บทคัดย่อ:อดีต ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกกระแสข่าวว่าอาจปลดเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed หากกลับมาดำรงตำแหน่ง โดยอ้างเหตุผลเรื่องการทุจริต แม้ภายหลังจะออกมาปฏิเสธก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนแรงกดดันทางการเมืองต่อ Fed ที่ยังไม่ลดดอกเบี้ยตามที่ทรัมป์ต้องการ นักวิเคราะห์กังวลว่า หากการเมืองแทรกแซงธนาคารกลางจริง อาจกระทบความเชื่อมั่นต่อนโยบายการเงินในระยะยาว

เกิดกระแสแรงในแวดวงเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐฯ เมื่อมีรายงานจาก The Wall Street Journal และ CNBC ว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หารือกับสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปลด เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกจากตำแหน่ง และถึงขั้นมีรายงานว่า ทรัมป์ได้ “ร่างจดหมายปลด” ไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทรัมป์กลับออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวต่อหน้าสื่อ โดยบอกว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่จะปลดพาวเวลล์ เว้นแต่ว่าจะมี “การทุจริต” เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการทิ้งเงื่อนไขสำคัญไว้ให้ตีความต่อว่า เขาอาจยังเปิดช่องทางตามกฎหมายไว้หากพบเหตุอันควร
แม้จะเป็นเพียงกระแสข่าว แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของทรัมป์ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนไม่น้อย โดยเฉพาะหลังจากศาลสูงสหรัฐฯ เคยมีคำตัดสินว่า ประธานาธิบดีไม่สามารถปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Fed ได้เพียงเพราะไม่เห็นด้วยกับนโยบาย ดังนั้น การ “มีเหตุอันควร” เช่น การทุจริต หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ จึงเป็นเพียงไม่กี่เงื่อนไขที่กฎหมายเปิดช่องไว้ให้ปลดได้
มีรายงานว่า หนึ่งในประเด็นที่ทรัมป์หยิบมาใช้โจมตีคือ การใช้จ่ายงบประมาณในการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของ Fed ซึ่งอาจถูกใช้เป็น “ข้อกล่าวหา” หากต้องการผลักดันให้มีการปลดอย่างเป็นทางการ
เบื้องหลังความไม่พอใจของทรัมป์ต่อพาวเวลล์อาจอยู่ที่ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ที่ทรัมป์มองว่ายังคง “สูงเกินไป” อยู่ที่ 4.3% แม้จะมีแรงกดดันจากภาคการเมือง โดยเฉพาะจากทีมของทรัมป์ที่ต้องการลดดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 3% เพื่อลดต้นทุนหนี้รัฐบาล — ซึ่งจะกลายเป็น “แต้มบวก” สำคัญต่อเศรษฐกิจและคะแนนนิยมของทรัมป์หากเขากลับมาดำรงตำแหน่งในปี 2025
กระแสข่าวดังกล่าวไม่ได้มาแบบลอยๆ เมื่อ ส.ส. แอนนา พอลีนา ลูนา ได้โพสต์บนโซเชียลว่ามีข่าวลือว่า “พาวเวลล์จะถูกไล่ออก” ซึ่งสะท้อนว่าสัญญาณจากทรัมป์อาจถูกส่งผ่านวงในแล้ว
ในขณะที่อีกฝั่ง สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ กลับออกมายืนยันว่า ทรัมป์ไม่น่าจะปลดพาวเวลล์ พร้อมระบุว่าการเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียง “กลยุทธ์กดดัน Fed” เพื่อให้ลดดอกเบี้ยตามต้องการเท่านั้น เช่นเดียวกับ ส.ส. เฟรนช์ ฮิลล์ ที่กล่าวกับ CNBC ว่า “ไม่เห็นว่าทรัมป์จะดำเนินการถึงขั้นปลดพาวเวลล์จริงๆ”
จุดน่าสนใจคือ ทรัมป์เองเป็นผู้เสนอชื่อพาวเวลล์ให้รับตำแหน่งประธาน Fed แทนเจเน็ต เยลเลน เมื่อปี 2018 แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขากลับกลายเป็นหนึ่งในผู้วิจารณ์พาวเวลล์อย่างหนัก โดยเฉพาะในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยและไม่ทำตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทรัมป์ต้องการ
แม้พาวเวลล์จะส่งสัญญาณว่าตนจะ “ไม่ยอมลาออก” หากถูกกดดันทางการเมือง และนักกฎหมายส่วนใหญ่ก็ยืนยันว่าประธานาธิบดีไม่มีอำนาจปลดประธาน Fed หากไม่มีเหตุอันควร — แต่ประเด็นนี้ก็ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าความเป็นอิสระของ Fed อาจถูกสั่นคลอน
แม้ตลาดการเงินจะยังคงสงบต่อข่าวนี้ในเบื้องต้น แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองของสหรัฐฯ กำลังแทรกซึมเข้ามามีบทบาทต่อทิศทางนโยบายการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ และการปลุกกระแส “ปลดพาวเวลล์” อาจกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองชิ้นใหม่ของทรัมป์ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีหน้า
สิ่งที่ต้องจับตามองต่อไปคือ ท่าทีของ Fed จะเปลี่ยนไปหรือไม่ภายใต้แรงกดดันทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้น และตลาดการเงินจะตอบสนองอย่างไร หากความเป็นอิสระของธนาคารกลางถูกท้าทายอย่างจริงจัง
ขอบคุณข้อมูลจาก THE STANDARD
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


