บทคัดย่อ:แบงก์ชาติจีนคงดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% คาดพุ่งเป้าปกป้องเงินหยวน
ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนเอาไว้ที่ระดับ 2.50% โดยนักวิเคราะห์มองว่าธนาคารกลางจีนตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพราะมีเป้าหมายที่จะป้องกันความผันผวนของเงินหยวน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องจำนวน 5 แสนล้านหยวน (ราว 7.039 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบธนาคาร ผ่านทางโครงการ MLF และกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ระดับ 2.5% ซึ่งอัตราดอกเบี้ย MLF เป็นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายเมื่อมีการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางจีน โดยมีระยะเวลาการกู้ยืม 6 เดือน-1 ปี เพื่อเสริมสภาพคล่องระยะสั้นให้กับธนาคารพาณิชย์
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะรอดูทิศทางเงินหยวนก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยนักวิเคราะห์มองว่าในขณะที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ทางการจีนดำเนินการมากขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนทรุดตัวลงรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 นั้น ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเงินหยวนกำลังสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางจีนเช่นกัน
การแถลงอัตราดอกเบี้ย MLF มีขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางจีนจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปีในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) โดยอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ขอบคุณข้อมูลจาก อินโฟเควสท์
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
หมอฟรัง นรีกุล เปิดใจในรายการ NEW GEN INVESTOR ว่าลงทุนคริปโตไปกว่า 2 ล้านบาท แต่พอร์ตดิ่งเหลือเพียง 6 แสนบาท ก่อนตัดสินใจ Cut Loss ออกมา แม้จะเชื่อมั่นในอนาคตของคริปโต แต่ความผันผวนของตลาดก็ไม่ปรานีใคร!
บทความนี้สำรวจ 5 ประเทศที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินตราระดับโลก ได้แก่: สหราชอาณาจักร (ลอนดอน) – ศูนย์กลางอันดับหนึ่งของโลก มีสภาพคล่องสูงสุดเพราะเชื่อมโยงตลาดเอเชียและอเมริกา สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) – ฐานหลักของดอลลาร์สหรัฐ และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ สิงคโปร์ – ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย และประตูสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก ฮ่องกง – เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจีน และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายเงินหยวนนอกประเทศจีน ญี่ปุ่น (โตเกียว) – ฐานหลักของเงินเยน และได้รับอิทธิพลจากนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น การเข้าใจโครงสร้างและลักษณะเฉพาะของตลาดเหล่านี้ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรมสรรพากรสหรัฐฯ เลิกจ้างพนักงานราว 6,000 ตำแหน่งตามนโยบายทรัมป์
บทวิเคราะห์ทองคำ
FXTM
Exness
DBG Markets
Pepperstone
ZFX
STARTRADER
FXTM
Exness
DBG Markets
Pepperstone
ZFX
STARTRADER
FXTM
Exness
DBG Markets
Pepperstone
ZFX
STARTRADER
FXTM
Exness
DBG Markets
Pepperstone
ZFX
STARTRADER