บทคัดย่อ:Vitalik Buterin คือผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum แพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทำให้เกิด Smart Contract และ DApps ซึ่งเปลี่ยนโฉมโลกคริปโตจากแค่การโอนเหรียญไปสู่การสร้างนวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีไร้ตัวกลาง ด้วยวิสัยทัศน์และผลงาน เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดของวงการบล็อกเชน และเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลก.

หากคุณติดตามโลกคริปโต คุณอาจเคยได้ยินชื่อ Vitalik Buterin ผ่านหูมาบ้าง แต่หลายคนยังคงสงสัยว่า Vitalik Buterin คือ ใคร และทำไมเขาถึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดของวงการบล็อกเชน
คำตอบอยู่ที่ความสามารถของเขาในการสร้างสรรค์สิ่งที่เปลี่ยนโลกการเงินดิจิทัลไปตลอดกาล นั่นก็คือ Ethereum แพลตฟอร์มที่ทำให้บล็อกเชนไม่ได้มีไว้แค่โอนเหรียญ แต่สามารถรันโปรแกรมและ Smart Contract ได้
Vitalik Buterin เกิดปี 1994 ที่รัสเซีย ก่อนจะย้ายไปแคนาดาตั้งแต่ยังเด็ก เขาเป็นเด็กอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์และการเขียนโปรแกรม
สิ่งที่ทำให้หลายคนอยากรู้ว่า Vitalik Buterin คือ ใคร ก็คือเส้นทางชีวิตของเขาที่เริ่มจากการเป็นนักเขียนบทความใน Bitcoin Magazine ก่อนพัฒนาแนวคิดที่ต่อมาจะกลายเป็น Ethereum ในปี 2013
ด้วยอายุเพียง 19 ปี เขาสามารถเปลี่ยนไอเดียเล็ก ๆ ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ทรงพลังที่สุดในโลก

Ethereum คือผลงานที่ทำให้ชื่อของ Vitalik โด่งดังไปทั่วโลก คำว่า “Ethereum” ไม่ได้หมายถึงแค่เหรียญ ETH แต่คือแพลตฟอร์มที่รองรับ Smart Contract และ Decentralized Applications (DApps)
ก่อนสร้าง Ethereum Vitalik เคยเขียนบทความวิเคราะห์เกี่ยวกับ Bitcoin ซึ่งช่วยให้เขาเข้าใจข้อจำกัดของ Bitcoin และนำไปต่อยอดพัฒนาแนวคิดใหม่
Vitalik ยังร่วมผลักดัน Ethereum Foundation องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำหน้าที่พัฒนา ecosystem ของ Ethereum และสนับสนุนโปรเจกต์โอเพนซอร์ส
การเข้าใจว่า Vitalik Buterin คือ ใคร ช่วยให้เราเห็นวิวัฒนาการของวงการคริปโต เขาคือหนึ่งในผู้วางรากฐานของเทคโนโลยีที่ปัจจุบันถูกนำไปใช้ทั้งในด้านการเงิน, ศิลปะ (NFT), และระบบการจัดการข้อมูลต่าง ๆ
ทุกครั้งที่คุณเห็นโปรเจกต์ DeFi, NFT Marketplace หรือแอปพลิเคชันบนบล็อกเชน ส่วนหนึ่งคือผลจากวิสัยทัศน์ของ Vitalik Buterin
.
Vitalik Buterin คือใคร? คำตอบชัดเจนแล้วว่า เขาไม่ใช่เพียงนักพัฒนาหนุ่ม แต่เป็นผู้สร้าง Ethereum ที่เปลี่ยนโลกคริปโตไปตลอดกาล
เหตุผลที่ Vitalik กลายเป็นไอคอนของวงการคริปโต มาจากความคิดสร้างสรรค์ วิสัยทัศน์ที่ล้ำสมัย และการสร้างชุมชนที่เปิดโอกาสให้คนทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในนวัตกรรมการเงินแบบใหม่
ท้ายที่สุด แอดเหยี่ยวอยากฝากว่า การรู้จัก Vitalik Buterin ไม่ใช่แค่เรื่องชีวประวัติ แต่คือการเข้าใจหัวใจของการปฏิวัติคริปโตในศตวรรษนี้
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


