บทคัดย่อ:ดราม่าเดือดในวงการคริปโต เมื่อ “นายอาร์ม (9Arm)” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ออกมาขอโทษหลังถูกวิจารณ์จากการใช้คำว่า “Crypto Bros” เรียกกลุ่ม Bitcoiner ซึ่งถูกมองว่าเป็นคำดูถูก เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนาเหยียด พร้อมตั้งคำถามว่า หากผู้ที่เข้าใจ Bitcoin ยังถูกต่อต้าน คนใหม่จะกล้าเรียนรู้หรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนความอ่อนไหวของคอมมูนิตี้คริปโต ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์และอัตตา — และเป็นบทเรียนเรื่อง “การสื่อสารอย่างเข้าใจ” ในโลกดิจิทัล.

เสียงสะท้อนในโลกคริปโตเดือดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ “นายอาร์ม” (9Arm) ยูทูบเบอร์ชื่อดังสายเทค–คริปโต ต้องออกมาเคลียร์ใจกลางคลิป หลังโดนดราม่าอย่างหนักจากการใช้คำว่า “Crypto Bros” เรียกกลุ่ม Bitcoiner ซึ่งหลายคนในคอมมูนิตี้มองว่าเป็น “คำดูถูก”
แต่เจ้าตัวกลับยืนยันว่า — ไม่ได้มีเจตนาเหน็บแนม พร้อมขอโทษอย่างจริงใจ และตั้งคำถามกลับสังคมว่า
“ถ้าผมเองที่เข้าใจและถือ Bitcoin ยังโดนแบบนี้... แล้วคนที่อยากเข้ามาเรียนรู้จะกล้าเข้ามาไหม?”

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา นายอาร์ม หรือ “9Arm” ยูทูบเบอร์ชื่อดังด้านเทคโนโลยี ได้โพสต์คลิปชื่อว่า “ผมเรียก Bitcoiner ว่า Crypto Bros” ผ่านช่อง YouTube ของตน เพื่ออธิบายและเคลียร์ประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น หลังคลิปก่อนหน้า “ตำนานเงิน Fiat” กลายเป็นที่พูดถึงในวงการคริปโตอย่างกว้างขวาง
นายอาร์มเปิดใจว่า ตนไม่คิดว่าประเด็นดราม่าจะรุนแรงถึงขั้นนี้ เพราะตอนทำคลิป เขาคาดว่าความเห็นต่างอาจเกิดขึ้นในเรื่อง “แนวคิดของเงินและระบบการเงิน” มากกว่าเรื่องคำพูด โดยเฉพาะคำว่า “Crypto Bros” ที่กลายเป็นชนวนสำคัญ
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าใครเลยครับ สำหรับผม คำว่า Crypto Bros คือคำทักทายแบบขำ ๆ เหมือน ‘เฮ้ เพื่อนสายคริปโต’ เพราะเพื่อนผมหลายคนก็ถือ Bitcoin เหมือนกัน”
อย่างไรก็ตาม นายอาร์มยอมรับว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าคำดังกล่าวในบางคอมมูนิตี้ โดยเฉพาะในหมู่ Bitcoiner สาย Maximalist ถือเป็นคำที่มีนัยดูถูกคนที่ถือ Bitcoin จริงจัง ต่างจากคนเทรดเหรียญอื่น ๆ
“ผมรู้ว่า Bitcoiner กับ Crypto Investor มันคนละแนวคิดกันครับ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจใช้คำนี้ในเชิงล้อเลียนเลย ถ้ารู้ว่ามันเซนซิทีฟขนาดนี้ ผมจะไม่ใช้แน่นอน”

บทสรุปแนวเตือนใจ
กรณี “Crypto Bros ดราม่า” ครั้งนี้ อาจดูเหมือนเรื่องคำพูดเล็ก ๆ แต่สะท้อนให้เห็นถึง ความเปราะบางของสังคมออนไลน์ในวงการคริปโต ที่มีทั้งอุดมการณ์ แพสชัน และ Ego ผสมกันอย่างซับซ้อน
นายอาร์มทิ้งท้ายด้วยคำถามที่น่าคิด
“ถ้าคนที่เข้าใจ Bitcoin ยังถูกต่อต้าน แล้วคนใหม่ ๆ จะกล้าเข้ามาเรียนรู้ได้อย่างไร?”
บางที ดราม่านี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องคำพูด… แต่มันคือบททดสอบของ “วัฒนธรรมการสื่อสาร” ในคอมมูนิตี้คริปโต ที่กำลังโตขึ้นในโลกที่ทุกคำพูดมีน้ำหนักกว่าที่คิด
ขอบคุณข้อมูลจาก siamblockchain และ 9Arm
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


