บทคัดย่อ:เทรดสั้น (Short Trade) เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำกำไรเร็ว และสามารถรับมือกับความเสี่ยงสูงได้ เทรดยาว (Long Trade) เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว ไม่ต้องการเฝ้าตลาดตลอดเวลา
การลงทุนในตลาดการเงินมีหลายกลยุทธ์ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและสไตล์ของนักลงทุน หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือระยะเวลาการถือครองสินทรัพย์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น เทรดสั้น (Short Trade) และ เทรดยาว (Long Trade) โดยทั้งสองรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างเทรดสั้นและเทรดยาว พร้อมแนวทางเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของคุณ
เทรดสั้น (Short Trade) คืออะไร?
เทรดสั้นคือการซื้อขายที่มุ่งทำกำไรจากความผันผวนของตลาดในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่น Scalping หรือ Day Trading โดยเทรดเดอร์ต้องตัดสินใจเปิดและปิดออเดอร์อย่างรวดเร็ว อาจเป็นภายในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง
ข้อดีของเทรดสั้น
ข้อเสียของเทรดสั้น
เทรดยาว (Long Trade) คืออะไร?
เทรดยาวเป็นกลยุทธ์ที่เน้นการลงทุนในระยะเวลานานขึ้น โดยถือครองสินทรัพย์เป็นวัน สัปดาห์ หรือแม้แต่เป็นปี การตัดสินใจลงทุนจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มของตลาดในระยะยาว
ข้อดีของเทรดยาว
ข้อเสียของเทรดยาว
หากคุณเป็นคนที่ ชอบความรวดเร็ว ตื่นเต้น และสามารถรับความเสี่ยงสูงได้ เทรดสั้นอาจเป็นตัวเลือกที่ดี
แต่หากคุณ ต้องการลงทุนแบบสบาย ๆ ไม่ต้องเฝ้าตลาด และต้องการลดความเสี่ยง เทรดยาวอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า
สรุป
ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ราคาทองคำเช้าวันจันทร์ปรับลดลง จากแรงกดดันค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ทำให้ตลาดลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่คำขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์ยังไม่หนุนแรงซื้อทองอย่างมีนัยสำคัญ
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
บทความนี้นำเสนอภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ท่ามกลางความผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศ ดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับสูง และค่าเงินบาทที่ยังแกว่งตัว นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการคาดเดาตลาด และหันมา “วางแผน” โดยเน้นการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ทองคำ รวมถึงสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดอย่าง REITs และหุ้นปันผล นอกจากนี้ยังแนะนำธีมการลงทุนเด่น เช่น หุ้นสุขภาพ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI และพลังงานสะอาด เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงตลาดผันผวน เป้าหมายสำคัญคือการสร้างพอร์ตที่สมดุล ปรับตัวทัน และพร้อมรับความไม่แน่นอนในอนาคต
รีวิวโบรกเกอร์
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
CPT Markets
ATFX
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
CPT Markets
ATFX
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
CPT Markets
ATFX
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
CPT Markets
ATFX