บทความนี้อธิบายสามพฤติกรรมทางอารมณ์ที่ทำให้นักลงทุนคริปโตสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้แก่ การตามกระแสด้วย FOMO จนซื้อบนยอดดอย การถัวราคาโดยไร้แผนเพื่อปลอบความรู้สึกผิด และการ Panic Sell เมื่อราคาดิ่งจนไม่อาจรับความเจ็บปวดได้ วงจรเหล่านี้ไม่ใช่ผลจากตลาดที่โหดร้าย แต่เกิดจากอารมณ์มนุษย์ที่เข้ามาครอบงำการตัดสินใจ นักลงทุนจึงจำเป็นต้องมีแผนก่อนเข้า มีจุดออกชัดเจน และควบคุมอารมณ์ไม่ให้เป็นผู้ขับเคลื่อนพอร์ต หากสามารถเป็น “นายเหนืออารมณ์” ได้ ก็จะเพิ่มโอกาสรอดและเติบโตในตลาดคริปโตที่ผันผวนอย่างยิ่งนี้.

ผลสำรวจจากแพลตฟอร์มการเงิน “400F” ชี้ว่าชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเริ่มถอนตัวจากตลาดคริปโต โดยสาเหตุสำคัญไม่ใช่ความผันผวนของราคา แต่คือภาระภาษีที่สูงถึง 55% และขั้นตอนรายงานที่ยุ่งยาก ทำให้นักลงทุนรู้สึกว่ากำไรไม่คุ้มต้นทุน ขณะเดียวกันผู้ลงทุนส่วนใหญ่ยังมองคริปโตเป็นการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว และกว่า 40% พร้อมกลับเข้าตลาด หากรัฐบาลปรับกฎให้เป็นมิตรขึ้น กรณีนี้สะท้อนว่ากฎระเบียบและภาษีมีผลโดยตรงต่อแรงจูงใจในการลงทุน มากกว่าความผันผวนของสินทรัพย์เอง.

ปฏิบัติการ “Operation Copperhead” เปิดโปงเครือข่ายเหมืองบิตคอยน์ผิดกฎหมายที่แอบใช้ไฟฟ้าหลวงกว่า 3 ปี สร้างความเสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเครื่องขุด 3,642 เครื่อง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งถูกซ่อนไว้ในคอนเทนเนอร์ดัดแปลงพร้อมระบบหล่อเย็นด้วยน้ำเพื่อพรางการตรวจสอบ การสืบสวนพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจีนเทาและแก๊งสแกมเมอร์ในเมียนมาที่ใช้เหมืองเป็นช่องทางฟอกเงินหมุนเวียนระดับหลายพันล้านบาท รัฐบาลสั่งขยายผล ยึดทรัพย์ และร่วมมือข้ามแดนเพื่อทำลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดใหญ่ครั้งนี้.

กรณีพบ Ledger Nano ในคดี “นานา ไรบีนา” ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าอุปกรณ์ถูกยึดเท่ากับเงินถูกยึด แต่ความจริงสินทรัพย์ดิจิทัลไม่อยู่ในตัวเครื่อง แต่อยู่ที่ Seed Phrase ซึ่งผู้ถือสามารถนำไปกู้คืนกระเป๋าได้จากที่ไหนก็ได้ในโลก ข้อมูลบนบล็อกเชนตรวจสอบย้อนหลังได้ แต่จะยึดคืนไม่ได้หากไม่มี Private Key คดีนี้ชี้ชัดว่า ความปลอดภัยของคริปโตขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา Seed Phrase มากกว่าอุปกรณ์ นักเทรดทั้งคริปโตและ Forex จึงต้องมีวินัยในการปกป้องกุญแจเหล่านี้ให้รัดกุมที่สุด.
FXTM
ATFX
XM
DBG MARKETS
TMGM
AVATRADE
FXTM
ATFX
XM
DBG MARKETS
TMGM
AVATRADE
FXTM
ATFX
XM
DBG MARKETS
TMGM
AVATRADE
FXTM
ATFX
XM
DBG MARKETS
TMGM
AVATRADE