บทคัดย่อ:ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม โดยสัญญาทองคำ COMEX เดือนธันวาคมพุ่ง 3.47% ปิดที่ 4,359.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการเมืองเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ คาดว่าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ราคาทองคำอาจแตะ 4,500–5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในอนาคต ขณะที่ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการเจรจาการค้าระหว่างจีน–สหรัฐฯ ซึ่งยังเป็นตัวแปรหลักต่อทิศทางทองคำในระยะต่อไป.
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในวันจันทร์ (20 ตุลาคม) หลังนักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้ ขณะที่ตลาดยังคงจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
จากข้อมูลของตลาด COMEX (Commodity Exchange) สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดพุ่งขึ้นถึง 146.1 ดอลลาร์ หรือราว 3.47% แตะระดับ 4,359.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นแรงที่สุดในรอบหลายเดือน
นักวิเคราะห์จาก CPM Group ระบุว่า แรงซื้อทองคำในรอบนี้ได้รับอิทธิพลจากทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการถือครองทองคำในพอร์ต เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภาวะผันผวนของตลาดทุน
เขายังเสริมว่า หากสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าระหว่างมหาอำนาจยังไม่ดีขึ้น ราคาทองคำ มีโอกาสดีดตัวต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า และอาจแตะระดับ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ในเร็ว ๆ นี้ หรืออาจสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปีหน้า หากเกิดแรงกดดันใหม่ในเวทีการค้าโลก
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หนุน ราคาทองคำ ให้ปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง คือกระแสคาดการณ์ว่า เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 28–29 ตุลาคมนี้ โดยปัจจุบันนักลงทุนให้น้ำหนักความเป็นไปได้มากถึง 99% ขณะเดียวกัน ตลาดยังคาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธันวาคม
ขณะนี้ เฟดได้เข้าสู่ช่วง Blackout Period ซึ่งเป็นช่วงงดให้ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินก่อนการประชุม เพื่อไม่ให้เกิดการส่งสัญญาณที่อาจสร้างความสับสนต่อตลาด โดยนักลงทุนทั่วโลกกำลังรอคอยตัวเลข ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคมนี้ เพื่อใช้ประเมินทิศทางเงินเฟ้อและแนวโน้มการตัดสินใจของเฟด
ในอีกด้านหนึ่ง ความเคลื่อนไหวทางการเมืองระหว่างประเทศยังคงมีผลต่อ ราคาทองคำ เช่นกัน โดยในสัปดาห์นี้ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เตรียมเข้าพบ เหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน เพื่อหารือทางการค้าก่อนที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะมีการพบปะนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่ประเทศเกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงมองว่าแนวโน้ม ราคาทองคำ ยังคงเป็น “ขาขึ้นระยะกลาง” โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดเงินโลกกำลังรอท่าทีจากเฟด และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังไม่คลี่คลาย
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอินโฟเควสท์
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่แตะ 3,976.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังนักลงทุนทั่วโลกหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนตุลาคม ปัจจัยเหล่านี้หนุนให้แนวโน้มราคาทองคำยังคงแข็งแกร่ง และอาจแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้.
ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง แต่ราคามีความผันผวนสูงทั้งขึ้นและลง การลงทุนควรถือทองคำในพอร์ตเพียง 5–15% เพื่อสร้างสมดุล ลดความเสี่ยง และเปิดโอกาสให้ลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ พร้อมติดตามข่าวสารและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งแรงกว่า 46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,855.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงิน วิกฤติการเมือง และความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งความเสี่ยงชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ และสงครามรัสเซีย–ยูเครนยังเป็นตัวหนุนสำคัญ ขณะที่นักลงทุนมองว่า หากเฟดลดดอกเบี้ยจริง จะยิ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ แม้แนวโน้มแข็งแกร่ง แต่ความผันผวนยังสูง นักลงทุนจึงควรจัดสรรพอร์ตอย่างระมัดระวัง
ในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวสูงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนหลายคนสนใจการเทรดทองคำ (Gold Trading) เพื่อทำกำไรจากความผันผวน ตลาดทองคำเปิดทำการ 24 ชั่วโมง แต่ช่วงลอนดอน–นิวยอร์กเป็นเวลาที่สภาพคล่องและความเคลื่อนไหวสูงสุด การเทรดทองช่วยสร้างโอกาสทั้งกำไรและความเสี่ยง นักลงทุนควรเข้าใจพื้นฐาน วินัยการเทรด และบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถลงทุนในทองคำได้อย่างยั่งยืนในทุกสถานการณ์ตลาด
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AVATRADE
FOREX.com
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AVATRADE
FOREX.com
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AVATRADE
FOREX.com
FXTM
Exness
DBG Markets
XM
AVATRADE
FOREX.com