บทคัดย่อ:"ตัวพ่อ" ในวงการเทรดแต่ละคนมีวิธีการและแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ ความอดทน และการบริหารความเสี่ยง หากคุณอยากก้าวหน้าในเส้นทางนี้ คุณควรศึกษาเรื่องราวของพวกเขา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและนำมาปรับใช้
ในโลกการลงทุนและการเทรด มีบุคคลไม่กี่คนที่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างผลตอบแทนมหาศาล และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเทรดรุ่นใหม่ทั่วโลกได้ “ตัวพ่อ” ในที่นี้หมายถึงบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดการลงทุน มีความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น และสร้างชื่อเสียงด้วยกลยุทธ์เฉพาะตัว บางคนเปลี่ยนแปลงวงการไปตลอดกาล ในบทความนี้ แอดเหยี่ยวจะพาคุณไปทำความรู้จักกับบุคคลเหล่านี้ พร้อมทั้งบทเรียนที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากพวกเขา
1. วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)
ขอบคุณรูปลจาก salika
แม้เขาจะไม่ได้เป็นนักเทรดในความหมายที่แคบ แต่ด้วยสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นแบบอย่างของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) เขามีปรัชญาที่สำคัญคือการลงทุนในธุรกิจที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผลและถือยาว ๆ
สิ่งที่นักเทรดสามารถเรียนรู้ได้:
ประโยคเด็ด: “ตลาดหุ้นเป็นเครื่องมือในการโยกย้ายเงินจากผู้ที่ใจร้อน ไปสู่ผู้ที่อดทน”
2. จอร์จ โซรอส (George Soros)
ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline
ชายผู้ได้ชื่อว่า “ชายที่ล้มธนาคารแห่งอังกฤษ” (The Man Who Broke the Bank of England) โซรอสสร้างชื่อเสียงจากการเก็งกำไรค่าเงินปอนด์ในปี 1992 โดยใช้กลยุทธ์ Short Selling และทำกำไรมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงวันเดียว ความสำเร็จของเขาไม่ได้เกิดจากโชค แต่เป็นผลจากการวิเคราะห์ตลาดที่เฉียบขาด
สิ่งที่นักเทรดสามารถเรียนรู้ได้:
ประโยคเด็ด: “ฉันไม่สนว่าฉันจะถูกหรือผิด สิ่งที่ฉันใส่ใจคือเมื่อฉันถูก ฉันจะทำกำไรได้มากแค่ไหน และเมื่อผิด ฉันจะเสียไปเท่าไหร่”
3. เจสซี่ ลิเวอร์มอร์ (Jesse Livermore)
เขาคือหนึ่งในตำนานของวงการเทรด ที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวในเวลาเดียวกัน เจสซี่เป็นที่รู้จักจากการเทรดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและสร้างกำไรมหาศาล เช่น การ Short Sell ก่อนเกิดวิกฤตตลาดหุ้นในปี 1929
สิ่งที่นักเทรดสามารถเรียนรู้ได้:
ประโยคเด็ด: “ตลาดไม่เคยผิด แต่ความคิดของคุณอาจผิด”
4. พอล ทิวดอร์ โจนส์ (Paul Tudor Jones)
ขอบคุณรูปจาก CNBC Newsletters
พอลคือผู้ก่อตั้ง Tudor Investment Corporation และเป็นหนึ่งในนักเทรดกองทุน Hedge Fund ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เขาสร้างชื่อจากการคาดการณ์วิกฤตตลาดหุ้นในปี 1987 และทำกำไรได้มหาศาลในช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่ขาดทุน
สิ่งที่นักเทรดสามารถเรียนรู้ได้:
ประโยคเด็ด: “คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ซื้อขายมากที่สุดในตลาด คุณแค่ต้องรู้ว่าควรจะทำอย่างไรในจังหวะที่เหมาะสม”
5. แรรี่ วิลเลียมส์ (Larry Williams)
ขอบคุณข้อมูลจาก Amazon
เป็น “ตัวพ่อ” ในการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) และเป็นผู้คิดค้นตัวชี้วัดทางเทคนิคอย่าง Williams %R ซึ่งนักเทรดยังใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ที่ชนะการแข่งขันเทรดระดับโลก ด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่า 10,000% ในปีเดียว
สิ่งที่นักเทรดสามารถเรียนรู้ได้:
ประโยคเด็ด: “ตลาดมีเพียงสองด้าน: ขึ้นหรือลง งานของเราคือรู้ว่าตอนนี้มันอยู่ในฝั่งไหน”
สรุป: “ตัวพ่อ” ในวงการเทรดแต่ละคนมีวิธีการและแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ ความอดทน และการบริหารความเสี่ยง หากคุณอยากก้าวหน้าในเส้นทางนี้ คุณควรศึกษาเรื่องราวของพวกเขา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและนำมาปรับใช้ในแบบฉบับของคุณเอง!
