บทคัดย่อ:ตะกร้าค่าเงิน (Basket of Currencies) เป็นระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศที่ใช้วัดความแข็งหรืออ่อนของค่าสกุลเงิน นักลงทุนใช้ระบบตะกร้าค่าเงินเพื่อตรวจสอบความแข็งหรืออ่อนของสกุลเงินที่พวกเขาสนใจ
เติมความรู้คำศัพท์กันครับ วันนี้ขอเสนอคำว่า “ตะกร้าค่าเงิน” นักเทรดที่พึ่งได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรกอาจจะนึกถึงตะกร้าช้อปปิ้งขึ้นมาทันที แต่ในตลาด Forex ตะกร้าค่าเงินเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยใช้ดูแนวโน้มเพื่อเทรดได้นะครับ แล้วจะใช้อย่างไรมาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลยครับ
ตะกร้าค่าเงิน คืออะไร?
ตะกร้าค่าเงิน (Basket of Currencies) เป็นระบบการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศที่ใช้วัดความแข็งหรืออ่อนของค่าสกุลเงิน นักลงทุนใช้ระบบตะกร้าค่าเงินเพื่อตรวจสอบความแข็งหรืออ่อนของสกุลเงินที่พวกเขาสนใจ
เริ่มแรกของแนวคิดตะกร้าเงินมาก จาก IMF ที่ริเริ่มแนวคิด SDR หรือย่อมาจาก Special Drawing Right คือ สิทธิไถ่ถอนเงิน สร้างขึ้นในปี 1969 สำหรับ SDR สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ของ Bretton Woods โดยทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศเพื่อเสริมเงินสำรองอย่างเป็นทางการของประเทศสมาชิก IMF
เดิมที SDR กำหนดโดยใช้ทองคำในปริมาณคงที่ แต่ในปี 1974 ได้มีการกำหนดใหม่เป็นตะกร้าค่าเงิน 16 สกุล ในปี 1974 ตะกร้าค่าเงินของ IMF ได้รับการแก้ไขให้มีสกุลเงินเพิ่มขึ้นอีก 11 สกุลเงิน ส่งผลให้สกุลเงินทั้งหมดในตะกร้า SDR เพิ่มขึ้นเป็น 16 สกุลเงิน
ในปี 1981 จำนวนสกุลเงินที่ผูกกับเงินตราต่างประเทศทั้งหมดลดลงเหลือเพียงห้าสกุลเงินเท่านั้น ดังนั้น ในเดือนมกราคม 1999 ยูโรจึงเข้ามาแทนที่มาร์กเยอรมันและฟรังก์ สกุลเงินทั้งห้านี้ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร หยวนจีน เยนญี่ปุ่น และปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ
ความสำคัญของตะกร้าค่าเงิน
ตะกร้าค่าเงินมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลาและความสำคัญอย่างมากสำหรับทั้งนักเทรดและหน่วยงานการเงิน สำหรับหน่วยงานการเงิน ตะกร้าค่าเงินถือเป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม สำหรับนักเทรดเองตะกร้าค่าเงินก็ช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราได้
ตัวอย่างของตะกร้าค่าเงิน
เพื่อทำความเข้าใจการใช้งานจริงของตะกร้าค่าเงิน ลองดูตัวอย่างดังนี้:
หน่วยสกุลเงินเอเชีย (ACU): ประกอบด้วยสกุลเงินเอเชียต่างๆ
หน่วยสกุลเงินยุโรป (ECU): รวมสกุลเงินยุโรปหลายสกุล
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USDX): ประกอบด้วยสกุลเงินหลักของโลก 6 สกุล โดยถ่วงน้ำหนักเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
หน่วยงานด้านการเงิน เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ใช้ตะกร้าค่าเงินเป็นข้อมูลอ้างอิงในการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินของตน เทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ของโลก แทนที่จะผูกสกุลเงินของตนกับสกุลเงินเดียว Fed ใช้ตะกร้าค่าเงินที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงสกุลเงินต่างประเทศหลายสกุล
วิธีการสร้างตะกร้าค่าเงิน
สำหรับการใช้งานตะกร้าค่าเงิน มีผู้ให้บริการหลายรายที่นำเสนอโปรแกรมตะกร้าค่าเงิน แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักเทรดคือเว็บไซต์ Finviz ซึ่งเมื่อเข้าไปในเว็บไซต์แล้ว จะมีหัวข้อที่สามารถคลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้
เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์ที่ให้บริการตะกร้าค่าเงิน หลักการทำงานจะคล้ายคลึงกัน โดยจะมีตารางที่รวบรวมค่าเงินต่าง ๆ และใช้สกุลเงิน USD เป็นตัวกลางที่มีค่า 0.00% เสมอ (เนื่องจากเป็นตัวเปรียบเทียบ) ค่าเงินที่อยู่ด้านซ้ายมือของ USD จะมีค่า 0.01% ขึ้นไป ซึ่งหมายความว่าแข็งกว่า USD ตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด ในขณะที่ค่าเงินที่อยู่ด้านขวามือของ USD จะมีค่า -0.01% เป็นต้นไป ซึ่งหมายความว่าอ่อนค่ากว่า USD ตามเปอร์เซ็นต์ที่ระบุ
หากนึกภาพไม่ออก ให้ลองจินตนาการถึงตราช่างที่ถ่วงน้ำหนัก หากค่าเงินแข็งกว่า USD อยู่ 1.06% เช่น JPY ตราช่างฝั่ง JPY จะสูงขึ้น ในขณะที่ฝั่ง USD จะต่ำลง เนื่องจาก JPY แข็งค่าขึ้นและ USD อ่อนค่าลง
ตะกร้าค่าเงิน ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสร้างความเสี่ยงอย่างมากสำหรับเทรดเดอร์ฟอเร็กซ์ นักเทรดสามารถลดความเสี่ยงนี้ได้โดยการใช้ตะกร้าค่าเงิน เพราะตะกร้าค่าเงินที่หลากหลายช่วยกระจายความเสี่ยงไปยังสกุลเงินต่าง ๆ หากสกุลเงินหนึ่งมีผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน กำไรจากสกุลเงินอื่นๆ ในตะกร้าสามารถชดเชยการสูญเสียได้ ทำให้พอร์ตการลงทุนมีเสถียรภาพมากขึ้น
การกระจายความเสี่ยงด้วยตะกร้าค่าเงินช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งต่อมูลค่าโดยรวมของตะกร้า เนื่องจากแต่ละสกุลเงินมีสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนแตกต่างกัน ดังนั้น หากสกุลเงินใดมีการเสื่อมค่าหรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมือง หรือการเก็งกำไรในตลาด ผลกระทบต่อมูลค่าของตะกร้าค่าเงินจะได้รับการบรรเทาโดยประสิทธิภาพของสกุลเงินอื่นๆ ภายในตะกร้า
ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ตะกร้าค่าเงินช่วยให้การประเมินมูลค่าอิงตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่หลากหลายจากหลายประเทศ แนวทางการใช้สกุลเงินหลายสกุลนี้ลดโอกาสที่ความผันผวนรุนแรงจะเกิดจากเหตุการณ์ในเศรษฐกิจเดียว ทำให้กลไกการประเมินมูลค่ามีเสถียรภาพและเชื่อถือได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ นักเทรดและเทรดเดอร์จึงสามารถตัดสินใจลงทุนหรือเทรดได้ด้วยความมั่นใจมากขึ้น
สรุป
แม้ว่าตะกร้าค่าเงินจะเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเทรด Forex ที่ชื่นชอบการเทรดอัตราแลกเปลี่ยน การใช้ตะกร้าค่าเงินเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจปัจจัยอื่น อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงตามที่ต้องการ 100% เนื่องจากข้อมูลใน Finviz อัปเดตแบบเรียลไทม์ ทำให้ค่าเงินอาจเปลี่ยนแปลงทุกนาที ในขณะที่วิเคราะห์ข้อมูล อาจมีข่าวใหญ่จากต่างประเทศที่ทำให้ค่าเงินผันผวน ดังนั้น ควรใช้ Indicators หลายชนิดเพื่อยืนยันข้อมูลและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก Mitrade
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมสรรพากรสหรัฐฯ เลิกจ้างพนักงานราว 6,000 ตำแหน่งตามนโยบายทรัมป์
บทวิเคราะห์ทองคำ
กำไรจากการขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณไม่ต้องเสียภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(9) อย่างไรก็ตาม การออมทองไม่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้นค่ากำเหน็จทองรูปพรรณที่มีใบกำกับภาษี e-Tax Invoice บทความยังเปรียบเทียบภาระภาษีจากการลงทุนประเภทอื่น เช่น หุ้น พันธบัตร และคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อช่วยให้นักลงทุนวางแผนภาษีได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ การออมทองเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง แม้ราคาจะผันผวนตามเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงควรพิจารณาข้อมูลและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ
FXCM
EC Markets
FXTM
IB
FOREX.com
HFM
FXCM
EC Markets
FXTM
IB
FOREX.com
HFM
FXCM
EC Markets
FXTM
IB
FOREX.com
HFM
FXCM
EC Markets
FXTM
IB
FOREX.com
HFM