ตลาดคริปโตกลับมาระอุอีกครั้งเมื่อราคา Bitcoin ดิ่งแรงแตะ 105,000 ดอลลาร์ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ส่งผลให้เกิด “คลื่นล้างพอร์ต” มูลค่ากว่า 1.16 พันล้านดอลลาร์ทั่วตลาด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเดือน ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่าเพียงชั่วโมงแรกมีนักเทรดถูกล้างพอร์ตกว่า 191 ล้านดอลลาร์ โดยแพลตฟอร์ม Hyperliquid ได้รับผลกระทบมากที่สุดกว่า 240 ล้านดอลลาร์ แม้ BTC จะรีบาวด์กลับมาบริเวณ 106,400 ดอลลาร์ แต่แรงซื้อยังไม่หนาแน่นพอ ขณะที่ความหวังของ Altcoin Season ถูกสั่นคลอน เหลือเพียง ZCash (ZEC) ที่พอเคลื่อนไหวสวนตลาดได้เล็กน้อย

คดีสะเทือนวงการคริปโตไทยเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 บุกจับกุมนายเหลียง ไอ่-ปิง สัญชาติจีน หัวหน้าเครือข่ายแชร์ลูกโซ่คริปโต “FINTOCH” ที่ก่อคดีหลอกลวงนักลงทุนในจีน มูลค่าความเสียหายกว่า 456 ล้านบาท ภายในบ้านพักหรูย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยพบว่าผู้ต้องหาใช้ชีวิตอย่างหรูหราและครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย FINTOCH ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนให้ผลตอบแทนสูง แต่แท้จริงคือโครงการหลอกลวงที่นำเงินนักลงทุนหนีออกนอกประเทศ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างไทยและจีน และถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญให้ผู้ลงทุนระมัดระวังแพลตฟอร์มคริปโตที่ไม่น่าเชื่อถือ แม้เทคโนโลยีบล็อกเชนจะโปร่งใส แต่ “คน” ยังคงเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง.

ในงาน Bitkub Summit 2025 ช่วงบ่ายวันแรก มีการเสวนาหัวข้อ “The Investment War: สมรภูมิการลงทุน” โดยกูรูการเงินชื่อดังอย่าง ลุงโฉลก, อ.ตั๊ม, โค้ชแมน และคุณปิง ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านหุ้นและคริปโต ลุงโฉลกมองว่า Bitcoin อาจแตะ $1,000,000 ได้ในอนาคต จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ไม่ใช่เพราะมูลค่าที่แท้จริงเพิ่มขึ้น ขณะที่ อ.ตั๊ม เห็นว่า Bitcoin คือสินทรัพย์เก็บมูลค่าที่แข็งแกร่งในระยะยาว ด้าน โค้ชแมนและคุณปิง เชื่อว่าหุ้นไทยยังมีโอกาส โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ที่มีเงินปันผลสูง แม้ตลาดยังไม่ชัดเจน ทั้งสี่เห็นตรงกันว่า ปี 2026 นักลงทุนต้องรับมือกับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง ควรลงทุนอย่างรอบคอบและบริหารความเสี่ยงเป็นหลัก

หลังจาก Bitcoin ร่วงหลุดแนวรับสำคัญ ตลาดคริปโตเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวเล็กน้อย โดยราคาปรับขึ้นราว 1% ภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากแรงซื้อคืนเชิงเทคนิค (Weekend Pump) และความคาดหวังจากข่าวการพบกันระหว่าง **ทรัมป์และสี จิ้นผิง** ที่อาจช่วยคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า นักลงทุนมองว่านี่เป็นโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น แต่ Altcoin ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง ความผันผวนสูง และยังขาดแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าก็กดดันคริปโตระยะสั้น บทความเน้นให้ติดตามทั้ง **ข่าวเศรษฐกิจและการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์** เพื่อประเมินทิศทางตลาดคริปโตอย่างรอบคอบในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2025.