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
Vitalik Buterin คือผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทำให้เกิด Smart Contract และ DApps ซึ่งเปลี่ยนโฉมโลกคริปโตจากแค่การโอนเหรียญไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีไร้ตัวกลาง ด้วยวิสัยทัศน์และผลงาน เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดของวงการบล็อกเชน และเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลก.
บทความนี้สะท้อนให้เห็นถึงด้านมืดของการโปรโมตคริปโตโดยคนดัง ที่แม้จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน แต่กลับกลายเป็นดาบสองคมที่นำไปสู่ความเสียหาย ตัวอย่างเช่น Kim Kardashian, Floyd Mayweather Jr., Logan Paul รวมถึงคนดังอีกหลายรายที่เกี่ยวพันกับโครงการหลอกลวงหรือไม่โปร่งใส เหตุการณ์เหล่านี้ตอกย้ำว่า ชื่อเสียงไม่ได้การันตีความปลอดภัย นักลงทุนคริปโตจึงควรพึ่งพาการศึกษาและการตรวจสอบข้อมูล มากกว่าความเชื่อใจในภาพลักษณ์ของคนดัง
สำหรับนักลงทุนที่มีเวลาจำกัด PAMM (Percent Allocation Management Module) คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเข้าร่วมตลาด Forex โดยไม่ต้องเฝ้ากราฟหรือวิเคราะห์ตลาดเอง นักลงทุนฝากเงินให้ผู้จัดการบัญชีเทรดแทน และผลกำไรหรือขาดทุนจะถูกแบ่งตามสัดส่วนเงินลงทุน ข้อดีคือสะดวก ลดความยุ่งยาก และเหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการสร้าง Passive Income แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกผู้จัดการบัญชีที่เชื่อถือได้ ศึกษาผลตอบแทนและกลยุทธ์อย่างรอบคอบ พร้อมติดตามผลลัพธ์และบริหารความเสี่ยงเพื่อลงทุนอย่างมั่นใจในระยะยาว
โลกคริปโตเต็มไปด้วยโอกาสทำกำไรเร็ว แต่ก็ซ่อนความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะการเทรดด้วย Leverage ที่สามารถทำให้พอร์ต “แตกในพริบตา” หลายกรณีจริงในอดีต เช่น Black Thursday (2020) นักลงทุนสูญ 11 ล้านดอลลาร์, KSI สูญ 2.8 ล้านดอลลาร์จาก Terra (LUNA), Ran Neuner สูญ 50 ล้านดอลลาร์, James Wynn สูญเกือบ 100 ล้านดอลลาร์จาก Bitcoin และวาฬ ETH สูญ 308 ล้านดอลลาร์ ทั้งหมดสะท้อนว่าแม้ตลาดขาขึ้นก็อันตรายหากใช้ Leverage เกินตัว บทเรียนสำคัญคือ อย่าเดิมพันด้วยเงินที่ไม่สามารถเสียได้ และควรเข้าใจความเสี่ยงอย่างแท้จริงก่อนลงทุน
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AvaTrade
EC Markets
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AvaTrade
EC Markets
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AvaTrade
EC Markets
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AvaTrade
EC Markets