บทคัดย่อ:ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ 3,976.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนทั่วโลกหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนตุลาคม ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้แนวโน้มราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง และอาจแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้.

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง หลังจากตลาดทั่วโลกกลับมาให้น้ำหนักกับการลงทุนใน “สินทรัพย์ปลอดภัย” ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ขณะเดียวกันนักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มสูงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุน “ราคาทองคำ” ให้พุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นถึง 67.4 ดอลลาร์ หรือ 1.72% แตะระดับ 3,976.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับเป็นสัญญาณชัดเจนว่า “ราคาทองคำ” ยังคงได้รับแรงซื้ออย่างแข็งแกร่งจากนักลงทุนทั่วโลก
นักวิเคราะห์จากบริษัท Marex ระบุว่า การเมืองที่ไม่แน่นอนในฝรั่งเศส โดยเฉพาะกรณี นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน เลอกอร์นู ประกาศลาออกเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังเข้ารับตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้น ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และสถานการณ์ ชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ยิ่งทำให้นักลงทุนหันมาถือทองคำเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 94.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคม การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นอีกแรงหนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ ราคาทองคำ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์จาก UBS มองว่า “ราคาทองคำ” ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อไป โดยอาจแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่ยังคงมองว่าทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยที่สุดในช่วงเศรษฐกิจโลกผันผวน
นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 50% ซึ่งถือเป็นการทำสถิติใหม่ที่ยาวนานที่สุดในรอบหลายปี โดยได้แรงหนุนจาก
สถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้ “ราคาทองคำ” ยังคงเป็นประเด็นร้อนในหมู่นักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดกำลังจะลดอัตราดอกเบี้ย การถือทองคำจึงยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมในการป้องกันความเสี่ยง และมีแนวโน้มที่ราคาจะขยับสูงขึ้นอีกในระยะกลางถึงยาว
ในระหว่างที่ตลาดการเงินยังผันผวนต่อเนื่อง นักลงทุนอาจต้องจับตาปัจจัยทั้งจากฝั่งเฟดและสถานการณ์การเมืองโลกอย่างใกล้ชิด เพราะทุกความเคลื่อนไหวในตอนนี้ ล้วนส่งผลโดยตรงต่อ “ราคาทองคำ” ที่อาจยังไม่หยุดพุ่งง่าย ๆ ในเร็ววัน
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอินโฟเควสท์
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


การ “ติดดอยทองคำ” คือภาวะที่นักลงทุนซื้อทองในช่วงราคาสูง ก่อนที่ราคาจะร่วงลงจนเกิดการขาดทุน ซึ่งมักเกิดจากจิตวิทยาการลงทุน เช่น ความโลภและความกลัวพลาด (FOMO) ราคาทองคำโลกมีรอบขึ้นลงตามเศรษฐกิจ เช่น วิกฤตปี 2008 และช่วง COVID-19 ทำให้นักเทรดต้องเรียนรู้การวิเคราะห์จังหวะซื้อขายและควบคุมอารมณ์ บทเรียนสำคัญคือ “ติดดอยไม่ใช่ความล้มเหลว” แต่คือจุดเริ่มต้นของการเข้าใจตลาดและพัฒนากลยุทธ์การลงทุนอย่างมีวินัย

ราคาทองคำร่วงแรงกว่า 5.5% ในวันเดียว สะท้อนภาวะการปรับฐานครั้งใหญ่และทำให้นักลงทุนตั้งคำถามถึงฟองสบู่ทองคำ ทองคำแม้ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในแง่การลงทุนกลับมีความเสี่ยงสูง ทั้งจากความผันผวนและระยะเวลาฟื้นตัวที่ยาวนานกว่า หุ้นหรือคริปโต ดังนั้นผู้ลงทุนควรเข้าใจวัฏจักรตลาด กระจายพอร์ต และไม่เทน้ำหนักทั้งหมดในทองคำ

บทวิเคราะห์ทองคำ

เมื่อคืนวันที่ 21–22 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำร่วงแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยเฟดยังสูง ดอลลาร์แข็งค่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงขายทางเทคนิค และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน สภาพเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดทองคำ แนะนำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสเรียนรู้และประเมินความเสี่ยง แทนการมองเป็นวิกฤต.
FXTM
FOREX.com
JRJR
FXCM
EC markets
eightcap
FXTM
FOREX.com
JRJR
FXCM
EC markets
eightcap
FXTM
FOREX.com
JRJR
FXCM
EC markets
eightcap
FXTM
FOREX.com
JRJR
FXCM
EC markets
eightcap