บทคัดย่อ:คดีของ มนัส บุญจำนงค์ อดีตฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งหลังถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับคดีฉ้อโกงหลอกขายโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่าความเสียหายราว 2 ล้านบาท หลังไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลแขวงดอนเมืองตัดสินจำคุก 2 คดี รวมโทษ 2 ปี 9 เดือน ไม่รอลงอาญา และส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คดีนี้สะท้อนชัดว่า ชื่อเสียงในอดีตไม่อาจอยู่เหนือกฎหมาย และความน่าเชื่อถือหากถูกใช้ผิดทาง ย่อมนำไปสู่ผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

จากฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกที่คนไทยเคยทั้งประเทศ วันนี้ชื่อของ มนัส บุญจำนงค์ กลับมาอยู่บนหน้าข่าวอีกครั้ง ในบริบทที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตามหมายจับในคดีฉ้อโกงโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังหลบหนีไม่มาศาล จนนำไปสู่การส่งตัวเข้าเรือนจำทันทีตามคำพิพากษา
แอดเหยี่ยวขอสรุปไทม์ไลน์คดีนี้แบบเข้าใจง่าย พร้อมบริบทที่น่าสนใจซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “ชื่อเสียง” ไม่อาจอยู่เหนือกฎหมายได้
วันที่ 19 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การสั่งการของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าจับกุม มนัส บุญจำนงค์ ได้ภายในคอนโดมิเนียมชื่อดัง ย่านรัตนาธิเบศร์–งามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี หลังศาลแขวงดอนเมืองออกหมายจับ เนื่องจากไม่มาฟังคำพิพากษาในคดีฉ้อโกง
การจับกุมครั้งนี้เป็นการบังคับตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งตัดสินลงโทษจำคุกในคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกขายโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลรวม 2 คดี

คดีนี้ย้อนกลับไปช่วงปี 2564 เมื่อมนัสถูกกล่าวหาว่า หลอกขายโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่ามีโควตาได้มาจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการกีฬา
ด้วยภาพลักษณ์อดีตฮีโร่โอลิมปิก ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ และโอนเงินรวมประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อรอรับสลากตามที่ตกลงกันไว้ แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่มีการส่งมอบสลาก เงินไม่คืน และไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี
ศาลแขวงดอนเมืองมีคำพิพากษาแยกเป็น 2 คดี
รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 2 ปี 9 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตาม ในวันนัดฟังคำพิพากษา มนัสไม่ปรากฏตัว ศาลจึงออกหมายจับเพื่อบังคับโทษ
หลังการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถระบุตำแหน่งที่พักอาศัย และเข้าจับกุมได้สำเร็จ ก่อนนำตัวส่งศาลแขวงดอนเมือง และศาลมีคำสั่ง ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทันที
ระหว่างถูกควบคุมตัว มนัสกล่าวกับเจ้าหน้าที่ด้วยน้ำเสียงกึ่งจริงกึ่งหยอกว่า
“วันนี้มีชิงแชมป์มวยซีเกมส์ตั้ง 12 รุ่น ไม่น่ามาจับวันนี้เลย อดเชียร์มวยเลย”
ประโยคสั้น ๆ นี้ กลายเป็นอีกมุมหนึ่งที่สะท้อนชะตากรรมของอดีตนักกีฬาระดับตำนาน ที่วันนี้ต้องเผชิญผลของการกระทำในกระบวนการยุติธรรม
คดีของมนัส บุญจำนงค์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนว่า ความน่าเชื่อถือจากชื่อเสียงในอดีต อาจกลายเป็นดาบสองคม หากถูกนำมาใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะในเรื่องเงินและการลงทุน
แอดเหยี่ยวมองว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ข่าวอาชญากรรม แต่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับสังคมว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร เคยยิ่งใหญ่มากแค่ไหน หากก้าวพลาดและเลือกทางผิด สุดท้ายก็ต้องรับผลตามกฎหมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ตำรวจสอบสวนกลาง
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


รายงาน Chainalysis ระบุว่าแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือขโมยคริปโทกว่า 2.02 พันล้านดอลลาร์ ในปีเดียว คิดเป็นเกือบ 60% ของการโจรกรรมคริปโททั่วโลก โดยใช้วิธีโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น ทั้งการแฝงตัวในองค์กรและฟอกเงินผ่านธุรกรรมย่อย กรณีนี้สะท้อนชัดว่า ความเสี่ยงของคริปโทไม่ได้มีแค่ความผันผวนของราคา แต่รวมถึงความปลอดภัยของระบบและมนุษย์ในวงการ นักเทรดจึงต้องกระจายความเสี่ยง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยควบคู่การเทรดเสมอ

ตั้งแต่ต้นปี 2025 ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมกับการระบาดของมิจฉาชีพรูปแบบใหม่ที่ซับซ้อนและแนบเนียนกว่าเดิม ตั้งแต่หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน แอป–เว็บเทรดปลอม ไปจนถึงการใช้ AI Deepfake แอบอ้างคนใกล้ตัวและหน่วยงานรัฐ กลโกงเหล่านี้อาศัยความโลภ ความเร่งรีบ และความไม่รู้ของนักลงทุนเป็นหลัก โดยเฉพาะในคริปโตและ P2P ที่เงินโอนแล้วไม่สามารถย้อนกลับได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “หยุดเช็คก่อนโอน” ตรวจสอบแพลตฟอร์ม บุคคล และบัญชีทุกครั้ง ผ่านเครื่องมือที่เชื่อถือได้ ปี 2025 ไม่ใช่ปีที่อันตรายเพราะตลาดผันผวน แต่เพราะคนโกงพัฒนาเร็วขึ้น สุดท้าย คนที่อยู่รอดในโลกการลงทุน ไม่ใช่คนที่กล้าเสี่ยงที่สุด แต่คือคนที่ระวังตัวได้ดีที่สุด

ปฏิบัติการ “Operation Copperhead” เปิดโปงเครือข่ายเหมืองบิตคอยน์ผิดกฎหมายที่แอบใช้ไฟฟ้าหลวงกว่า 3 ปี สร้างความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเครื่องขุด 3,642 เครื่อง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งถูกซ่อนไว้ในคอนเทนเนอร์ดัดแปลงพร้อมระบบหล่อเย็นด้วยน้ำเพื่อพรางการตรวจสอบ การสืบสวนพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจีนเทาและแก๊งสแกมเมอร์ในเมียนมาที่ใช้เหมืองเป็นช่องทางฟอกเงินหมุนเวียนระดับหลายพันล้านบาท รัฐบาลสั่งขยายผล ยึดทรัพย์ และร่วมมือข้ามแดนเพื่อทำลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดใหญ่ครั้งนี้.

บทความนี้อธิบายความเสี่ยงของ “แชร์ลูกโซ่” ที่มักล่อลวงนักเทรดมือใหม่ในตลาด Forex ด้วยผลตอบแทนสูงเกินจริง ขาดความโปร่งใส และเน้นการชวนคนเพิ่ม ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนจริงที่ตรวจสอบได้ มีใบอนุญาต และไม่สามารถการันตีผลตอบแทน 100% พร้อมสัญญาณเตือนสำคัญและวิธีป้องกัน เช่น ตรวจสอบโบรกเกอร์ ตั้งคำถามกับข้อเสนอที่ดีเกินจริง และเริ่มลงทุนด้วยเงินจำนวนเล็ก การทำความเข้าใจความต่างระหว่างแชร์ลูกโซ่กับการลงทุนจริงจะช่วยให้นักเทรดป้องกันความเสี่ยง และเทรด Forex ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น