บทคัดย่อ:ราคาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อยหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI) ชะลอตัวต่ำกว่าคาด ทำให้นักลงทุนลดการถือทองในระยะสั้นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการอ่อนตัวครั้งนี้เป็นเพียงการพักฐาน ไม่ใช่การเปลี่ยนเทรนด์ขาลง เนื่องจากตลาดยังคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต ทองคำจึงยังมีปัจจัยหนุนเชิงโครงสร้างจากดอกเบี้ยขาลง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และแรงซื้อจากธนาคารกลางทั่วโลก ในระยะยาว ทองคำยังคงถูกมองเป็นสินทรัพย์สำคัญสำหรับการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุน

ตลาดทองคำเมื่อคืนที่ผ่านมาอาจทำให้หลายคนต้องหยุดดูกราฟกันอีกรอบ หลังราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อย ท่ามกลางตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ
สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือราว 0.21% ปิดที่ระดับ 4,364.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การอ่อนตัวครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากแรงเทขายรุนแรง แต่เป็นลักษณะของการ “ปรับพอร์ต” หลังตลาดรับรู้ข้อมูลเงินเฟ้อชุดล่าสุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤศจิกายน ขยายตัวเพียง 2.7% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.1% ขณะที่ CPI พื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ 2.6% ต่ำกว่าคาดเช่นกัน
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนชัดว่าแรงกดดันเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลายเร็วกว่าที่ตลาดเคยประเมินไว้ ส่งผลให้บทบาทของทองคำในฐานะ “เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ” ดูอ่อนแรงลงในระยะสั้น
นักวิเคราะห์จาก City Index มองว่า เมื่อเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว ความจำเป็นในการถือทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อก็ลดลงตามธรรมชาติ นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ทองถูกขายทำกำไรระยะสั้นหลังตัวเลข CPI ประกาศออกมา
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของทองคำยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นขาลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะอีกด้านหนึ่ง ทองยังคงได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังเรื่อง “ดอกเบี้ยขาลง” ในปีหน้า
ข้อมูลล่าสุดยังชี้ว่าอัตราว่างงานสหรัฐปรับขึ้นสู่ระดับ 4.6% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ปัจจัยนี้ทำให้ตลาดกลับมาให้น้ำหนักว่า เฟดอาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นบวกกับทองคำในเชิงโครงสร้าง
สิ่งที่แอดเหยี่ยวอยากชวนคิดคือ การอ่อนตัวของทองรอบนี้เป็นการ “ย่อตามข่าว” มากกว่าการเปลี่ยนเทรนด์ เพราะในมุมมองระยะยาว สถาบันการเงินรายใหญ่ยังคงมองทองคำในเชิงบวกอย่างชัดเจน
ทั้ง JP Morgan และ Bank of America ต่างประเมินตรงกันว่า ราคาทองคำมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2569 โดยมีแรงหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงปะทุเป็นระยะ
สำหรับนักเทรดทอง ข่าว CPI รอบนี้อาจเป็นสัญญาณให้ระวังแรงพักฐานในระยะสั้น แต่ยังไม่ใช่เหตุผลที่จะมองว่าทองคำจบขาขึ้นแล้ว ภาพใหญ่ยังขึ้นกับทิศทางดอกเบี้ย เศรษฐกิจสหรัฐ และความเสี่ยงระดับโลก
ใครเป็นสายเทรดสั้น ต้องจับตาแรงขายหลังข่าวให้ดี
ใครเป็นสายถือยาว การย่อตัวอาจเป็นเพียงจังหวะให้ตลาดหายใจ ก่อนเดินหน้ารอบใหม่
ตลาดทองยังไม่เงียบ และปีต่อไปน่าจะยังเป็นปีที่นักเทรดต้อง “ตื่นตัว” กับโลหะสีเหลืองตัวนี้ต่อไป
โดนหลอกโดนโกง อย่าเก็บไว้คนเดียว แอดเหยี่ยวช่วยได้!
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากการใช้โบรกเกอร์ไม่ว่าจะโดนโกง ถอนเงินไม่ได้ หรือเจอพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใส เราอยากบอกว่า… คุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียว เพื่อให้วงการ Forex เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มาเล่าให้เราฟังหน่อยนะครับ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทีมงานของเราจะนำข้อมูลไปช่วยวิเคราะห์ และจะติดต่อกลับเพื่อดูว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง
คลิกตรงนี้เพื่อเล่าให้เราฟัง : https://forms.gle/YhR5UGA41pZT62Fo8

อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย : https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!


การ “ติดดอยทองคำ” คือภาวะที่นักลงทุนซื้อทองในช่วงราคาสูง ก่อนที่ราคาจะร่วงลงจนเกิดการขาดทุน ซึ่งมักเกิดจากจิตวิทยาการลงทุน เช่น ความโลภและความกลัวพลาด (FOMO) ราคาทองคำโลกมีรอบขึ้นลงตามเศรษฐกิจ เช่น วิกฤตปี 2008 และช่วง COVID-19 ทำให้นักเทรดต้องเรียนรู้การวิเคราะห์จังหวะซื้อขายและควบคุมอารมณ์ บทเรียนสำคัญคือ “ติดดอยไม่ใช่ความล้มเหลว” แต่คือจุดเริ่มต้นของการเข้าใจตลาดและพัฒนากลยุทธ์การลงทุนอย่างมีวินัย

ราคาทองคำร่วงแรงกว่า 5.5% ในวันเดียว สะท้อนภาวะการปรับฐานครั้งใหญ่และทำให้นักลงทุนตั้งคำถามถึงฟองสบู่ทองคำ ทองคำแม้ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในแง่การลงทุนกลับมีความเสี่ยงสูง ทั้งจากความผันผวนและระยะเวลาฟื้นตัวที่ยาวนานกว่า หุ้นหรือคริปโต ดังนั้นผู้ลงทุนควรเข้าใจวัฏจักรตลาด กระจายพอร์ต และไม่เทน้ำหนักทั้งหมดในทองคำ

บทวิเคราะห์ทองคำ

เมื่อคืนวันที่ 21–22 ตุลาคม 2025 ราคาทองคำร่วงแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ดอกเบี้ยเฟดยังสูง ดอลลาร์แข็งค่า ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงขายทางเทคนิค และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงแทน การปรับตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างนโยบายการเงิน สภาพเศรษฐกิจโลก และความผันผวนของตลาดทองคำ แนะนำให้นักลงทุนมองเป็นโอกาสเรียนรู้และประเมินความเสี่ยง แทนการมองเป็นวิกฤต.
EBC
HFM
D prime
Ultima
XM
FOREX.com
EBC
HFM
D prime
Ultima
XM
FOREX.com
EBC
HFM
D prime
Ultima
XM
FOREX.com
EBC
HFM
D prime
Ultima
XM
FOREX.com