‘หุ้น กับ Forex’ ต่างกันยังไง เทรดอะไรดีกว่า?

ช่วง ตอบคำถามจากทางบ้าน! แฟน ๆ ของ WikiFX หลายคนส่งคำถามเข้ามาว่า หุ้น กับ Forex นี่มันอันเดียวกันรึเปล่า หรือมันต่างกันยังไง อะไรน่าลงทุนกว่า？ เล่นหุ้นมาก่อน ลองเทรด Forex ได้ไหม？ ทางเราไม่รอช้า รวบรวมคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้!

หุ้น กับ Forex เหมือนกันรึเปล่า？ ขอตอบก่อนเลยว่า ‘ไม่เหมือน’ หุ้นก็คือหุ้น และ Forex ก็คือ Forex ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange คือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ การเทรด Forex คือการซื้อขายสกุลเงินเพื่อ ‘เก็งกำไร’ จากการขึ้นลงของค่าเงิน แต่ว่าหุ้นจะเป็นตราสารที่ออกให้โดยบริษัท การซื้อหุ้นจึงเปรียบเสมือนเรามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ การได้กำไรหรือเงินปันผลจากหุ้นที่ซื้อจะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนของของกิจการที่เราซื้อหุ้นนั่นเอง นอกจากความหมายของ Forex กับหุ้นแล้ว การลงทุน 2 ประเภทนี้ยังแตกต่างในเรื่องใดอีกบ้าง มาดูกัน

1. ปริมาณการซื้อขาย และสภาพคล่อง

ขนาดของตลาด Forex ที่แท้จริง Forex มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน ซึ่งมากกว่าปริมาณการซื้อขายหุ้นของตลาดโลกที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 200 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน นับว่าขนาดต่างกันสุด ๆ จากปริมาณการซื้อขาย ทำให้ Forex มีสภาพคล่องสูงกว่า ต้นทุนการซื้อขายต่ำกว่า แถมยังเข้า-ออกตลาดได้ง่ายกว่า นับเป็นจุดแข็งสำคัญของ Forex

2. เวลาการซื้อขาย

Forex เป็นตลาดประเภท OTC (Over the Counter) หมายความว่ามันไม่ได้ทำธุรกรรมการแลกเปลี่ยนแบบดั้งเดิม ซื้อขายผ่านตลาดระหว่างธนาคาร ทำธุรกรรมได้จากทั่วทุกมุมโลกในระหว่างเวลาทำการของแต่ละประเทศ โดยตลาด Forex เทรดได้ 24 ชั่วโมงต่อวัน/5 วันต่อสัปดาห์ ในขณะที่ตลาดหุ้นจะเปิดแค่ 4-8 ชั่วโมงต่อวันแล้วแต่ประเทศนั้น ๆ

3. แต่ละตลาด เหมาะกับนักลงทุนแบบไหน？

การเทรด Forex เหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์การเทรดในระยะสั้นหรือปานกลางมากกว่าเนื่องจากตลาด Forex มีสภาพคล่องสูง การดำเนินคำสั่งรวดเร็ว ขณะที่การซื้อขายหุ้นจะมีสภาพคล่องต่ำกว่า ทำให้การซื้อขายหุ้นจะเหมาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์การลงทุนในระยะยาวมากกว่า

4. แต่ละตลาด ทำกำไรยังไง？

การเทรด Forex สามารถเทรดได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ แต่การเทรดหุ้นจะสามารถทำกำไรได้ในกรณีที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างเดียว

5. โอกาสในการขยายกำไร

ข้อที่น่าดึงดุดใจที่สุดของการเทรด Forex ก็คือการเทรดด้วยเลเวอเรจและมาร์จิ้น ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีโอกาสขยายขอบเขตการทำกำไรได้ด้วยเงินทุนน้อย แต่การเทรดหุ้นที่ต้องใช้เงินทุนเต็มจำนวนและไม่สามารถขยายกำไรได้ แต่การใช้เลเวอเรจก็มีข้อเสียด้วยเพราะเลเวอเรจเป็นดาบคมสองด้าน ในขณะที่สามารถขยายกำไรได้ก็สามารถขยายขาดทุนได้เช่นกันเมื่อคุณทำนายทิศทางกราฟผิด

6. สรุปว่าอันไหนเทรดยากกว่า

ตอบเลยตรงนี้ว่า ยากทั้งคู่ ใน Forex มีคู่เงินเพียงไม่กี่คู่ที่สามารถโฟกัสได้ก็จริง แต่ในการเทรดคุณก็ต้องศึกษาแนวโน้ม วิเคราะห์สถานการณ์ วิเคราะห์กราฟให้ดี ในขณะที่หุ้นมีเป็นร้อยเป็นพันตัว ก็ต้องวิเคราะห์ข้อมูลเยอะแยะไม่แพ้กัน ดังนั้นก็ต้องเลือกชอบทางไหน ลงทุนอะไรเหมาะกับตัวเองมากกว่า

อย่างไรก็ตามการลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง พวกคุณต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน แต่ถ้าใครสนใจจะลงทุนในตลาด Forex แล้วขอให้อ่านตรงนี้ต่อ

กฎข้อแรกของการเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จคือคุณ “ต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเท่านั้น” เพราะมันคือสิ่งเดียวที่จะบอกได้ว่าโบรกเกอร์ Forex นั้น ๆ มีความน่าเชื่อถือ มั่นคงปลอดภัย

ใครที่ตัดสินใจเทรด Forex แล้ว ตอนนี้คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูลหมดไส้หมดพุง ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด เราก็มีนะ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!

ถ้าคุณอยากเห็นประเทศของเรา ‘มีกฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex’ WikiFX ขอเชิญมาผลักดันร่วมกัน ผ่านการลงชื่อในแคมเปญ “เรียกร้องให้เพิ่มกฎหมายคุ้มครองนักลงทุน Forex ในไทย” ที่ https://chng.it/nLH6SWQX5x หนึ่งเสียงของคุณ อาจจะเปลี่ยนวงการ Forex ไทยไปตลอดกาล