ปฏิทินข่าว Forex และเหตุการณ์สำคัญประจำสัปดาห์

เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม แอดเหยี่ยวพาไปรู้จักบุคคลสำคัญในวงการ Forex แม้ว่าตลาด Forex จะไม่มีผู้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ก็มี “บิดา” ในด้านต่างๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เทรดเดอร์ทั่วโลก ได้แก่- Edward Arthur Seykota – บิดาแห่งระบบเทรด ออกแบบระบบเทรดอัตโนมัติที่เน้นวินัยและผลตอบแทนสูง- George Soros – ตำนานเก็งกำไรเชิงมหภาค ผู้สร้างประวัติศาสตร์ Black Wednesday- Michael Huddleston (ICT) – ผู้เผยแพร่แนวคิด Smart Money Concepts ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจมุมมองสถาบันการเงินเรื่องราวเหล่านี้สอนเทรดเดอร์ให้เข้าใจวินัย การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค และพฤติกรรมตลาดผู้เล่นรายใหญ่ เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองและเส้นทางการเทรดอย่างมั่นใจ

หนังสือ “17 กลยุทธ์การทำกำไรในตลาด Forex” ของ Mario Singh เป็นคู่มือครบวงจรสำหรับนักเทรดทุกระดับ เริ่มตั้งแต่พื้นฐานของตลาด Forex การวิเคราะห์คู่สกุลเงินและผู้เล่นหลัก ไปจนถึงกลยุทธ์ระยะสั้น รายวัน และระยะยาว รวมถึงการใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ เทคนิคบริหารความเสี่ยง และการวิเคราะห์ทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน นอกจากนี้ยังเน้นจิตวิทยาการเทรด การสร้างวินัย และการวางแผนติดตามผลการเทรด เพื่อให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจอย่างมั่นใจและเพิ่มโอกาสทำกำไรในตลาดที่มีความผันผวนสูง

บทความนี้นำเสนอความเสี่ยงสำคัญที่นักเทรด Forex มือใหม่มักเผชิญ นั่นคือ “แชร์ลูกโซ่” ซึ่งเป็นรูปแบบการหลอกลงทุนที่อ้างผลตอบแทนสูง แต่ไม่มีการเทรดจริงและใช้เงินของผู้ลงทุนรายใหม่มาจ่ายผลตอบแทนรายเก่า จุดประสงค์ของบทความคือช่วยให้ผู้อ่านแยกความแตกต่างระหว่างแชร์ลูกโซ่กับการลงทุน Forex ที่ถูกต้องตามหลักการ โดยอธิบายองค์ประกอบของ Ponzi Scheme สัญญาณเตือนที่ควรระวัง คุณสมบัติของการลงทุนจริงที่โปร่งใสตรวจสอบได้ และแนวทางป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เช่น การตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ การประเมินข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และการเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อย สาระสำคัญชี้ให้เห็นว่าความรอบคอบและการศึกษาข้อมูล คือกุญแจสำคัญในการสร้างความปลอดภัยและโอกาสทำกำไรอย่างยั่งยืนในตลาด Forex
XM
FXCM
STARTRADER
Vantage
fpmarkets
EBC
XM
FXCM
STARTRADER
Vantage
fpmarkets
EBC
XM
FXCM
STARTRADER
Vantage
fpmarkets
EBC
XM
FXCM
STARTRADER
Vantage
fpmarkets
EBC