บทคัดย่อ:รีวิวโบรกเกอร์ DCFX ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง ? โพสต์นี้มีคำตอบ !
DCFX เป็นโบรกเกอร์สัญชาติอินโดนีเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และดำเนินงานภายใน DC Global Holding Inc ให้บริการซื้อขายตราสารทางการเงิน ได้แก่ ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, หุ้น และคริปโต ทางโบรกยังมีบริการ Copy Trade พร้อมทั้งหน้าเว็บไซต์รองรับ 6 ภาษา คือ ไทย, อังกฤษ, เวียดนาม, เกาหลี, จีน, และฟิลิปปินส์ และตัวแอปรองรับภาษา 7 ภาษา คือ อังกฤษ, จีน, ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และเกาหลี
โบนัส DCFX
โบรกเกอร์แจกเครดิตโบนัส 50% สูงสุด 10,000 USD เมื่อฝากตั้งแต่ 200 USD ขึ้นไป ภายใน 7 วัน นับจากการฝากเงินครั้งแรก
ประเภทบัญชีของ DCFX
DCFX มีประเภทบัญชีให้เลือกทั้งหมด 2 ประเภท คือ
1. บัญชี Standard : ฝากขั้นต่ำ $30 ไม่มีค่าคอมมิชชัน และเลเวอเรจสูงสุด1000:1
2. บัญชี Zero : ฝากขั้นต่ำ $3000 และเลเวอเรจสูงสุด1000:1
แพลตฟอร์มการเทรด DCFX
DCFX รองรับการเทรดผ่านแพลตฟอร์ม ดังนี้
• DCFX APP
• MetaTrader 5
ช่องทางการฝาก-ถอน DCFX
ทางโบรกแจงว่าลูกค้าผ่านธนาคารคู่ค้าที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝาก ส่วนค่าธรรมเนียมการถอน โบรกเกอร์ไม่ได้แจ้งอัตราค่าบริการถอนเงินบนหน้าเว็บไซต์
การสนับสนุนลูกค้า DCFX
DCFXมีฝ่ายสนับสนุนให้บริการ Live Chat ผ่านการลงทะเบียน และลงชื่อเข้าใช้
อีเมล : cs.th@dcfx.com, complaint@dcfx.com
Facebook : DCFX Thailand
โดยสรุป แพลตฟอร์มการซื้อขาย DCFX เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขาย และมีคะแนนประเมินจาก WikiFX อยู่ที่ 7.26/10 อย่างไรก็ตาม โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ การเลือกใช้โบรกเกอร์ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล ควรอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ดี และระวังความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
ดูข้อมูลโบรกเกอร์ DCFX เพิ่มเติมได้ที่ : https://www.wikifx.com/th/dealer/1857880912.html
ก่อนที่จะเลือกเทรดกับโบรกเกอร์ไหนก็ตาม แอดเหยี่ยวอยากให้ศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง ถือว่าแอดเตือนแล้วนะ!!! ที่สำคัญอย่าลืมมาตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี !
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมสรรพากรสหรัฐฯ เลิกจ้างพนักงานราว 6,000 ตำแหน่งตามนโยบายทรัมป์
บทวิเคราะห์ทองคำ
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก
FXTM
Exness
DBG Markets
FXCM
ATFX
Pepperstone
FXTM
Exness
DBG Markets
FXCM
ATFX
Pepperstone
FXTM
Exness
DBG Markets
FXCM
ATFX
Pepperstone
FXTM
Exness
DBG Markets
FXCM
ATFX
Pepperstone