บทคัดย่อ:หลายคนเริ่มเทรดคริปโตเพราะเห็นคนอื่นรวย แต่สุดท้ายพอร์ตพังเพราะแพ้ใจตัวเอง ตลาดคริปโตไม่ใช่เกมโชค แต่เป็นสนามสอบวินัยและอารมณ์ 3 พฤติกรรมหลักที่ทำให้ขาดทุนคือ ซื้อบนยอดดอยเพราะ FOMO, ถัวเพิ่มโดยไม่มีกลยุทธ์ และขายขาดทุนตอนไม่ไหว การอยู่รอดในตลาดขึ้นอยู่กับการมีแผนชัดเจนและควบคุมตัวเองให้ได้

เห็นเพื่อนเล่นบิทคอยน์แล้วรวยในไม่กี่วัน… เลยลองเทรด คริปโตดูบ้าง นี่คือจุดเริ่มต้นของนักลงทุนหลายคน ก่อนที่เรื่องจะจบลงด้วยคำว่า “พอร์ตพัง” เพราะในตลาดคริปโต ไม่มีใครแพ้กราฟ ทุกคนแพ้ “ใจตัวเอง” ตลาดนี้ไม่ใช่เกมของโชค แต่เป็นสนามสอบของ “วินัยและอารมณ์” หลายคนรู้ว่าควรทำอะไร แต่กลับทำตรงข้ามซ้ำๆ ทั้งที่เห็นหายนะอยู่ตรงหน้า
วันนี้แอดเหยี่ยวจะพามาเจาะ 3 พฤติกรรมซ้ำซาก ที่ทำให้นักเทรดคริปโตส่วนใหญ่ขาดทุน ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรทำ แต่ก็ยังทำอยู่ทุกวัน
นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกความเจ็บปวดในโลก เทรด คริปโต เมื่อเห็นเพื่อนรวย เห็นกราฟเขียว เห็นคนในโซเชียลอวดกำไรเป็นสิบเท่า คุณเริ่มรู้สึกว่า ถ้าไม่รีบเข้า “จะพลาดโอกาสครั้งใหญ่” นี่แหละ FOMO ตัวร้าย คุณซื้อเข้าไปโดยไม่มีแผน ไม่มีจุดออก ไม่มีเหตุผลนอกจาก “อยากรวยเหมือนคนอื่น” แล้วสุดท้ายพอตลาดหันหัวลง… คุณถึงเพิ่งรู้ตัวว่า “ซื้อตรงยอดดอยเต็มๆ”
เมื่อราคาดิ่งลง นักเทรดส่วนใหญ่เข้าสู่ด่านที่สองของหายนะ “ซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุน” ในทางทฤษฎี มันอาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีถ้าคุณมีแผนชัดเจน แต่ในความเป็นจริง ส่วนใหญ่ทำเพราะ “ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองพลาด” เลยพยายามถัวเพื่อให้ตัวเลขต้นทุนดูดีขึ้น ทั้งที่สภาพตลาดไม่ได้หนุนเลย และถ้าคุณซื้อเพิ่มเพียงเพราะ “คิดว่ามันต้องกลับขึ้นแน่ ๆ” โดยไม่มีหลักการหรือจุดตัดขาดทุนที่ชัดเจน สิ่งที่คุณทำ... ไม่ใช่การลงทุน แต่คือ “การพนันที่อาศัยความหวัง”
นี่คือฉากสุดท้ายของหายนะในตลาด คริปโต เมื่อราคาลงจนใจสั่น ขาดสติ และขาดแผนตั้งแต่ต้น คุณเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า “Panic Sell” ขายเพราะตกใจ ไม่ใช่เพราะกลยุทธ์ แต่รู้ไหม... ในขณะที่คุณขายนั้น “เจ้ามือ” และ “กองทุนใหญ่” กำลังรอซื้อในราคาที่คุณโยนทิ้ง อีกไม่กี่เดือนต่อมา เมื่อกราฟเด้งกลับ คุณก็ได้แต่พูดกับตัวเองว่า
“รู้อย่างนี้ ไม่น่าขายเลย...”
ตลาด เทรด คริปโต ไม่เคยใจร้ายกับใคร มันแค่สะท้อนให้เห็น “ตัวตนที่แท้จริงของนักลงทุนแต่ละคน”
เราทุกคนรู้ดีว่าควรทำอะไร แต่สิ่งที่ยากคือ “การควบคุมตัวเองไม่ให้ทำสิ่งที่รู้ว่าไม่ควรทำ”
กุญแจสู่การอยู่รอดในตลาดนี้ไม่ใช่สูตรลับหรือสัญญาณซื้อขาย แต่คือการรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง ต้องมี “แผนเทรดที่ชัดเจน” ก่อนเข้าตลาด และอย่าให้ความรู้สึกกลัวตกรถ หรืออยากเอาคืน กลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเทรดของคุณ
จำไว้ว่า...ในตลาดนี้ คนที่ชนะไม่ใช่คนที่แม่นที่สุด แต่คือ “คนที่ควบคุมตัวเองได้ดีที่สุด”
ขอบคุณข้อมูลจาก siamblockchain
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


