บทคัดย่อ:เมื่อคืนวันที่ 21–22 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำร่วงแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยเฟดยังสูง ดอลลาร์แข็งค่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงขายทางเทคนิค และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน สภาพเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดทองคำ แนะนำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสเรียนรู้และประเมินความเสี่ยง แทนการมองเป็นวิกฤต.

เมื่อคืนที่ผ่านมา (21–22 ตุลาคม 2025) ตลาดทองคำโลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงที่สุดในรอบหลายปี จนหลายสำนักข่าวต่างพาดหัวว่า “ทองร่วงหนักสุดในรอบ 12 ปี” แม้จะเป็นเพียงคำเปรียบเปรย แต่ก็สะท้อนถึงแรงขายมหาศาลที่เกิดขึ้นในตลาด
คำถามคือ? อะไรทำให้ทองคำ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” กลับร่วงลงได้ขนาดนี้? แอดเหยี่ยวพาไปเจาะปัจจัยสำคัญกันแบบลึก ๆ
ปัจจัยใหญ่ที่สุดยังคงเป็น นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยสูงไปอีกระยะ เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ยังดื้อไม่ลดตามเป้า
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ “ไม่ให้ผลตอบแทน” การถือทองในช่วงที่ดอกเบี้ยสูงจึงมีต้นทุนโอกาสสูง นักลงทุนจึงเลือกโยกเงินไปถือพันธบัตรหรือเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยแทน ส่งผลให้ความต้องการทองคำลดลงทันที
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากแรงหนุนของข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นต่อนโยบายการเงินของเฟด เมื่อดอลลาร์แข็ง ราคาทองคำซึ่งตีราคาเป็นดอลลาร์ย่อม “แพงขึ้น” สำหรับนักลงทุนต่างชาติ
ผลคือความต้องการทองคำทั่วโลกลดลง — โดยเฉพาะจากฝั่งเอเชียและยุโรปที่ต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อซื้อทองในหน่วยสกุลเงินของตน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ขยับขึ้นเหนือระดับ 5% ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบหลายปี การเคลื่อนไหวนี้ดึงเม็ดเงินจากตลาดทองคำไปหาตลาดพันธบัตร เพราะให้ผลตอบแทนที่แน่นอนกว่า
การปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรยังส่งผลทางจิตวิทยาตลาดด้วย นักลงทุนมองว่าทองคำอาจยังไม่ใช่ที่พักเงินที่ดีที่สุดในระยะสั้น
เมื่อราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แรงขายทางเทคนิคจากระบบเทรดอัตโนมัติและนักลงทุนรายใหญ่ถูกกระตุ้นขึ้นทันที
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (futures) จำนวนมากถูกปิดสถานะพร้อมกัน ทำให้ราคาทองร่วงแรงในเวลาอันสั้น — เป็นปรากฏการณ์ที่มักเกิดเมื่อความเชื่อมั่นตลาดสั่นคลอน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง เริ่มลดระดับลง และตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนกลับมาถือสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น แทนที่จะเก็บเงินไว้ในทอง
เมื่อ “ความกลัว” ในตลาดลดลง ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก็ลดลงตามไปด้วย
จากภาพรวมทั้งหมด แอดเหยี่ยวมองว่า การร่วงของทองคำในรอบนี้ไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์เดียว แต่เป็น “แรงกดดันผสม” จากดอกเบี้ยสูง ดอลลาร์แข็ง ผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่ง และแรงขายทางเทคนิคที่เร่งให้ราคาทองลงเร็วขึ้น
ในระยะสั้น ทองคำอาจยังไม่ฟื้นจนกว่าเฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า แต่ในระยะยาว ทองคำยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัว
ทองคำโลกที่ร่วงเมื่อคืนไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์เดียวหรือข่าวลือทางการเมืองใด ๆ แต่เป็นผลจากแรงกดดันของนโยบายการเงิน ดอกเบี้ยที่ยังสูง ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็ง และแรงขายจากตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
แอดเหยี่ยวเชื่อว่าผู้ลงทุนควรมองรอบนี้ไม่ใช่ “วิกฤตทองคำ” แต่คือ “จังหวะเรียนรู้ของตลาด” ที่สะท้อนว่าความเชื่อมั่นและเงินทุนเคลื่อนไปตามทิศทางเศรษฐกิจโลกอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


บทวิเคราะห์ทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม โดยสัญญาทองคำ COMEX เดือนธันวาคมพุ่ง 3.47% ปิดที่ 4,359.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการเมืองเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ คาดว่าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ราคาทองคำอาจแตะ 4,500–5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคต ขณะที่ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ซึ่งยังเป็นตัวแปรหลักต่อทิศทางทองคำในระยะต่อไป.

ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ 3,976.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนทั่วโลกหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนตุลาคม ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้แนวโน้มราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง และอาจแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้.

ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง แต่ราคามีความผันผวนสูงทั้งขึ้นและลง การลงทุนควรถือทองคำในพอร์ตเพียง 5–15% เพื่อสร้างสมดุล ลดความเสี่ยง และเปิดโอกาสให้ลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ พร้อมติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
GTCFX
IC Markets Global
FOREX.com
AVATRADE
octa
Exness
GTCFX
IC Markets Global
FOREX.com
AVATRADE
octa
Exness
GTCFX
IC Markets Global
FOREX.com
AVATRADE
octa
Exness
GTCFX
IC Markets Global
FOREX.com
AVATRADE
octa
Exness