บทคัดย่อ:World Bank แนะนโยบายการเงิน-การคลังไทย ‘ควรผ่อนคลาย’ เหตุเศรษฐกิจยังฟื้นไม่เต็มที่
ธนาคารโลก (World Bank) เปิดตัว ‘รายงานการตามติดเศรษฐกิจไทย (Thailand Economic Monitor) กุมภาพันธ์ 2568: ปลดล็อกการเติบโต-นวัตกรรม SMEs และสตาร์ทอัพข้อค้นพบที่สำคัญ’ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2.9% ในปี 2568 (โดยตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมผลกระทบที่อาจเกิดจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เข้าไป เนื่องจากธนาคารโลกมองว่ายังมีความไม่แน่นอนสูงมาก) โดยประมาณการดังกล่าวนับว่าขยับขึ้นจากประมาณการ 2.6% ในปี 2567
โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจมาจากการลงทุนที่ฟื้นตัว โดยได้รับการสนับสนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณที่สูงขึ้น (จากฐานที่ต่ำในปีก่อน เนื่องจาก พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2567 ล่าช้าไป) และการดำเนินโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในแผน
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยคาดว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิดภายในกลางปี 2568 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน จาก 35.3 ล้านคนในปี 2567
ธนาคารโลกยังประเมินผลจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะแรกเมื่อปี 2567 โดยจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่า มีส่วนช่วยให้ GDP เติบโตขึ้น 0.3% ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวมีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.8% ของ GDP
กระนั้น ธนาคารโลกยังย้ำว่าการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจเป็นสิ่ง ‘จำเป็น’ เพื่อกระตุ้นการเติบโตในระยะยาว โดยหากไม่มีการปฏิรูปนโยบายอย่างเร่งด่วน คาดว่าอัตราการเติบโตตามศักยภาพของไทยจะลดลงจากค่าเฉลี่ย 3.2% ในช่วงปี 2554-2564 เหลือ 2.7% ในช่วงปี 2565-2573 ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายการในการเป็นประเทศรายได้สูง
ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ไทยจึงควรใช้นโยบายการเงินและการคลังที่ ‘ผ่อนคลาย’ จึงจะเหมาะสมกับเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน รวมทั้งการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเจาะจง (Targeted) ก็เป็นเรื่องจำเป็น
ดร.เกียรติพงศ์ ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 2.25% ต่อปีนี้ อยู่ใกล้ระดับเป็นกลาง (Neutral) มากแล้ว แต่ย้ำว่าการพิจารณา Neutral Rate ถือว่ายากมาก แต่ระดับปัจจุบันถือว่าใกล้เคียง สะท้อนว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ตลอดทั้งปี ยกเว้นสถานการณ์เศรษฐกิจจะเปลี่ยนไป กล่าวคือหากเศรษฐกิจไทยเจอกับช็อก (Shock) ใหม่ๆ จนทำให้ชะลอลงมากกว่าคาด ในกรณีนั้นๆ กนง. จึงอาจลดดอกเบี้ย
สำหรับนโยบายทางการคลัง ประเทศไทยจำเป็นต้องมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือทางสังคมอย่างตรงเป้าหมาย ผ่านการเพิ่มการระดมรายได้จากภาษี และเร่งการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และทุนมนุษย์ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของภาคเอกชน
ขณะที่ท่าทีทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างระมัดระวังถือเป็นสิ่งจำเป็นในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นการบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือนอย่างตรงเป้าหมายควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
ขอบคุณข้อมูลจาก THE STANDARD WEALTH
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
HFM
FP Markets
AvaTrade
FBS
IB
Pepperstone
HFM
FP Markets
AvaTrade
FBS
IB
Pepperstone
HFM
FP Markets
AvaTrade
FBS
IB
Pepperstone
HFM
FP Markets
AvaTrade
FBS
IB
Pepperstone