กว่า 16 ปีหลังการเผยแพร่ไวท์เปเปอร์ Bitcoin ชื่อ Satoshi Nakamoto ยังคงเป็นปริศนา ล่าสุดมีทฤษฎีโยง Daira Emma Hopwood นักเข้ารหัสอังกฤษผู้ร่วมพัฒนา Zcash กับตัวตนของ Satoshi แม้เชื่อมโยงแนวคิดและช่วงเวลาการโพสต์ แต่ข้อเท็จจริงหลายจุดโต้แย้ง ทำให้เรื่องราวยังคงเป็น “เงาในตำนาน” ของโลกคริปโต ที่สิ่งสำคัญไม่ใช่ใคร แต่คือแนวคิดที่เปลี่ยนระบบการเงินโลก

ดราม่าเดือดในวงการคริปโต เมื่อ “นายอาร์ม (9Arm)” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ออกมาขอโทษหลังถูกวิจารณ์จากการใช้คำว่า “Crypto Bros” เรียกกลุ่ม Bitcoiner ซึ่งถูกมองว่าเป็นคำดูถูก เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนาเหยียด พร้อมตั้งคำถามว่า หากผู้ที่เข้าใจ Bitcoin ยังถูกต่อต้าน คนใหม่จะกล้าเรียนรู้หรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนความอ่อนไหวของคอมมูนิตี้คริปโต ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์และอัตตา — และเป็นบทเรียนเรื่อง “การสื่อสารอย่างเข้าใจ” ในโลกดิจิทัล.

ตลาดคริปโตกลับมาระอุอีกครั้งเมื่อราคา Bitcoin ดิ่งแรงแตะ 105,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ส่งผลให้เกิด “คลื่นล้างพอร์ต” มูลค่ากว่า 1.16 พันล้านดอลลาร์ทั่วตลาด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเดือน ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่าเพียงชั่วโมงแรกมีนักเทรดถูกล้างพอร์ตกว่า 191 ล้านดอลลาร์ โดยแพลตฟอร์ม Hyperliquid ได้รับผลกระทบมากที่สุดกว่า 240 ล้านดอลลาร์ แม้ BTC จะรีบาวด์กลับมาบริเวณ 106,400 ดอลลาร์ แต่แรงซื้อยังไม่หนาแน่นพอ ขณะที่ความหวังของ Altcoin Season ถูกสั่นคลอน เหลือเพียง ZCash (ZEC) ที่พอเคลื่อนไหวสวนตลาดได้เล็กน้อย

คดีสะเทือนวงการคริปโตไทยเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 บุกจับกุมนายเหลียง ไอ่-ปิง สัญชาติจีน หัวหน้าเครือข่ายแชร์ลูกโซ่คริปโต “FINTOCH” ที่ก่อคดีหลอกลวงนักลงทุนในจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 456 ล้านบาท ภายในบ้านพักหรูย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยพบว่าผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างหรูหราและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย FINTOCH ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนให้ผลตอบแทนสูง แต่แท้จริงคือโครงการหลอกลวงที่นำเงินนักลงทุนหนีออกนอกประเทศ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีน และถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้ผู้ลงทุนระมัดระวังแพลตฟอร์มคริปโตที่ไม่น่าเชื่อถือ แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะโปร่งใส แต่ “คน” ยังคงเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง.
FXCM
Vantage
EC Markets
ATFX
HFM
FOREX.com
FXCM
Vantage
EC Markets
ATFX
HFM
FOREX.com
FXCM
Vantage
EC Markets
ATFX
HFM
FOREX.com
FXCM
Vantage
EC Markets
ATFX
HFM
FOREX.com