บทคัดย่อ:ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าติดต่อกันเป็นวันที่ 5 จากแรงกดดันการปิดหน่วยงานรัฐบาลและตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพิ่ม ยูโรและปอนด์ได้แรงหนุน ขณะที่เยนทรงตัวแต่ยังมีโอกาสแข็งค่าในฐานะ Safe Haven สำหรับนักเทรด FX แนวโน้มค่าเงินชี้ให้เห็นโอกาสเล่นฝั่งยูโรและเยนเทียบดอลลาร์ พร้อมจับตาการเมืองสหรัฐและตัวเลขแรงงานที่จะเป็นปัจจัยเร่งความผันผวนของตลาด

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ท่ามกลางแรงกดดันจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐและความกังวลว่าเฟดอาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ขณะที่ค่าเงินยูโรและปอนด์กลับได้แรงหนุนจากสถานการณ์ดังกล่าว ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ณ เวลา 15:15 น. ตามเวลาไทย ปรับตัวลง 0.1% สู่ระดับ 97.272 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์
การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐยังไม่มีทางออกชัดเจน หลังร่างงบประมาณไม่สามารถผ่านวุฒิสภา ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสองพรรคยังคงยืดเยื้อ โดยเว็บไซต์ Polymarket ประเมินว่ามีโอกาสสูงที่การปิดหน่วยงานจะลากยาว 1–2 สัปดาห์ หรืออาจนานกว่านั้นถึง 34% ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศวันศุกร์นี้ถูกเลื่อนออกไป
ด้านตัวเลขแรงงานล่าสุดจาก ADP สะท้อนความอ่อนแอของตลาดแรงงาน เมื่อการจ้างงานภาคเอกชนเดือนที่แล้วลดลงถึง 32,000 ตำแหน่ง ขณะที่เดือนสิงหาคมก็ถูกปรับลดลงอีก 3,000 ตำแหน่ง ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก โดยเครื่องมือ FedWatch ของ CME ชี้ความเป็นไปได้ 99% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25 bps ในการประชุมเดือนนี้
ค่าเงินยูโร (EUR/USD) ปรับตัวขึ้น 0.2% สู่ระดับ 1.1751 หลัง WSJ รายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งข้อมูลข่าวกรองเพื่อช่วยยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานของรัสเซีย เพิ่มความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรป ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนสิงหาคมขยับขึ้นเป็น 2.2% จาก 2% ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะยังคงดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิม
ปอนด์ (GBP/USD) เคลื่อนไหวบวกเล็กน้อย 0.1% มาที่ 1.3497 ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ขณะที่เยน (USD/JPY) ทรงตัวที่ 147.01 แต่มีโอกาสแข็งค่าต่อหากการปิดหน่วยงานรัฐบาลยืดเยื้อ เนื่องจากเยนถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
การเทรด FX ในช่วงนี้จึงควรใช้กลยุทธ์ “Follow Trend” ระยะสั้น โดยมองโอกาสเล่นฝั่งยูโรและเยนเทียบดอลลาร์ ขณะเดียวกันควรติดตามการเมืองสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นตัวเร่งสำคัญต่อทิศทางค่าเงินทั่วโลกในสัปดาห์นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก Investing Thailand
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


สัปดาห์นี้ตลาดการเงินโลกเผชิญความผันผวนสูงจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งส่งผลต่อทั้งตลาด Forex และคริปโตโดยตรง ดอลลาร์ เงินเยน และ Bitcoin กลายเป็นศูนย์กลางความเสี่ยงของตลาด หากข้อมูลเอื้อต่อการลดดอกเบี้ย ตลาดอาจเข้าสู่โหมด Risk-on แต่หากสวนทาง ความผันผวนรุนแรงอาจเกิดขึ้นทันที ภาวะข่าวแรงควบคู่สภาพคล่องต่ำ ทำให้การบริหารความเสี่ยงสำคัญกว่าการคาดเดาทิศทาง ตลาดจะให้รางวัลกับผู้ที่อยู่รอด ไม่ใช่ผู้ที่กล้าเสี่ยงที่สุด

ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจำสัปดาห์

รีวิวโบรกเกอร์

บทความนี้อธิบายข้อกำหนดด้านอายุสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นเทรด Forex โดยระบุชัดเจนว่า ผู้เปิดบัญชีเทรดจริงต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปีตามกฎหมาย เนื่องจากการเทรดถือเป็นการทำสัญญาทางการเงินกับโบรกเกอร์ ขณะที่ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถเรียนรู้ผ่านบัญชีเดโมและศึกษาพื้นฐานการเทรดได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เนื้อหาเน้นเหตุผลด้านกฎหมาย การจัดการความเสี่ยง และการเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อให้ผู้สนใจสามารถวางรากฐานที่มั่นคงก่อนเข้าสู่ตลาดจริงเมื่อถึงวัยที่กำหนด.