริ่มระบบตรวจสอบรูปแบบใหม่ก่อนสิ้นเดือนนี้เพื่อควบคุมระบบเงินตราดิจิตอลและป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยประกาศดังกล่าวของทางกระทรวงมีขึ้นในช่วงที่ราคาของบิทคอยน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก อ้างอิงจากคอยน์เดสก์ แหล่งข้อมูลด้านเงินตราดิจิตอลของสหรัฐ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของบิทคอยน์ กับดอลล่าร์สหรัฐเพิ่มสูงขึ้นจาก 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเหรียญ ในช่วงต้นปี 2017 จนในเดือนนี้ อยู่ที่มากกว่า 17,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยมูลค่าตามราคาตลาดของบิทคอยน์มีขนาดมากกว่าบริษัทใหญ่ๆระดับโลกอย่าง วีซ่า และโคคา-โคล่าเสียอีก

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฝ่ายดูแลระบบการเงินระดับสูงของเกาหลีใต้ได้ประกาศว่า กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้กำลังพิจารณาสั่งห้ามการโยกย้ายถ่ายโอนเงินตราดิจิตอลทุกรูปแบบในประเทศเพื่อป้องกันประชาชนจากกลโกงต่างๆ แม้ว่าประชาวชนชาวเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าของบิทคอยน์กว่า 1 ล้านเหรียญ โดยเมื่อตอนต้นเดือน ทางกระทรวงได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ทางกระทรวงกำลังวางแผนที่จะเริ่มระบบตรวจสอบรูปแบบใหม่ก่อนสิ้นเดือนนี้เพื่อควบคุมระบบเงินตราดิจิตอลและป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยประกาศดังกล่าวของทางกระทรวงมีขึ้นในช่วงที่ราคาของบิทคอยน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก อ้างอิงจากคอยน์เดสก์ แหล่งข้อมูลด้านเงินตราดิจิตอลของสหรัฐ อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของบิทคอยน์ กับดอลล่าร์สหรัฐเพิ่มสูงขึ้นจาก 1,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อเหรียญ ในช่วงต้นปี 2017 จนในเดือนนี้ อยู่ที่มากกว่า 17,000 ดอลล่าร์สหรัฐ โดยมูลค่าตามราคาตลาดของบิทคอยน์มีขนาดมากกว่าบริษัทใหญ่ๆระดับโลกอย่าง วีซ่า และโคคา-โคล่าเสียอีก

- รถตุ้กตุ้กไฟฟ้าชาร์ทไฟนาน 30 นาที วิ่งได้ 50-70 กม/ชม วิ่งได้ 70-100 กม.ต่อการชาร์ทไฟหนึ่งครั้ง เทียบกับ เติมแก้ซ 5 นาที วิ่งได้ 100 กม. ราคาพอๆกัน - รถตุ้กตุ้กถูกแช่แข็งเข็ง เพิ่มจำนวนไม่ได้มากว่า 20 ปี เพิ่มจำนวนไม่ได้ เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยและทับซ้อนกับรถสาธารณะชนิดอื่น ทำให้เพิ่มรถตุ้กตุ้กไม่ได้ ต้องผลักดันให้คนขับตุ้กตุ้กเก่าเปลี่ยนหันมาใช้ไฟฟ้า -โครงการ etuktuk ของ สนพ และ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่สนับสนุนให้เอารถเก่ามาแลกรถใหม่แล้วจะช่วยค่าใช้จ่ายให้ ร้อยละ 85 ประกันค่าซ่อมส 3ปี - ในเชียงใหม่มีการผลักดันให้สามารถนำรถตุ้กตุ้กใหม่ออกมาวิ่งแล้ว ตอนนี้มีประมาณ 20 คัน - กระทรวงพลังงานวางแผนให้มีสถานีเติมประจุไฟฟ้า 690 แห่ง เพื่อรองรับรถไฟฟ้า 1.2 ล้านคันในปี 2579

- รถตุ้กตุ้กไฟฟ้าชาร์ทไฟนาน 30 นาที วิ่งได้ 50-70 กม/ชม วิ่งได้ 70-100 กม.ต่อการชาร์ทไฟหนึ่งครั้ง เทียบกับ เติมแก้ซ 5 นาที วิ่งได้ 100 กม. ราคาพอๆกัน - รถตุ้กตุ้กถูกแช่แข็งเข็ง เพิ่มจำนวนไม่ได้มากว่า 20 ปี เพิ่มจำนวนไม่ได้ เพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยและทับซ้อนกับรถสาธารณะชนิดอื่น ทำให้เพิ่มรถตุ้กตุ้กไม่ได้ ต้องผลักดันให้คนขับตุ้กตุ้กเก่าเปลี่ยนหันมาใช้ไฟฟ้า -โครงการ etuktuk ของ สนพ และ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่สนับสนุนให้เอารถเก่ามาแลกรถใหม่แล้วจะช่วยค่าใช้จ่ายให้ ร้อยละ 85 ประกันค่าซ่อมส 3ปี - ในเชียงใหม่มีการผลักดันให้สามารถนำรถตุ้กตุ้กใหม่ออกมาวิ่งแล้ว ตอนนี้มีประมาณ 20 คัน - กระทรวงพลังงานวางแผนให้มีสถานีเติมประจุไฟฟ้า 690 แห่ง เพื่อรองรับรถไฟฟ้า 1.2 ล้านคันในปี 2579

- สถานีปั๊มน้ำมันหาย : รถยนต์น้ำมันสามารถเติมน้ำมันได้เฉพาะที่ปั๊ม ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเติมไฟฟ้าที่บ้านได้ตลอดเหมือนชาร์ตแบตมือถือ เหตุผลนี้จึงอาจทำให้ธุรกิจปั๊มน้ำมันลดน้อยลงและถ้าปั้มน้ำมันไม่ปรับตัวเป็นปั๊มแบบชาร์ตไฟฟ้าก็อาจจะเจ๋งไปเลยก็ได้ บริษัทปิโตรเลียมรู้ว่าไม่มีทางจะหยุดยั้งกระแสไม่ให้ EV เกิดขึ้นได้ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อ “ชะลอ” ความเร็วให้ EV เกิดช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น ให้ข่าวลือว่าการกำจัดแบตเตอร์รี่ของ EV เป็นของเสียที่อันตราย ในขณะที่ข้อเท็จจริงคือ การฝังเซลล์ลิเทียมอิอ้อน (Lithium-ion cell) ที่ใช้ในแบตเตอร์รี่ของ EV ไม่เป็นอันตรายใดๆ นอกจากนี้เซลล์เหล่านั้นยังถูกนำกลับมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอร์รี่ใหม่ เพราะเซลล์ลิเทียมอิอ้อนมีราคาสูงมาก นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออื่นๆ อีกมากที่บริษัทปิโตรเลียมพยายามใช้เพื่อชะลอให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ - ธุรกิจแบตเตอรี่จะเติบโต แบตเตอรี่ คือจุดกำเนิดที่ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนไปมาของรถยนต์บนท้องถนน เกิดจากส่วนหนึ่งของแหล่งพลังงาน ที่เรียกว่า “แบตเตอรี่” แบตเตอรี่ของเครื่องยนต์ ทุกชนิดจะทำหน้าที่คล้ายแหล่งเก็บพลังงาน ซึ่งพร้อมที่จะทำงานทันทีเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ หรืออาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า แบตเตอรี่เป็นจุดรวมของกระแสไฟฟ้า ซึ่งพร้อมที่จะแจกจ่ายไปยัง ส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้ สตาร์ทอัพจากอิสราเอล คิดค้นแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 5 นาที แถมวิ่งได้ไกลถึง 482 กิโลเมตร หมดห่วงเรื่องแบตหมดโดนทิ้งไว้กลางทาง

- สถานีปั๊มน้ำมันหาย : รถยนต์น้ำมันสามารถเติมน้ำมันได้เฉพาะที่ปั๊ม ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเติมไฟฟ้าที่บ้านได้ตลอดเหมือนชาร์ตแบตมือถือ เหตุผลนี้จึงอาจทำให้ธุรกิจปั๊มน้ำมันลดน้อยลงและถ้าปั้มน้ำมันไม่ปรับตัวเป็นปั๊มแบบชาร์ตไฟฟ้าก็อาจจะเจ๋งไปเลยก็ได้ บริษัทปิโตรเลียมรู้ว่าไม่มีทางจะหยุดยั้งกระแสไม่ให้ EV เกิดขึ้นได้ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อ “ชะลอ” ความเร็วให้ EV เกิดช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น ให้ข่าวลือว่าการกำจัดแบตเตอร์รี่ของ EV เป็นของเสียที่อันตราย ในขณะที่ข้อเท็จจริงคือ การฝังเซลล์ลิเทียมอิอ้อน (Lithium-ion cell) ที่ใช้ในแบตเตอร์รี่ของ EV ไม่เป็นอันตรายใดๆ นอกจากนี้เซลล์เหล่านั้นยังถูกนำกลับมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอร์รี่ใหม่ เพราะเซลล์ลิเทียมอิอ้อนมีราคาสูงมาก นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออื่นๆ อีกมากที่บริษัทปิโตรเลียมพยายามใช้เพื่อชะลอให้รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ - ธุรกิจแบตเตอรี่จะเติบโต แบตเตอรี่ คือจุดกำเนิดที่ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนไปมาของรถยนต์บนท้องถนน เกิดจากส่วนหนึ่งของแหล่งพลังงาน ที่เรียกว่า “แบตเตอรี่” แบตเตอรี่ของเครื่องยนต์ ทุกชนิดจะทำหน้าที่คล้ายแหล่งเก็บพลังงาน ซึ่งพร้อมที่จะทำงานทันทีเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ หรืออาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า แบตเตอรี่เป็นจุดรวมของกระแสไฟฟ้า ซึ่งพร้อมที่จะแจกจ่ายไปยัง ส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้ สตาร์ทอัพจากอิสราเอล คิดค้นแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 5 นาที แถมวิ่งได้ไกลถึง 482 กิโลเมตร หมดห่วงเรื่องแบตหมดโดนทิ้งไว้กลางทาง